"บิ๊กป้อม" ไม่ขัดข้อง เปิดข้อมูลนาฬิกายืมเพื่อน! ป.ป.ช.ยึกยักจ่อส่งตีความ

“บิ๊กป้อม” ไม่ขัดศาลฯ สั่งเปิดข้อมูลนาฬิกายืมเพื่อน ลั่นอยากเปิดนานแล้วจะได้รู้ความจริงเป็นอย่างไร ป.ป.ช.ทำยึกยักส่งศาล รธน.ตีความ อ้างยังมีคำให้การจากบุคคลอื่นด้วย “เศรษฐา” ยันผู้ใหญ่เห็นพ้อง ไม่สังฆกรรม พปชร.-รทสช.ตั้งรัฐบาล “ประวิตร” เมินไม่จับก็อย่าจับบังคับใครไม่ได้ “ผู้กอง” ย้อนคนที่พูดมีอำนาจตัดสินใจหรือไมค์จ่อปากพูดเอามัน “เสี่ยหนู” หนุนพรรคอันดับ 1 ได้สิทธิ์ก่อน ก้าวไกลแซว พท. “พิธา” พูดชัดเจนกว่า “ไม่เอาทหารจำแลง” “จุรินทร์” ฟุ้ง กทม.กระแสดีขึ้น ก้าวไกลดาวกระจายคึกคักทั่วกรุง “ช่อ” ฉะเผด็จการปราบโกงไม่ได้ ดาหน้าถล่มค่าไฟแพงระยับ “เศรษฐา” งัด “ลุงตู่” เพิ่งจะมาคิดได้ตอนนี้ “กิตติรัตน์” ไม่ขวางถ้าประชาชนได้ประโยชน์ “เจ๊หน่อย” ชวนฟ้องรัฐบริหารพัง
ตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้สำนักงาน ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยรายงานการไต่สวนคดีนาฬิกายืมเพื่อน ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า อยากให้นำข้อมูลออกมาเปิดนานแล้ว จะได้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
“บิ๊กป้อม” ลั่นอยากเปิดนานแล้ว
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 22 เม.ย. ที่สถานีรถไฟรังสิต จ.ปทุมธานี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานป.ป.ช. เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดการไต่สวนคดียืมนาฬิกาเพื่อนตามที่นายวีระ สมความคิด ยื่นคำร้องตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารราชการภายใน 15 วันหลังมีคำพิพากษา (21 เม.ย.) ว่า “ผมอยากให้เปิดจะได้รู้ความจริง จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร อยากให้เปิดนานแล้ว ไม่มีปัญหาเลย ผมไม่ได้ไปเอาของใครมา ผมยืมเขามาก็คืนเขาแล้ว” เมื่อถามว่าจะมีผลต่อกระแสพรรค พปชร.ในช่วงเลือกตั้งนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบสั้นๆว่า ไม่มี
ป.ป.ช.ทำยึกยักส่งศาล รธน.ชี้
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.ยังไม่ได้รับคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากศาลปกครองสูงสุด หากส่งมาเมื่อไรสำนักงาน ป.ป.ช.จะสรุปเรื่องส่งให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ลงมติว่าจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวหรือไม่ แต่ปกติถ้าเป็นคำพิพากษาศาล ป.ป.ช.ต้องปฏิบัติตามคำสั่งอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเคยมีคำพิพากษาศาลปกครองให้ ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลในลักษณะเช่นนี้ ป.ป.ช.ก็ปฏิบัติตาม แต่กรณี พล.อ.ประวิตร ป.ป.ช.ยังไม่เห็นคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ ต้องรอดูข้อมูลก่อนว่าเป็นการให้เปิดเผยข้อมูลตามกฎหมายเรื่องใด มีประเด็นใดที่เป็นข้อขัดแย้งทางรัฐธรรมนูญที่อาจต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ รายละเอียดส่วนนี้ ป.ป.ช.ยังไม่เห็น ต้องเห็นคำพิพากษาทั้งหมดก่อน
อ้างยังมีคำให้การจากบุคคลอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตรระบุว่าไม่ขัดข้อง หาก ป.ป.ช.จะเปิดเผยข้อมูลสำนวนคดีนี้ นายนิวัติไชยตอบว่า ยังตอบไม่ได้ว่าจะเปิดเผยข้อมูลหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับมติที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่เป็นผู้ชี้ขาด แม้ พล.อ.ประวิตรจะไม่ขัดข้องให้เปิดเผย แต่ในสำนวนไม่ได้มีแค่ข้อมูล พล.อ.ประวิตรคนเดียว แต่ยังมีคำให้การบุคคลอื่นอีกหลายคน ต้องพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย ส่วนสำนักงาน ป.ป.ช.จะสรุปเรื่องเสนอที่ประชุม ป.ป.ช.ได้เมื่อใด คงต้องรอให้ได้คำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดมาก่อน จึงจะดำเนินการขั้นต่อไปได้

“เศรษฐา” ยันผู้ใหญ่เห็นพ้อง
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ จ.เพชรบูรณ์ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า เป็นความตั้งใจของพรรคเพื่อไทยที่จะแลนด์สไลด์เดินหน้าตั้งรัฐบาลพรรคเดียว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ ก็เห็นด้วย เราคงต่างคนต่างเดินไป ผู้ใหญ่หลายคนไม่มีใครท้วงติงอะไร เมื่อถามว่าเพิ่งมาประกาศถือว่าช้าไปหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า พูดมาตลอดว่าจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่ได้ย้อนแย้งหรือช้าอะไร เมื่อมีการจัดตั้งแล้วเราจะไปร่วมกับพรรคที่มีจุดยืนเดียวกัน เมื่อถามว่าที่ต้องประกาศให้ชัดเพื่อดึงคะแนนจากคนที่สนับสนุนเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า เราพูดความจริงว่าความตั้งใจของเราคืออะไร พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสิน เราแข่งกันที่นโยบาย เราแข่งกันที่ล้มล้างความยากจน ความเสมอภาคของพี่น้องประชาชน
ท้าสู้ที่นโยบายล้มล้างยากจน
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ระบุว่าพรรคเพื่อไทยไม่จับมือกับพปชร.ก็ไม่เป็นไร นายเศรษฐาตอบว่า ไม่เป็นไรท่านมีจุดยืนของท่าน มีนโยบายของท่าน เราสู้กันที่นโยบายและสู้กันว่าใครจะล้มล้างความยากจนของประชาชนได้ดีกว่ากัน เมื่อถามว่าพื้นที่เพชรบูรณ์เป็นพื้นที่ของ พปชร. นายเศรษฐาตอบว่า “ทำไมพี่น้องยังเดือดร้อนอยู่ล่ะครับ เป็นรัฐบาลมา 4 ปีแล้ว ผมคิดว่าพี่น้องเองก็มีจุดยืนที่ชัดเจน มีความต้องการที่ชัดเจน จากการที่ได้พบปะมาก็ชัดเจนว่าเขาไม่มีความสุข เมื่อไม่มีความสุขก็ถึงเวลาที่เข้าคูหาและกาพรรคที่ไม่ใช่พรรครัฐบาล และผมหวังว่าพรรคนั้นจะเป็นพรรคเพื่อไทย”
ให้ ปชช.ตัดสินโฆษณาชวนเชื่อ
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และแคนดิเดตนายกฯ พรรค รทสช. จะขออนุญาตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อใช้งบกลางมาแก้ปัญหาค่าไฟแพง นายเศรษฐาตอบว่า เรื่องความสง่างามในสังคมก็ต้องมีอยู่บ้าง ประชาชนเดือดร้อนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพลังงานมานานแล้ว ท่านเป็นรัฐบาลมานานแล้ว คิดว่าพี่น้องประชาชนตัดสินใจกันได้ว่าอะไรเหมาะสมอะไรไม่เหมาะสม ไม่อยากวิพากษ์ วิจารณ์นโยบายหรือการทำงานของพรรคอื่น เรามีวิธีการทำงานของเรา เดินไปข้างหน้า ส่วนตัวไม่ได้ขัดแย้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ จุดยืนของเราคือการขจัดความยากจน ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม เมื่อถามย้ำว่าหาก กกต.อนุมัติจะมีผลต่อคะแนนเสียงหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสิน นโยบายเราไม่ได้ดูที่ระยะสั้น เราดูระยะยาว พรรคเพื่อไทยมั่นใจอย่างยิ่งในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ การดูแลภาคสังคม มั่นใจและจะเดินหน้าต่อไป
เหน็บเพิ่งจะมาคิดได้ตอนนี้
ต่อมาเวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนวิทยานุกูลนารี อ.เมืองเพชรบูรณ์ พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อชาวเพชรบูรณ์” ช่วยทีมผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ทั้ง 6 เขตหาเสียง มีประชาชนมาร่วมรับฟังจำนวนมาก นายเศรษฐาปราศรัยว่า เราตั้งใจมาแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน ขณะนี้ค่าไฟแพงยอมรับไม่ได้ ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะจัดการเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน และดีเซลต้องต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันหาเสียงกันว่าจะทำให้ค่าน้ำค่าไฟถูกลง ทำไมถึงมาพูดตอนนี้ 8 ปีที่ผ่านมาทำไมไม่ทำ ส่วนที่พรรคคู่แข่งกระแนะกระแหนนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลทำไม่ได้นั้น ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พลังประชาชนมาถึงเพื่อไทย นโยบายดีๆที่นำเสนอต่อประชาชนทำได้เสมอ ดังนั้นเงินดิจิทัลถึงมือพี่น้องประชาชนแน่นอน รวมถึงปัญหายาเสพติด ถ้านายกฯมาจากเพื่อไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการปัญหาทุกเรื่องของยาเสพติดให้หมดสิ้นจากประเทศไทย
ยกสุโขทัยจังหวัดท่องเที่ยวหลัก
จากนั้นเวลา 17.30 น. ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุโขทัย พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ ช่วยทีมผู้สมัคร ส.ส.สุโขทัย ของพรรค นายเศรษฐาปราศรัยว่า ตั้งแต่ออกหาเสียงมา เวทีสุโขทัยเป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุด ต้องขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรค ผู้เป็นที่รักของชาวสุโขทัย สุโขทัยควรได้รับการสนับสนุนให้เป็นจังหวัดท่องเที่ยว ถ้าได้เป็นรัฐบาลสนามบินนานาชาติต้องมา ขยายรันเวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาใช้จ่ายเงินที่นี้ ก่อนถึงเวทีได้เยี่ยมฟาร์มโคเนื้อ แต่ละปีประเทศไทยส่งโคเนื้อไปต่างประเทศ 2 แสนกว่าตัว เป็นยอดของจ.สุโขทัย 80-90% นายสมศักดิ์พูดคุยกับผู้บริหารพรรคเรามีเป้าหมายส่งออกโค 1 ล้านตัว คิดเป็นห้าเท่าของปัจจุบัน แต่ที่เราเปิดตลาดไม่ได้เพราะรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ เรื่องที่ดินทำกินถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะออกโฉนดให้ประชาชนทั่วประเทศ 50 ล้านไร่ เพิ่มพื้นที่ชลประทาน เพิ่มฝายและแหล่งเก็บน้ำ
ไม่ขวาง “ตู่” ขอใช้เงินแก้ไฟแพง
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.คลัง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวระหว่างช่วยนายภัทร ภมรมนตรี ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตดินแดง-พญาไท หาเสียงที่ตลาดกลางดินแดง ที่มีชาวบ้านมาสะท้อนปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ ประกาศแล้วว่าทันทีที่เป็นรัฐบาล จะแก้ปัญหาดังกล่าว ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะขออนุญาต กกต.ใช้งบฯกลางมาแก้ปัญหาค่าไฟแพงนั้น การของบประมาณเวลานี้อาจมีบางฝ่ายวิจารณ์ แต่พรรคเพื่อไทยอะไรที่ทำให้ความทุกข์ประชาชนน้อยลงเราไม่ขัดข้อง แต่เชื่อว่าประชาชนอาจมีคำถามอยู่ในใจว่าเป็นรัฐบาลอยู่ตั้งนานทำไมไม่ทำ ต้องให้ประชาชนเดือดร้อนถึงเริ่มทำ แต่พรรคเพื่อไทยไม่ค้านแน่ ถ้าทำให้ความทุกข์ประชาชนน้อยลง และมั่นใจการชี้แจงรายละเอียดนโยบายต่อ กกต.ไปแล้ว ทีมงานเศรษฐกิจคิดนโยบายนี้มาอย่างละเอียด ขอให้สบายใจ เงินจำนวนนี้ไม่ใช่จะมาซื้อเสียงหรือมาแจก แต่รัฐบาลจะใช้เงินจำนวนนี้ผลักดันเศรษฐกิจไม่แจกเงินกะปริบกะปรอยเดือนละไม่กี่บาท ไม่สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ

“บิ๊กป้อม” นั่งรถไฟไปโคราช
ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 07.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ขึ้นรถไฟขบวนรถเร็ว 135 กรุงเทพมหานคร-อุบลราชธานี ไปยัง จ.นครราชสีมา พล.อ.ประวิตรสวมใส่เสื้อโปโล นุ่งกางเกงยีนส์ มีกองเชียร์มารอรับและตะโกนให้กำลังใจตามสถานีรถไฟรายทาง อาทิ ดอนเมือง ชุมทางบ้านภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ชุมทางแก่งคอย จ.สระบุรี ปากช่อง และนครราชสีมา ช่วยผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา ของพรรคทั้ง 16 เขตหาเสียง ก่อนหน้านี้ช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร และแกนนำพรรค ร่วมพิธีบวงสรวงสวดรับดาวพฤหัสบดี เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนออกเดินทาง
เมิน “เศรษฐา” ไม่จับก็อย่าจับ
พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งเป้า ส.ส.นครราชสีมาว่า ต้องไปถามนายวิรัช รัตนเศรษฐ หัวหน้าทีมภาคอีสาน ขณะที่นายสันติกล่าวแทรกขึ้นว่า อยากได้ ส.ส.ทั้ง 16 เขต เมื่อถามว่า พปชร.อยากปักธงเป็นอันดับ 1 ในภาคอีสานใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “อยากสิครับ ไม่น่าถาม อยากได้แต่ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า อยากให้พี่น้องชาวอีสานเลือกให้ได้ที่ 1” เมื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน ประกาศไม่จับมือกับ พปชร. พล.อ.ประวิตรตอบว่าไม่เป็นไร ว่ากันไป ยังไม่ได้ประกาศว่าจะจับมือกับใครเช่นกัน ส่วนการประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง คือการให้ประชาชนเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันทำแผ่นดินเกิดให้มีความเจริญ ทำงานร่วมกันได้ ส่วนความคิดทางการเมืองใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป บังคับใครไม่ได้
คุยลั่นผลงานวันนี้ไม่มีแล้ง
เมื่อขบวนรถไฟถึงสถานีรถไฟปากช่อง พล.อ.ประวิตรเดินลงจากรถไฟไปทักทาย และรับดอกกุหลาบที่มีผู้มารอให้กำลังใจจำนวนมาก ก่อนกลับขึ้นไปและโบกไม้โบกมือ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทำเรื่องแล้งมา 3-4 ปี วันนี้ไม่มีพื้นที่แห้งแล้งแล้ว เขื่อนลำตะคลองวันนี้ปริมาณน้ำ 70% ไม่มีประกาศภัยแล้งเลย เป็นผลงานของตนที่ทำในนามรัฐบาล ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ตลอดเส้นทางที่มีประชาชนมารอต้อนรับก็รู้สึกดี เมื่อถามว่ามีคนเชียร์ให้เป็นนายกฯ พล.อ.ประวิตรกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “คุณก็เลือกสิ ถ้าเลือกก็ได้ ถ้าไม่เลือกก็ไม่ได้ พูดเฉยๆ ไม่ได้เป็นหรอก จะไปเป็นได้อย่างไร” กระทั่งเวลา 13.00 น. ขบวนรถไฟมาถึงสถานีนครราชสีมา มีกองเชียร์มารอรับจำนวนมาก พร้อมตะโกนเชียร์ให้กำลังใจ ขณะที่ พล.อ.ประวิตรและคณะเดินทางต่อไปยังไปวัดศาลาลอย อ.เมืองนครราชสีมา กราบสักการะหลวงพ่อใหญ่พระประธานในโบสถ์ เจดีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารี ก่อนปล่อยนกและกราบสักการะ พระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฏิ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในวัด พร้อมทำบุญ และรับพรจากพระที่ให้พรให้ได้เป็นนายกฯ
แจก 3 หมื่นครอบครัวเกษตรกร
ที่ตลาดเซฟวัน อ.เมืองนครราชสีมา นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ขึ้นปราศรัยเวทีปราศรัยใหญ่ว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตรประกาศให้เกษตรกรที่จดทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ ให้ครอบครัวละ 3 หมื่นบาท มีทั้งสิ้น 8 ล้านครอบครัว ครอบคลุมเกษตรกรทั่วประเทศ ถ้าเป็นนายกฯจ่ายทันที จากนั้น พล.อ.ประวิตรขึ้นปราศรัยว่า เลือกพลังประชารัฐทั้งคนทั้งพรรคเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง และความยากจน ด้วยนโยบาย ลดราคาแก๊ส น้ำมัน แก้ภัยแล้ง ที่ดินทำกิน นโยบายอีสานประชารัฐ ทำให้อีสานเจริญเติบโต เท่าเทียมกับจังหวัดอื่น ขอประกาศพวกเราทำได้ พร้อมแล้วที่จะรับใช้ประชาชน
“ผู้กอง” ย้อนมีอำนาจจริงหรือ
ที่ จ.นครราชสีมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือพรรค พปชร. กล่าวถึงการจับมือตั้งรัฐบาลว่า ยืนยันและพูดมาเสมอว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องรอผลเลือกตั้ง ฉะนั้นหลายพรรคที่ออกมาปฏิเสธไม่จับมือกับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ วันหนึ่งอยากเป็นรัฐบาลผิดคำพูดตัวเองต่อสาธารณะ ในทางสังคมการเมืองมันจะไม่เหมือนเดิม อยากฝากหลายพรรคที่ออกมาประกาศไม่จับมือกับคนนั้นคนนี้ยังไวเกินไป
เมื่อถามว่านายเศรษฐา ทวีสิน ประกาศแบบนี้ถือว่าปิดประตูแล้วหรือยัง ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “ต้องถามว่าคนที่ออกมาพูดเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ บางคนเวลาไมค์จ่อปากก็พูดเอามัน ลืมไปว่าอ้าว ผมไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจ เรื่องของพรรคเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคตัดสินใจ” เมื่อถามย้ำว่า ร.อ.ธรรมนัสจะเป็นตัวประสานจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า คงต้องช่วยกัน ก่อนปิดหีบ 5 โมงเย็นก็รู้แล้วว่าใครจับมือกับใคร
ปล่อย “ลุงตู่อยู่ไหน” 3 ภาษาถิ่น
วันเดียวกันทีมสื่อสารและประชาสัมพันธ์พรรค รทสช. แจ้งในกลุ่มไลน์สื่อสารของพรรคว่า เตรียมปล่อยเพลง “ลุงตู่อยู่ไหน” อีก 3 เวอร์ชันใหม่ ในรูปแบบภาษาถิ่น เป็นภาษาเหนือ ภาษาใต้ และภาษาอีสานใช้รณรงค์และรองรับการเดินสายหาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะผู้บริหารพรรค เน้นย้ำการจดจำเบอร์พรรค โดยเชื่อว่าจะเข้าถึงพี่น้องประชาชนทุกเพศทุกวัย หลังเคยส่งเพลงลุงตู่อยู่ไหนภาษากลาง ฮิตติดหูจนกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์มาแล้ว

“หนู” หนุนพรรคที่ 1 ตั้ง รบ.ก่อน
ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงท่าทีของพรรคต่อสถานการณ์การเมืองว่า เรายังไม่พิจารณาแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลจนกว่าจะทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการที่ประกาศโดย กกต. ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือทาบทามจากพรรคใด และไม่ได้ตอบรับ หรือจับขั้วกับพรรคใด เราสนับสนุนพรรคที่ได้รับคะแนนจากประชาชนเป็นอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่หากทำไม่สำเร็จพรรคอื่นถึงมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล เราไม่สนับสนุนนายกฯที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน หรือบุคคลที่ไม่ได้ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะจะสร้างปัญหามากมาย ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน และไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวให้มีการยุบพรรค เพราะเป็นการทำลายบรรยากาศการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
“จุรินทร์” คุย กทม.กระแสดีขึ้น
ช่วงสายที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และคณะ ลงพื้นที่ช่วย นพ.พลวิทย์ เจริญพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. หาเสียงมีพ่อค้าแม่ค้ามาทักทายพูดคุยมอบดอกไม้ให้กำลังใจ นายจุรินทร์กล่าวว่า เสียงตอบรับถือว่าดีมาก พื้นที่นี้เราส่งนักการเมืองรุ่นใหม่ คือ นพ.พลวิทย์ หรือ “หมอโนเกีย” เดินรณรงค์หาเสียงใน กทม.มาได้เสียงตอบรับดีขึ้นเป็นลำดับ เชื่อว่าเที่ยวนี้ชาว กทม.จะไม่ทิ้งพวกเรา ผลโพลเราก็ติดตามผลสำรวจทั้งหมด ถ้าดูโดยรวมไม่อยากให้ดูภาพลวงตา คะแนนนิยมของพรรคถือว่าอยู่ในระดับดีถึงดีมาก ยังมีเวลาอีกราว 3 อาทิตย์ สามารถเพิ่มความนิยมขึ้นได้อีก จากนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ ไม่สร้างภาระหนี้หรือภาษีให้ตกอยู่กับคนไทย
“ลุงชวน” เดินตลาดสดพิษณุโลก
ที่ตลาดใต้ ตลาดสดเทศบาลนครพิษณุโลก นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินหาเสียงช่วยนายจักษ์ พันธ์ชูเพชร ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก มีพ่อค้าแม่ค้า และกองเชียร์รอต้อนรับและขอถ่ายรูปร่วมเก็บไว้เป็นที่ระลึก นายชวนกล่าวฝากพ่อค้าแม่ค้าที่มีอาชีพเดียวกับแม่ถ้วน มารดาที่เลี้ยงดูลูก 9 คน และทำให้ได้เป็นนายกฯของไทย ขอให้ประชาชนช่วยเลือกทั้งคนทั้งพรรค เพื่อสานต่อนโยบายเบี้ยผู้สูงอายุที่พรรคเริ่มต้นไว้

ก้าวไกลดาวกระจายคึกคัก
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล ช่วงสุดสัปดาห์นี้ใช้วิธีส่งแกนนำพรรคเดินหาเสียงแบบดาวกระจายทั่วกรุง เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า ที่บริเวณตลาดบางจาก ซ.สุขุมวิท 95 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. และคณะ ไปช่วยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 23 หาเสียง ขึ้นรถแห่ไปตามย่านสี่แยกบางนา เดินตลาดสี่แยกบางนา ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และคณะ ไปช่วยนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 24 หาเสียงที่ตลาดเช้าวงเวียนใหญ่ ต่อมาช่วงบ่าย นายพิธา นายธนาธร และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรค ก.ก. มาบรรจบกันที่บริเวณทางลงบีทีเอส สยามสแควร์ เดินแจกแผ่นพับหาเสียง ชวนประชาชนฟังการปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายที่สามย่านมิตรทาวน์ด้วย
ติ่งส้มย้อนบทเรียนจาก “ทักษิณ”
ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่บริเวณสามย่านมิตรทาวน์ พรรคก้าวไกลจัดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย มีแกนนำพรรคทั้งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค พร้อม 3 แกนนำผู้ช่วยหาเสียง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ น.ส.พรรณิการ์ วานิช และนายปิยบุตร แสงกนกกุล มาร่วมกันพร้อมหน้า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก บนเวทีปราศรัยได้เปิดให้ประชาชนตั้งคำถาม ให้แกนนำ ก.ก.ตอบ โดยมีคำถามที่น่าสนใจจากลุงคนหนึ่ง ถามว่า “จำคำพูดที่ว่าผมรวยแล้วไม่โกงได้หรือไม่ คำนี้ใครพูด แล้วคุณจำลอง ศรีเมือง เชียร์เต็มที่ให้เป็นนายกฯ ใครคนที่จูบแผ่นดิน” น.ส.พรรณิการ์ตอบว่า “คุณทักษิณ” จากนั้นลุงคนเดิมถามต่อว่า “ผมว่าประเทศไทยง่ายนิดเดียวทำเรื่องยากให้ง่าย น้องจะทำอย่างไร ขอถามแค่นี้”
“ช่อ” ชี้เผด็จการปราบโกงไม่ได้
น.ส.พรรณิการ์ตอบว่า สรุปง่ายๆ คือไม่ต้องไปอ้างถึงบุคคลที่ 3 เขาไม่สามารถมาตอบด้วยตัวเอง แต่เรื่องปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันหลายสิบปีมานี้ เราอยู่กับวาทกรรมที่ว่ารัฐประหารปราบนักการเมืองโกง หรือนักการเมืองมันโกงจึงต้องรัฐประหาร แต่บทเรียนพิสูจน์แล้วว่ารัฐประหารไม่ใช่ทางออก ไม่มีวันเป็นข้ออ้างของการจัดการการทุจริต งาช้างไม่งอกออกจากปากหมาฉันใด ความสุจริตก็ไม่งอกออกมาจากเผด็จการ ไม่มีการรัฐประหารไหนจัดการการทุจริตได้ มันแค่เปลี่ยนคนโกงและวิธีการโกง อำนาจทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการคดโกง ยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ก็คดโกงแน่ๆ 100% วันนี้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการโกงไหม นาฬิกาเพื่อนแหวนแม่อยู่ไหน อย่าฝากความหวังการปราบทุจริตไว้ที่คณะรัฐประหาร แต่ฝากความหวังไว้กับรัฐที่เปิดเผยโปร่งใส เปิดให้ประชาชนตรวจสอบได้ทุกเม็ด และนี่คือการจัดการการทุจริตแบบก้าวไกล
แซว พท. “พิธา” พูดชัดเจนกว่า
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถ้าเทียบเรื่องความชัดเจน การประกาศของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พูดชัดเจนกว่านายเศรษฐา ทวีสิน เรื่องการไม่จับมือกับ พปชร. และ รทสช. ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุผลที่เพื่อไทยต้องประกาศออกมา เป็นเพราะกระแสของก้าวไกลพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอาจเป็นการปรักปรำต่อเพื่อไทยรุนแรงเกินไป แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงถือว่าน่ากลัวมากที่จุดยืนทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปเพื่อแลกกับคะแนนนิยม เมื่อถามว่าจากคะแนนนิยมที่ทะยานสูงขึ้น เพื่อไทยกับก้าวไกลจะจับมือตั้งรัฐบาลกันแค่ 2 พรรคได้หรือไม่ นายพิจารณ์ตอบว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ แต่จำนวน ส.ส.ก้าวไกลจะเป็นตัวกำหนดหน้าตารัฐบาลหลังเลือกตั้งแน่ ถ้าอยากให้ทหารออกจากการเมือง ให้กาก้าวไกลให้มากที่สุด ถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจับมือกันแน่นๆได้ ส.ส. 280 คนขึ้นไปจนถึง 300 กว่าคน ก็จบแล้ว ไม่เกี่ยวว่า ส.ว.จะโหวตอย่างไร

“ธร” ไม่กลัวก้าวไกลถูกโดดเดี่ยว
ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงก้าวไกล กล่าวปราศรัยว่า มีคนบอกว่าก้าวไกลจะถูกโดดเดี่ยว ถ้าไปปรับโครงสร้างนู่นนี่ ไปชนกับปัญหาต้นตอ แต่บอกเลยว่าไม่เห็นจะโดดเดี่ยว ดูที่สามย่านมิตรทาวน์วันนี้สิว่าโดดเดี่ยวหรือเปล่า นับวันคนที่มีความคิดก้าวหน้าจะมากขึ้นเรื่อยๆ เราอาจโดดเดี่ยวจากนักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ แต่เป็นเพื่อนกับประชาชนอย่างนี้เอา อีก 20 วัน จะเลือก พวกเราขอพลัง ขอโอกาส กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ถ้าเราเข้าไปแล้วทำอย่างที่เรานำเสนอไม่ได้ เลือกตั้งรอบหน้าเลือกพรรคอื่นได้ นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตย ถ้าทำไม่ได้ไม่มียางอายเสนอหน้าแบบนี้ แล้วมาขอทำต่อๆ วันที่ 14 พ.ค.นี้ เป็นการเลือกระหว่างปัจจุบันอันมืดมิดกับอนาคตที่สดใส ขอโอกาสเลือกก้าวไกลให้ถล่มทลายทั้งสองใบ
อย่าเอาอดีตมากักขังอนาคต
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียง ก.ก. ปราศรัยว่า เราต้องไม่ปล่อยให้ประเทศไทยย้อนไปเหมือนทศวรรษ 2520 ที่บรรดานักการเมืองสยบยอมสวามิภักดิ์ต่อชนชั้นขุนศึกศักดินา และนายทุนผูกขาดเข้าไปขอแบ่งเศษเนื้อข้างเขียงเอามาทำทุนต่อยอดการเมือง พรรคก้าวไกลออกแบบนโยบายกว่า 300 นโยบาย เขาก็บอกว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน ขึ้นมามีอำนาจชนชั้นนำจารีตก็จะเอาออกอีก นี่คือการเอากรอบวิธีคิดอดีตมากักขังอนาคต ไม่ให้เรากล้าคิดกล้าฝันถึงสังคมแบบใหม่ วันที่ 14 พ.ค.นี้ เชิญชวนประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุด มาร่วมกันทลายกรงขังแห่งอดีต เปิดเส้นทางอันเป็นไปได้แบบใหม่ในอนาคต เป็นอนาคตใหม่ที่ต้องการสร้างระบบสวัสดิการ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีศักดิ์ศรี ร่วมกันเลือกพรรคก้าวไกลให้ถล่มทลาย แล้วประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“พิธา” ส่งสารถึงประชาชน 3 กลุ่ม
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นปิดท้ายปราศรัยท่ามกลางผู้เข้าร่วมฟังล้นหลามว่า อยากสื่อสารถึงประชาชนคนไทย 3 กลุ่ม คือ 1.คนที่ยังคิดไม่ออกว่าจะออกมาเลือกตั้งหรือไม่ หากเราคือความเปลี่ยนแปลงที่ท่านถวิลหา 14 พ.ค.เข้าคูหากาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม 2.คนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคไหน ก้าวไกลคือการเปลี่ยนแปลงที่เชื่อถือได้ ตรงปก คือ “มีลุงไม่มีเรา-มีเราไม่มีลุง” และ 3.คนที่ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเลือกพรรคอื่นแล้วผิดหวัง ไม่เป็นไปตามสัญญายืนยันว่ากว่า 300 นโยบายที่ก้าวไกลทำไว้ มีเงินจ่ายและทำได้จริงแน่นอน โดยเฉพาะรัฐสวัสดิการที่ต้องเกิดขึ้น การกาให้ ก.ก.จะทำให้เกิด 9 เปลี่ยน ครั้งประวัติศาสตร์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อาทิ รัฐธรรมนูญของประชาชน เปลี่ยนจากเผด็จการจำแลงเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ ฯลฯ ตามยุทธศาสตร์ การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
“สนธยา” โวยตำรวจชลฯไม่ซื่อ
วันเดียวกัน นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคเพื่อไทยและหัวหน้าทีมเพื่อไทย จ.ชลบุรี กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่า มีผู้สมัครบางคน บางพรรค สั่งการใช้อำนาจรัฐโดยเฉพาะตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐบางคน เลือกปฏิบัติกับพรรคอื่น เช่น คอยติดตามกดดันจับกุม อ้างว่าเพื่อไม่ให้ซื้อเสียง แต่กลับอำนวยความสะดวกหรือเพิกเฉยต่อบางพรรคให้ซื้อเสียง ใช้ตำรวจข่มขู่หรือชักจูง ใช้เงินหรือให้ผู้ประกอบการ ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ หัวคะแนนสนับสนุนพรรคพวกตัวเอง ทำให้ภาพลักษณ์ตำรวจเสียหาย จึงทำหนังสือร้องเรียนถึง ผบ.ตร. ล่าสุด ผบ.ตร.มีหนังสือสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 2 ที่รับผิดชอบโดยตรงจัดกำลังดูแลความเรียบร้อยในเขตชลบุรี และสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจัดกำลังสืบสวนหาข่าวตำรวจที่วางตัวไม่เป็นกลางแล้ว โดยมอบให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบ ควบคุมกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องขอบคุณ ผบ.ตร.อย่างสูง
ทสท.ชวนฟ้องรัฐทำค่าไฟพุ่ง
ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค แคนดิเดตนายกฯพรรคไทยสร้างไทย แถลงเชิญชวนประชาชนลงชื่อฟ้องภาครัฐในความผิดฐานสร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ส่อไปในทางเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟสูงเกินความเป็นจริงว่า ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลมีแนวทางปรับลดค่าไฟฟ้าให้เป็นธรรมไม่เกิน 3.50 บาท/หน่วย ด้วย 3 ขั้นตอน คือ ปรับค่า FT ลดค่าพร้อมจ่าย เจรจากับเอกชนที่รับสัญญาโรงไฟฟ้าเก่าใกล้ปลดระวาง ให้ดำเนินการปลดระวางเร็วขึ้น โรงไฟฟ้าใหม่ที่ยังไม่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ให้ชะลอเวลา COD ออกไปก่อน และสนับสนุนให้เกิดโรงไฟฟ้าชุมชนอย่างจริงจัง ขอชวนประชาชนร่วมลงชื่อฟ้องภาครัฐที่สร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดและขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองในส่วนข้อตกลงกับเอกชนในการสร้างโรงไฟฟ้าที่ยังไม่จำเป็น (ดีมานด์ทิพย์) ให้พักการดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าประเทศจะมีความต้องการจริง
อาสาจะทำให้คนไทยหายจน
ช่วงเย็นที่ลานคนเมือง พรรคไทยสร้างไทยจัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค นายสุพันธุ์ มงคลสุธี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค พร้อมเปิดให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ประชันวิสัยทัศน์ นำเสนอนโยบายการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน คุณหญิงสุดารัตน์ปราศรัยว่า ในฐานะแม่ของลูก 3 คน คิดเหมือนพ่อแม่หลายคนที่ตอบลูกไม่ได้ว่าพวกเขาจะมีอนาคตในประเทศนี้อย่างไร ในฐานะหัวหน้าพรรคเดินทางไปทั่วประเทศได้สัมผัสความทุกข์ของพี่น้องทั่วประเทศ แบกรับความทุกข์ของพี่น้องไว้เต็มหัวใจ จึงตั้งใจใช้ประสบการณ์ 30 ปี มาแก้ทุกข์ให้พี่น้องหายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืนให้สำเร็จ พร้อมนำทีมคนรุ่นใหม่ของพรรคไทยสร้างไทย ขอทำภารกิจครั้งสุดท้ายเพื่อ “สร้างประเทศไทยที่ดีที่สุด ให้คนรุ่นต่อไป”
เพื่อชาติแนะสลายนายทุน–ขุนศึก
ร.อ.จารุพล เรืองสุวรรณ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า เสียงสะท้อนจากประชาชนที่โดนค่าไฟแพงจนน่าตกใจ เรื่องนี้เป็นการเอื้อประโยชน์กันระหว่างนายทุนกับขุนศึกชัดเจน ประเทศ ไทยมีการผลิตไฟฟ้าเพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว แต่เกิดการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมโดยนายทุนรายใหญ่ มีผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเห็นดีเห็นงามและอำนวยความสะดวก ด้วยเหตุผลว่ากลัวไม่มีไฟฟ้าสำรอง รัฐบาลต้องรักษาผลประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่ร่วมกับนายทุนปล้นประชาชน วิธีแก้ไขมีอยู่ทางเดียวคือต้องสลายนายทุนกับขุนศึกที่กินรวบประเทศ ที่ผูกขาดแทบทุกอย่างในสังคม นี่คือหัวใจของปัญหา
“ธีระทัศน์” สิ้นใจเหตุจากมะเร็ง
เวลา 18.10 น.ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 6 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ในวัย 64 ปี สาเหตุจากโรคมะเร็ง ที่นายธีระทัศน์ต้องรักษาตัวมาหลายเดือนแล้ว สำหรับนายธีระทัศน์ เป็นอดีต ส.ส.สุรินทร์ 3 สมัย ก่อนนี้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานที่กระทรวงมหาดไทย และตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ในนามพรรค รทสช.
คุณกำลังดู: "บิ๊กป้อม" ไม่ขัดข้อง เปิดข้อมูลนาฬิกายืมเพื่อน! ป.ป.ช.ยึกยักจ่อส่งตีความ
หมวดหมู่: การเมือง