“บิ๊กตู่” พูดชัดยุบสภาต้นเดือนมีนาคม วันกาบัตร 7 พฤษภาคม 2566 (คลิป)

“บิ๊กตู่” ประกาศยุบสภาฯต้นเดือน มี.ค. วันเลือกตั้ง 7 พ.ค. ตามกรอบ กกต. การันตี กลางวง ครม.ยุบสภาก่อน 23 มี.ค.แน่ กำชับ รมต.อย่าไปทำอะไรผิดกฎหมายเลือกตั้ง “ธนกร” ซัด “โรม” ตรวจสอบจีนเทาทำไป อย่ามั่วดิสเครดิตรับเลือกตั้ง “วิทยา” โอ่พวกแถวสอง-อดีต นปช.แห่ซบ รทสช. “อิทธิพล” ย้ำเลือกทางเดินช่วยงาน “ประยุทธ์” “สาธิต” ยืนยันปักหลักอยู่ ปชป.รับกระแสพรรคไม่ดีดังเดิม แนะ “จุรินทร์” ดึง “มาร์ค” คัมแบ็กช่วยกู้เรตติ้งพรรค “อู๊ดด้า” ทาบ 3 อดีต หน.พรรคลงปาร์ตี้ลิสต์ วงเสวนาเพื่อไทยประจาน “ประยุทธ์” ล้มเหลวรอบด้าน เสพติดอำนาจ ดิ้นรนอยู่รอด ส.ว.เทเสียงท่วมท้นคว่ำทิ้งมติสภาฯ สกัดทำประชามติยกร่างรัฐธรรมนูญ “ชูวิทย์” ทำขึงขังบี้นายกฯปราบโกง เข้าพบ “พีระพันธุ์” ต่อสายจี้แก้สารพัดทุจริต โวมีหลักฐานฮั้วรถไฟฟ้าสีส้ม “เสี่ยโอ๋” โต้โกยทุนไว้เลือกตั้ง ลั่นแจงได้ทุกเรื่อง
หลังจากหลายฝ่ายรอความชัดเจนไทม์ไลน์การยุบสภาฯและกำหนดวันเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกมายอมรับว่าจะประกาศยุบสภาประมาณต้นเดือน มี.ค. ส่วนวันเลือกตั้งเป็นไปตามกรอบเวลาที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. คาดไว้คือวันที่ 7 พ.ค.66

“บิ๊กตู่” ชี้ไทม์ไลน์วันเลือกตั้ง 7 พ.ค.
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน บริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรีกับตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ได้ขยับไมโครโฟนออกห่างจุดที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ พร้อมกับระบุว่า “ใกล้เกินไปแล้ว ลดรังสีหน่อย เพราะรังสีสื่อค่อนข้างแรง” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ผลการประชุม ครม. ว่า ในที่ประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไทม์ไลน์การเลือกตั้ง และการเป็นรัฐบาลรักษาการทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้บ้าง และตนได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ากำหนดการการยุบสภาจะมีภายในเดือน มี.ค.66 ส่วนกรอบเวลาเลือกตั้งเป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศไว้คือ 7 พ.ค.66 เพื่อให้เวลาภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อย ระหว่างนี้ได้ขอให้รัฐมนตรีและ ส.ส.ช่วยกันพิจารณากฎหมายที่คั่งค้างอยู่หากเป็นไปได้ เพราะเป็นกฎหมายสำคัญที่เสนอไปเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการปฏิรูปต่างๆ
ประกาศยุบสภาต้นเดือน มี.ค.
เมื่อถามว่า ขณะนี้จะระบุได้เลยหรือไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันที่ 7 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ต้องมีสิ ทำไมจะไม่มี” เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่าจะเกิดวันที่ 7 พ.ค.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่ กกต.กำหนดมาแล้ว วันนี้ต้องให้เวลา กกต.ทำกฎหมาย ทำกรอบกติกาให้เรียบร้อย เขาขอเวลามาถึงเดือน ก.พ. เมื่อถามว่า แล้วนายกฯจะยุบสภาช่วงไหน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมก็จะยุบของผม” ต่อข้อถามว่า จะยุบช่วงต้นเดือน มี.ค.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ประมาณนั้นแหละ บอกว่าเดือน มี.ค.ก็ มี.ค.สิ และให้เวลาสอดคล้องกับเดือน พ.ค. ให้ ส.ส.มีเวลาหายอกหายใจ ไม่ต้องการไปถ่วงอะไรใคร เพราะถึงอย่างไรก็ทำงานทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยุบสภาหรือไม่ยุบสภา ครม.ต้องประชุมกันเหมือนเดิม และยังต้องรักษาการจนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ มีกติกาหลายอย่างที่ทำได้หรือไม่ได้ ได้ชี้แจงใน ครม.กันแล้ว”
ป้อง กกต.หวังดีเร่งเทอร์โบยุบพรรค
เมื่อถามถึงกรณี กกต.ออกระเบียบการยุบพรรคที่ระยะเวลาจะเร็วขึ้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ว่าไป เมื่อถามย้ำว่า จากประกาศดังกล่าวทำให้พรรคการเมือง ต่างมองกันไปว่าพรรคไหนจะโดนเป็นพรรคแรก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ อย่าทำผิดกันทุกพรรค เรื่องนี้เป็นเรื่องของ กกต. อย่าไปมองอย่างนั้นอย่างนี้ กกต.หวังให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นเรื่องของ กกต.ตนเข้าไปยุ่งไม่ได้ และคิดว่าทุกคนไม่ควรจะไปยุ่งกับเขา ตามกติกาแล้วใครรับผิดชอบตรงไหนให้ทำตรงนั้นดีที่สุด ให้ความเป็นธรรมกับทุกคนทุกพรรคเหมือนกัน
ไม่กลัวของเข้าตัว กรรมดีคุ้มครอง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าระวังของจะเข้าตัวหากทำพิธีไม่ดี กรณีไปขอพรจากพรานบุญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายที่ใน จ.นครศรีธรรมราช ว่า คิดว่าสิ่งที่ทำมาตลอดคิดว่าทำความดี ทำอะไรให้ประเทศชาติมาพอสมควร คิดว่ากรรมดีคงจะคุ้มครองตนได้บ้าง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเคารพนับถือ กราบไหว้ทุกที่ เพราะเป็นคนไทย นับถืออะไรก็นับถือกันไป ความเชื่อ ความศรัทธา ไม่มีอะไรเสียหาย ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรแล้วแต่ สิ่งแรกที่ขอคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ปลอดภัยและขอพรให้ประชาชนทั้งประเทศ มีความสุขมากขึ้นไปเรื่อยๆ และประเทศมีความเข้มแข็ง และท้ายสุดขอให้ตัวเองมีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกายกำลังใจในการทำหน้าที่ ตราบใดที่ยังมีภาระอยู่ก็เท่านั้น เมื่อถามว่า มีการขอพรให้ได้เป็นนายกฯอีกสมัยหนึ่งหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ได้ขอแบบนั้น
รอถกพรรคร่วมฯ–รมต.อย่าทำเสียหาย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า การยุบสภาเป็นเรื่องของนายกฯ แต่นายกฯเปรยทำนองว่าหากจะยุบสภาจะหารือพรรคร่วมรัฐบาล และต้องฟังสัญญาณจาก กกต. เนื่องจากส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ถูกทักท้วง และเรื่องจำนวนราษฎร คิดว่าศาลวินิจฉัยไม่นานแต่น่าจะเกินวันที่ 28 ก.พ.ได้แจ้งให้ ครม.ทราบว่า แม้ยุบสภาไปแล้ว ครม.จะประชุมทุกวันอังคาร ปรับ ครม.ได้ รัฐมนตรีลาออกได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุม ครม.นายวิษณุได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบข้อปฏิบัติ หากยุบสภาฯหรืออยู่ครบวาระแล้ว รัฐบาลต้องอยู่รักษาการไปจนกว่า ครม.ชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ครม.รักษาการไม่สามารถอนุมัติงบฯสำหรับโครงการก่อสร้างหรืองบฯผูกพันได้ไม่ควรมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการใด เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจาก กกต.แล้ว เช่นเดียวกับการอนุมัติงบฯกลาง มีข้อห้ามการประชุม ครม.สัญจร ห้ามแจกเงินให้ประชาชน ห้ามนำเจ้าหน้าที่ของรัฐไปปฏิบัติงานลักษณะที่สร้างความได้เปรียบทางการเมือง ส่วนวันเลือกตั้ง 7 พ.ค.66 ลงตัวและสะดวกที่สุด ตรงไทม์ไลน์ที่ กกต.กำหนดเบื้องต้น ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่า “ผมยุบสภาแน่นอน เราต้องรักษาการไปอีกสักระยะ ทำงานตามปกติ ยุบสภาก่อนสภาครบวาระวันที่ 23 มี.ค.แน่ คำนวณช่วงเวลาให้เพียงพอให้ไปหาเสียงกัน จะเลือกตั้งแล้ว อย่าทำอะไรเสียหายในภาพรวม”
3 มี.ค.ชี้ขาดคำร้องแบ่งเขตเลือกตั้ง
วันเดียวกัน สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประชุมปรึกษาหารือและลงมติกรณี กกต.ได้ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยเพื่อให้เกิดความชัดเจน กรณีการนำจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวณจำนวน ส.ส.ที่แต่ละจังหวัดพึงมี และแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 โดยผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญเห็นควรรับคำร้องและนัดอภิปราย ปรึกษาหารือ ลงมติในเวลา 09.30 น. วันที่ 3 มี.ค. และแจ้งให้ กกต.ทราบ หาก กกต.ประสงค์ชี้แจงเพิ่มเติม ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 24 ก.พ. ส่วนคำร้องของ ส.ส.ภูมิใจไทย ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ในนามหัวหน้าพรรค ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการโยกย้ายนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ผอ.โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 2 เสียงไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายพิธากระทำอื่นใดอันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงในเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการใน สธ.และมีมติเป็นเอกฉันท์ในคำร้องกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ออกแถลงการณ์ในนามเลขาธิการพรรคประชาชาติในเรื่องเดียวกัน มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย

“ธนกร” ไม่หวั่น “โรม” กัดไม่ปล่อยจีนเทา
นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุมีหลักฐานใหม่ว่า ส.ว.ทรงเอ ครอบครองทรัพย์สินโดยมิชอบ รวมถึงตึกที่ทำการพรรค รทสช.ว่า เป็นไปตามกลไกกฎหมายอยู่แล้ว ใครมีข้อมูลใหม่ๆจะมายื่นหลักฐานเพิ่มเติมเป็นเรื่องดีต้องดำเนินการ นายกฯสั่งการตั้งแต่ต้นต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ไม่ใช่เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปพันกันหมดจนทำให้คนอื่นเสียหาย ตรวจสอบไปแต่อย่าพยายามโยงการเมืองดิสเครดิตกันในการเลือกตั้ง นายกฯยืนยันชัดเจนไม่เอาไว้แน่ จัดการเด็ดขาดโดนหมด
“วิทยา” โอ่แถว 2–อดีต นปช.แห่ซบ รทสช.
นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค รทสช. รับผิดชอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับแกนนำ นปช.และคนเสื้อแดง จ.อุดรธานี ขณะนี้คนเสื้อแดงร้อยละ 90 มีอารมณ์เดียวกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. อยู่ตรงข้ามพรรคเพื่อไทย หลุดจากการครอบของพรรค พท.แล้ว ใครคิดว่าพรรค พท.คืออีสาน ไม่ใช่เลย ภาคอีสาน 20 จังหวัด 132 เขตเลือกตั้ง มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เกือบครบทุกจังหวัด สิ้นเดือน ก.พ.จะทยอยประกาศตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานได้ ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะ ส.จ. ไม่กังวลอะไรเพราะกระแสพรรคดีขึ้นตลอดเวลา ยิ่งได้กระแส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯนำพรรค ต้องเคลื่อนไหวในนามพรรคมากขึ้น บางพื้นที่ชื่อพรรคคนจำไม่ได้ แต่จำชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ได้ วันที่ 25 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช.จะปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา เปิดประตูสู่อีสาน มีนักการเมืองแถวสองเดินออกมาอยู่กับเรา เป็นลักษณะนี้หลายจังหวัดทั่วประเทศ
“สมศักดิ์” ไปไหนให้ “สุริยะ” ตัดสินใจ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่มสามมิตรจะย้ายพรรคโค้งสุดท้ายว่า ผ่านวันที่ 7 ก.พ. หมดเวลาแล้วหากรัฐบาลอยู่ครบวาระ เว้นแต่ยุบสภาฯ เราต้องการเป็นผู้แทนฯ ได้บอกนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แกนนำกลุ่มสามมิตรว่าท่านไปไหนตนไปด้วย ไม่ต้องถามแล้วให้นายสุริยะตัดสินใจได้เลย เมื่อถามว่า หากนายกฯยุบสภาฯย้ายพรรคได้ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่รู้สิไปเปิดทางให้เขา ตนไม่ได้เปลี่ยนใจ เพราะยังไม่ได้คุยอะไรเพิ่มเติม ให้นายสุริยะตัดสินใจ การหาเสียงวันนี้อาจไม่ต้องใช้นโยบายอะไรมากมาย แต่ละคนวันนี้ใช้นโยบายหัวหน้าเป็นจุดขาย เคยบอกแล้วว่าพปชร.มีโอกาสเป็นรัฐบาล 99% ยังยืนยัน เมื่อถามว่า พรรค พปชร.เน้นสายกลางในสงครามแบ่งขั้ว จะหาเสียงลำบากหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า หัวหน้าพรรคทุ่มเทและมีความพยายาม ดูหัวหน้าพรรคต่างๆ หาเสียง หัวหน้าพรรค พปชร.สดที่สุด ดูจากเสื้อผ้าสิ เมื่อถามย้ำว่า แบบนี้แล้วจะอยู่ต่อใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวทีเล่นทีจริงว่า “ไม่แน่นะ”
พปชร.ไม่หวั่นระเบียบ กกต.ไล่ทุบ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธตอบคำถามกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 ก.พ. โดย พล.อ.ประวิตรมีท่าทีนิ่งเฉย เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ส่งสัญญาณพร้อมจับมือกับ พปชร. เมื่อถามย้ำว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พร้อมร่วมงานทั้ง พปชร.และพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามเช่นเดิม
นายประสาน หวังรัตนปราณี คณะกรรมการฝ่ายกฎหมายพรรค พปชร.กล่าวถึงการยุบพรรค พปชร.ประเด็นรับเงินบริจาคว่า เรื่องเงินบริจาคไม่ใช่เลย ขณะบริจาคคนบริจาคมีสัญชาติไทย สมบูรณ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา ที่มาของเงินเราไม่สามารถรู้ได้หรอก ใครแสดงความจำนงยื่นบริจาคทำได้หมด เพียงแต่ว่าเป็นคนสัญชาติไทยไม่ใช่คนต่างชาติไม่เชื่อประเด็นว่าระเบียบนี้จะออกมากีดกั้นพรรค พปชร. เพราะออกระเบียบปฏิบัติทั่วไปตามกฎหมายแม่เท่านั้นเป็นปกติ จะไปย้อนหลังคงไม่ใช่ ยืนยันพรรค พปชร.ไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย

เคาะเพิ่มสวัสดิการเอาใจผู้สูงวัย
เมื่อเวลา 15.12 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรค พปชร.มีกรรมการบริหารพรรคและแกนนำพรรค เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง ต่อมาเวลา 18.15 น. พล.อ.ประวิตรกลับไปจากนั้นเวลา 18.25 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคแถลงผลการประชุมว่าที่ประชุมเห็นชอบนโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไปจะได้รับ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไปจะได้รับ 5,000 บาท การประชุมคณะกรรมการฯยังหารือนโยบายด้านพลังงาน ราคาน้ำมันมีแนวคิดจะปรับลดราคาน้ำมัน ปรับโครงสร้างทั้งหมด แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
“อิทธิพล” ย้ำไปอยู่ รทสช.ช่วย “บิ๊กตู่”
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองที่ยืนยันว่าจะไม่ไปกับพรรคเพื่อไทยว่า “ครับ” เมื่อถามว่าจะไปช่วยงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า ก็ทำงานในรัฐบาลนี้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไปช่วย พล.อ.ประยุทธ์กับพรรค รทสช.หรือไม่ นายอิทธิพล ตอบรับเพียงสั้นๆว่า “ครับ” ก่อนขึ้นรถออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที
“สาธิต” รับหลายค่ายจีบยันอยู่ ปชป.
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลพื้นที่ภาคกลางและตะวันออก กล่าวยืนยันจุดยืนสังกัดพรรค ปชป.ไม่ย้ายไปพรรคอื่นว่า หากทิ้งพรรคปชป.ไปในวันที่สถานการณ์ไม่ดีแบบนี้ เหมือนกับเราทิ้งเพื่อน ต้องยอมรับว่าตัดสินใจยากมากในภาวะที่มีเพื่อนๆจากหลายพรรคเข้ามาพูดคุยทาบทามให้ไปอยู่ด้วยกัน ไม่ได้เจาะจงเฉพาะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. แต่สุดท้ายเราต้องยืนหยัดรักษาอุดมการณ์อยู่กับพรรค ที่เป็นสถาบันการเมือง ตำแหน่งทางการเมืองเป็นเรื่องรอง พรรคที่สังกัดสำคัญกว่า ยอมรับว่าวันนี้กระแสของ ปชป.ไม่ได้เป็นที่นิยมเช่นในอดีต เราจึงต้องเป็นทีมที่นำสร้างศรัทธาพรรคให้กลับมา การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนครั้งที่ผ่านมา ปัจจุบันทุกพรรคอ่อนแอ ไม่แน่ใจว่าจะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ แต่ฟังการสะท้อนเสียงจากประชาชน ต่างบอกว่าเบื่อและเสื่อมศรัทธาต่อระบบการเมือง
แนะ หน.ดึง “มาร์ค” กลับมาช่วยพรรค
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรค ตอบรับเข้าร่วมด้วยหรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า เข้าใจว่าอยู่ระหว่างพูดคุย แต่ในภาวะเช่นนี้ใครจะเข้ามาช่วยพรรคโดยทำให้มีคะแนนเสียงมากขึ้นเป็นประโยชน์กับพรรค ผู้บริหารพรรค หรือหัวหน้าพรรค จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปเชิญท่านอภิสิทธิ์ให้กลับมา ท่านจะคิดอย่างไร จะกลับมาหรือไม่เป็นสิทธิของท่าน แต่ผู้นำพรรคต้องไปพูดคุยให้กลับมาช่วยพรรค จะมากหรือน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“อู๊ดด้า” ทาบ 3 อดีต หน.ลงปาร์ตี้ลิสต์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. ปฏิเสธตอบคำถามกรณีนายสาธิตเสนอให้เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคปชป. กลับมาช่วยหาเสียงเรียกกระแสความนิยมพรรค โดยนายจุรินทร์ยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ต่อมาช่วงเย็น ที่พรรค ปชป. นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯส่งสัญญาณในที่ประชุม ครม.จะยุบสภาในเดือน มี.ค.ว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงจะเชิญอดีต 3 หัวหน้าพรรค คือ 1.นายชวน หลีกภัย 2.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ 3.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะเชิญเข้าร่วมรณรงค์หาเสียงให้พรรคต่อไป เพราะอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 ท่าน เป็นบุคลากรที่มีศักยภาพ เปี่ยมด้วยประสบการณ์และมีคุณค่าสำหรับพรรค จะมีส่วนสำคัญช่วยให้พรรคได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้น
“วราวุธ” เปิดตัวขุนศึก กทม. 10 เขต
ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 10 เขต คือ นายพันธุ์ปิติ โพธิ์วิจิตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตมีนบุรี นายวาริช อินทนนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตภาษีเจริญ น.ส.ฐานปนี โปร่งรัศมี ว่าที่ผู้สมัคร เขตจตุจักร พล.ต.หญิงดาวใจ เจิมเจิดพล เขตดอนเมือง นายวราวุธ ลีลานภาศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร เขตดินแดง นายอัศวิน คูร์พิพัฒน์ ว่าที่ผู้สมัครเขตบางขุนเทียน นายณัฐกานต์ สุวรรณะโสภณ เขตปทุมวัน บางรัก สาทร นายฮาซัน วันนุ เขตหนองจอก นายพงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ เขตยานนาวา บางคอแหลม และนายพิเชฐ เดชอรัญ เขตบางเขน และนายจิรชาติ ชายวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 5 เชื่อ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่เปิดตัวเป็นความหวังและโอกาสของพรรค เรามองปัญหาในเมืองหลวง ทั้งปัญหาฝุ่น จราจร คุณภาพชีวิต คะแนนที่มอบให้พรรคไม่ตกน้ำแน่นอน มั่นใจหากดินไม่กลบหน้า ชทพ.ปักธงใน กทม. ได้แน่นอน แต่เป้าหมายพรรคยืนยันได้ ส.ส.ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง
พท.ประจานความล้มเหลว “บิ๊กตู่”
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการเสวนา “คำถามที่ประยุทธ์ตอบไม่ได้ ทำไมถึงอยากไปต่อ” โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 วันที่ 15-16 ก.พ.66 บรรลุวัตถุประสงค์ตรวจสอบเน้นย้ำความล้มเหลว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ 4 มิติ คือ 1.มิติการเมือง เป็นประชาธิปไตยเงินสดหรือธนกิจการเมือง ใช้เงินให้อยู่ในอำนาจและสืบทอดอำนาจ ตั้งแต่จัดทำกติกา แจกกล้วยให้ ส.ส.เห็นร่วมกัน 2.มิติเศรษฐกิจทั้งหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน การกู้เงินพุ่งสูง 3.มิติสังคม เกิดความเหลื่อมล้ำ การบริหารราชการแผ่นดินยึดผลประโยชน์พวกพ้อง หลายเรื่องไม่มีคำตอบ อาทิ การคอร์รัปชัน การส่งส่วย 4.อาชญากรรมไซเบอร์บานเป็นดอกเห็ด พล.อ.ประยุทธ์ต้องมีคำตอบให้สังคม แต่กลับตอบแบบโต้วาที ย้อนความผิดให้รัฐบาลเดิม ทำลาย พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่เคยตอบคำถามชี้แจงประเด็นเหล่านี้
ซัดเสพติดอำนาจ ดิ้นหาช่องอยู่รอด
นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยยอมรับว่าทำผิดพลาด หากอยู่ในอำนาจต่อจะไม่มีทางแก้ไขได้เลย ทั้งไทยไม่มีที่ยืนบนเวทีต่างประเทศ ล้มเหลวดึงการลงทุนจากต่างประเทศ ทำลายหลักนิติธรรม ระบบจัดซื้อจัดจ้างทุกระดับ นโยบายการคลังที่ก่อหนี้สูง การทุจริตในแวดวงราชการ หาก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีก ไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ ไม่สมควรอยู่ต่อไป สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการคือเคลียร์เรื่องทุจริต การใช้อำนาจในทางไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์เสพติดอำนาจ ดิ้นรนเพื่ออยู่ต่อให้ได้ ไล่ดูแต่ละเรื่องที่ทำมีแต่ติดลบ ความเสียหายเต็มไปหมด แต่ขอเวลาอยู่อีก 2 ปีพลิกโฉมประเทศ เมื่อก่อนคงกล่าวว่า คนลงจากหลังเสือไม่ได้ แต่ตอนนี้เป็นวัวอยู่บนหลังเสือ เป็นวัวสันหลังหวะที่อยู่บนหลังเสือ

“เสรีพิศุทธ์” ยื่น ป.ป.ช.ฟัน 2 ส.ว.
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาฯหรือ กมธ.ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยถึงการตรวจสอบกรณีวุฒิสภาตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม เข้ารับราชการ และการได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในคณะ กมธ.ของวุฒิสภาว่า กมธ.ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดี 2 ส.ว. คือ ส.ว.คนที่เป็นข่าวมีความสัมพันธ์กับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ และ ส.ว.นามสกุลดัง น้องชายรองนายกฯคนปัจจุบันเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากมธ.ของวุฒิสภา รวมถึงให้ตำแหน่ง กอ.รมน.ภาคใต้ กินเงินเดือนและได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพิเศษ รวมถึง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ กมธ.ชี้มูล และส่งให้ ป.ป.ช.แล้ว กมธ.-เชิญมาชี้แจงถึง 3 ครั้งแต่ไม่มา แต่ได้ชี้แจงเป็นหนังสือ กมธ.ไม่อยากเสียเวลาจึงสรุปเรื่องและส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ
ส.ว.อภิปรายประชามติยกร่าง รธน.
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน การให้ความเห็นชอบผลการลงมติของสภาฯที่ให้ส่งเรื่องต่อ ครม.เพื่อพิจารณาการทำประชามติการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จากการเลือกตั้งของประชาชน โดยนายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะประธาน กมธ.สามัญพิจารณาการศึกษาการจัดทำประชามติฯรายงานผลการศึกษาดังกล่าวต่อที่ประชุมวุฒิสภาระบุว่ากมธ.คัดค้านการทำประชามติเพราะขัดรัฐธรรมนูญ อีกทั้งคำถามการทำประชามติยังไม่ชัดเจน คำถามเรื่องการตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ปรากฏในเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ อาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญได้ ทำให้ประชาชนไม่เข้าใจในเนื้อหาและข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ขณะที่การจัดทำประชามติดังกล่าวต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการจัดทำประชามติถึง 3 ครั้ง ครั้งละ 5,000 ล้านบาท รวม 15,000 ล้านบาท แม้จะให้เลือกตั้งวันเดียวกับการเลือกตั้ง ส.ส. แต่ต้องแยกหน่วยเลือกตั้งออกมาจากการเลือกตั้ง ส.ส. และมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยโดยเฉพาะ
เสียงแตกทั้งเห็นด้วย–คัดค้าน
จากนั้นที่ประชุมเปิดโอกาสให้
ส.ว.อภิปรายแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดย ส.ว.แสดงความเห็นเป็น 2
ฝ่าย ทั้งฝ่ายสนับสนุนรายงาน กมธ.
ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
และฝ่ายเห็นด้วยกับการส่งเรื่องให้ ครม. เพื่อให้จัดทำประชามติ
โดยฝ่ายไม่สนับสนุนให้เหตุผลว่า
ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราแทนการยกร่างใหม่ทั้งฉบับ
เพราะการทำประชามติอาจเป็นต้นตอสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชนตามมา
และนักการเมืองต้องการใช้เป็นเครื่องมือหาเสียงให้แก่ตัวเอง อาทิ
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ
ส.ว.อภิปรายว่าเป็นห่วงการทำประชามติจะทำให้เกิดความขัดแย้งในหมู่ประชาชนรอบใหม่
การอ้างรัฐธรรมนูญปัจจุบันเป็นฉบับเผด็จการ ไม่เป็นประชาธิปไตย
เอาอะไร
มาวัด มองว่าเหตุผลที่ต้องการล้มรัฐธรรมนูญปี 2560
เพราะเป็นฉบับปราบโกง
ถ้าทุจริตแล้วถูกจับได้จะถูกตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต
จึงต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งฉบับหรือไม่ เพื่อนิรโทษกรรม
ปลดโทษทุจริตให้โกงหนักกว่าเดิม
เสียงท่วมท้นคว่ำทิ้งญัตติแท้ง
ขณะที่ฝ่ายที่สนับสนุนให้มีการทำประชามติยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อาทิ นายคำนูญ สิทธิสมาน นายเสรี สุวรรณภานนท์ มองว่า อำนาจการทำประชามติไม่ใช่ ส.ว.เป็นผู้ชี้ขาด ควรส่งเรื่องให้ ครม.เป็นผู้ตัดสินใจ หาก ส.ว.ขัดขวางการทำประชามติ จะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ ส.ว.ถูกมองแง่ลบมากขึ้น โดนฝ่ายการเมืองหยิบไปเป็นเครื่องมือหาเสียงโจมตี ส.ว. สร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง โดยนายวันชัย สอนศิริ ส.ว.อภิปรายว่า ถ้า ส.ว.เห็นด้วยให้ส่งเรื่องให้ ครม.พิจารณาการทำประชามติ จะมีผลดี 3 ข้อคือ 1.ส.ว.จะมีส่วนร่วมในการแก้รัฐธรรมนูญ ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 2.ได้ภาพพจน์ที่ดีว่า ส.ว.เป็นประชาธิปไตย 3.การเห็นด้วยกับการทำประชามติไม่ให้เสียหายกับ ส.ว.เพราะเป็นอำนาจ ครม.ชี้ขาดการจัดทำประชามติ หลังจากอภิปรายกว่า 3.30 ชั่วโมง ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติไม่เห็นด้วยกับการส่งเรื่องให้ ครม.เพื่อพิจารณาการทำประชามติยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยคะแนน 157 ต่อ 12 งดออกเสียง 13 ไม่ลงคะแนน 1
“เสธ.หิ” พา “ชูวิทย์” พบ “พีระพันธุ์”
เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ถนนพิษณุโลก ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล ขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม โดยนายชูวิทย์ เปิดเผยว่า มีข้อมูลการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐในหลายกระทรวงกว่าหมื่นล้านบาท พร้อมเปิดโต๊ะโหราศาสตร์ ทำนายดวงการเมืองของประเทศว่า “ทุกวันนี้บ้านเมืองเกิดทุจริตคอร์รัปชัน มีชะตาดับ ชะตาตก ชะตาถึงฆาต และชะตาพัง ผมจะไม่เอ่ยถึงว่าพรรคไหนถึงฆาต และพรรคไหนชะตาดับ และพรรคไหนชะตาพัง” จากนั้นนายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มารับตัวพาเข้าไปพบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ และหัวหน้าพรรค รทสช.ที่หน้าตึกบัญชาการ 1 ระหว่างที่นายชูวิทย์เดินเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล นายชูวิทย์กล่าวว่า “นี่คือนายกฯของผม ถ้าผมเข้ามาหานายกฯผมไม่ได้ แล้วจะเป็นนายกฯผมได้ยังไง”
ต่อสายจี้ “บิ๊กตู่” แก้สารพัดทุจริต
จากนั้น เวลา 15.30 น. นายชูวิทย์ให้สัมภาษณ์หลังพบนายพีระพันธุ์ว่า นายพีระพันธุ์ได้ต่อสายคุยกับนายกฯ ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า พนันออนไลน์ กระบวนการยุติธรรม ปัญหารุกที่ดินอุทยานแห่งชาติ และรถไฟฟ้าสายสีส้ม เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าจากนี้ไม่มีการปรับ เจ้าหน้าที่ได้แค่ยึดส่งต่อไปยังกรมศุลกากร ไม่มีโทษปรับ แต่ระยะยาวต้องคุยกับกระทรวงสาธารณสุขไปแก้กฎระเบียบต่างๆ เรื่องพนันออนไลน์ต้องจับให้หมดทั้งเว็บไซต์เล็ก กลาง ใหญ่ เป็นประกาศิตจากข้างใน นั่นคือคำตอบที่ตนได้รับมา เรื่องรุกอุทยานฯชาวบ้านจะได้รับสิทธิ์ให้ดูแลรักษาป่า ถ้าเป็นรีสอร์ตก็จัดการ เรื่องความยุติธรรม การใช้ดุลพินิจต้องมีการตรวจสอบ มีหลักการเหตุผลและกฎหมาย ทุกองค์กรต้องเป็นองค์กรกลางจริงๆ
ยันมีหลักฐานฮั้วรถไฟฟ้าสีส้ม
นายชูวิทย์กล่าวว่า ส่วนกรณีฮั้วรถไฟฟ้าสายสีส้มมีเงินตกหล่นถึง 3 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ก้าวล่วงเข้าไปวิ่งเต้นที่ศาลปกครอง ตนจะนำเอกสารหลักฐานว่า ทำไมตนถึงรู้คำตอบของคดีรถไฟฟ้าสายสีส้มว่า มีการลงคะแนน 27 ต่อ 23 นายพีระพันธุ์ได้รับทราบและนำให้นายกฯไปพิจารณา มีการวิ่งเต้นจำนวนเงินมหาศาล ซึ่งกลับมาสู่กระบวนการการเมืองสีเทา มีการไล่ซื้อคนนั้นคนนี้ และนำมาสู่สังกัดพรรค ทั้งหมดนี้ต้องเลิก เรื่องนี้จะจัดทำเป็นเอกสารเพื่อส่งมาให้นายกฯอีกครั้ง ก่อนการประชุม ครม.นัดสุดท้าย
“เสี่ยโอ๋” โต้หาทุน ลต.แจงได้ทุกเรื่อง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จะเปิดเผยข้อมูลทุจริตของกระทรวงคมนาคมหลายหมื่นล้านที่คิดว่าใช้เป็นทุนหาเสียงว่า เดี๋ยวรอฟังดีกว่า ชี้แจงได้ทุกเรื่อง และขอยืนยันไม่มีเรื่องใช้งบฯกระทรวงคมนาคมไม่ถูกต้อง ไปเกี่ยวกับการเลือกตั้งแน่นอน ไม่มีหรอกครับ ยืนยันว่าไม่มี

ไฟเขียว 396 ล้านซื้อรถกันกระสุน
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติงบกลางปี 66 วงเงิน 396 ล้านบาท จัดซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุน ทดแทนที่ใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนผ่านการใช้งานมานานกว่า 12 ปี สภาพชำรุดทรุดโทรม เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และไม่ปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่ จัดซื้อรถกระบะดีเซลขนาด 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบดับเบิ้ลแค็บ ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันกระสุน ปรับปรุงช่วงล่างและบานพับประตูรองรับน้ำหนักเกราะจำนวน 150 คัน คันละ 2.64 ล้านบาท
นายกฯสั่งเข้ม ตร.ห้ามมีทุจริต
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ของบฯจัดหากล้องบันทึกภาพและเสียง ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย 2565 (พ.ร.บ.อุ้มหาย) ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 22 ก.พ.66 ว่า ตามกฎหมายนี้จำเป็นต้องหาเครื่องไม้เครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้สอดคล้อง ไม่เช่นนั้นจะทำงานไม่ได้ ส่วนการจัดหารถหุ้มเกราะกันกระสุนทดแทนที่ใช้ในพื้นที่จชต. ที่มีอยู่ปัจจุบันมีรูกระสุนเต็มไปหมด จึงให้ไปดูว่าการจัดซื้อจัดจ้างต้องทำให้ถูกต้อง ไม่ทุจริต หากช่วยกันตรวจสอบกัน ช่วยกันจะเรียบร้อย ขอให้ไว้ใจกันให้ได้บ้าง ไม่มีการระบุแบบ ต้องไปดูเองเพราะเป็นการอีบิดดิ้งไม่ใช่หรือ
“วิษณุ” ชี้ พ.ร.ก.อุ้มหายใช้ได้ทันที
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึง พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ที่มีผลบังคับใช้แล้วให้สภาฯเห็นชอบภายในวันที่ 28 ก.พ.ว่า กฎหมายมีผลบังคับใช้ใน 4 มาตรา จะส่งให้สภาฯพิจารณาอีก 2-3 วัน ต้องดูว่าสภาฯพิจารณาทันหรือไม่ หากไม่ได้เข้าสภาฯ พ.ร.ก.จะมีผลบังคับใช้ไปจนนำเข้าสภาฯชุดใหม่ พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้ทันทีอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับเกียร์ว่าง เพราะปฏิบัติตามแบบเก่าก่อนมีกฎหมายตาม ป.อาญา จับต้องมีหมายจับ ขาดอย่างเดียวคือเรื่องถ่ายรูป ที่ตำรวจเสนองบฯ 444 ล้านบาท ซื้อกล้องวิดีโอตัวละ 9,000 บาท ครม.ให้ประมูล e-bidding ทั้งประเทศมีไม่เท่าจำนวนที่ต้องการ
แอมเนสตี้บี้ ยธ.หยุดเลื่อนใช้ ก.ม.
ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.ปิยนุช โคตรสาร ผอ.แอมเนสตี้ ประเทศไทย นำญาติผู้เสียหายจากการทรมานและอุ้มหาย นำโดยนางกัญญา ธีรวุฒิ มารดานายสยาม ธีรวุฒิ นักเคลื่อนไหวที่หนีคดีมาตรา 112 ลี้ภัยไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน กลายเป็นบุคคลสูญหาย ฯลฯ เข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ผ่านนายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ขอให้ยุติเลื่อนหรือขยายระยะเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและอุ้มหายในบางมาตราออกไป น.ส.ปิยนุชเผยว่า ครม.มีมติขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.นี้มาตรา 22-25 ออกไปส่งผลให้ผู้เสียหายไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรม ผู้เสียหายคนอื่นไม่กล้าออกมาร้องเรียน กระทบต่อสิทธิของประชาชน ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในเรื่องความมุ่งมั่นต่อสิทธิมนุษยชน
“ตะวัน-แบม” ยิ้มเห็นเพื่อนพ้นคุก
วันเดียวกัน ทนายความของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม ผู้ต้องหามาตรา 112 ที่อดอาหารประท้วงกระบวนการยุติธรรม เผยแพร่เอกสารรายละเอียดอาการตะวันและแบม ในวันที่ 21 ก.พ.ระบุว่า ตะวันและแบม ได้เล่าด้วยรอยยิ้มว่าได้ติดตามข่าวสารการไลฟ์ในทุกช่องทางที่มีการเผยแพร่การเดินออกนอกเรือนจำของใบปอ ของพรพจน์ และรถพยาบาลไปรับเก็ท หัวเราะไปกับภาพของบุคคลต่างๆที่ออกมากอดให้กำลังใจกัน และเล่าว่า แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ออกจากเรือนจำ พวกเธอมีความสุขมาก เก็ทได้แจ้งมาว่าคิดถึงทั้งคู่ ตอนนี้เก็ทไม่สามารถกลอกตาตามนิ้วมือของหมอได้มองตรงได้อย่างเดียว มือสั่นไม่หยุด และต้องทำซีทีสแกนสมอง แต่ยังยืนยันว่าจะสู้ต่อ และยังไม่หยุดเพื่อต่อสู้เรียกร้องสิทธิตามกฎหมายเพราะหากยังคงมีเงื่อนไขใดๆในการปล่อยชั่วคราวเช่นนี้ “เมื่อศาลปล่อยพวกเราทุกคนออกมาได้ ศาลก็ยังจับพวกเราทุกคนเข้าไปได้ใหม่อีกเช่นกัน”
เชื่อยังเหลือคนยุติธรรมทำสิ่งถูกต้อง
เอกสารของทนายความระบุอีกว่า ผลการประกันเพื่อนๆนักโทษทางการเมืองทุกคนที่ออกมาล่าสุดนั้น พวกเธอได้พูดว่า การที่พวกหนูสามารถติดตามข่าวสารภายนอกได้ ไม่ถูกคุมขัง ทำให้เห็นว่า ยังมีคนในกระบวนการยุติธรรมหลายๆคนที่กำลังพยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง และทำตามกฎหมายอยู่ตลอดมา ตะวันและแบมได้แจ้งว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวเพื่อที่จะออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โดยในการจะไปยังที่หมายนั้นคงต้องใช้เวลาเตรียมตัวอีกสักระยะหนึ่ง เพราะปรากฏว่า ยังมีข้อน่ากังวลหลายอย่างเกี่ยวกับสุขภาพ และสุขภาวะที่อาจทำให้ต้องเสียชีวิตได้ ทำให้ไม่สามารถที่จะออกจากโรงพยาบาลได้ตามที่คาดหมายในวันนี้ แต่เมื่อเตรียมตัวเสร็จและพร้อมจะไปพวกเธอจะแจ้งต่อสาธารณชนเมื่อทราบวันเวลาที่แน่นอนแล้ว โดยตะวันและแบมยืนยันว่าเมื่อเตรียมตัวเสร็จพวกเธอขอไปรอคอยให้เพื่อนทุกคนได้กลับบ้าน อยู่ที่หน้าศาลฎีกา และพวกเธอจะไปโดยความสงบเรียบร้อย จะขอรอคอยอย่างมีความหวัง และขอรอคอยไปตราบเท่าที่ร่างกายของพวกเธอยังไหว
คุณกำลังดู: “บิ๊กตู่” พูดชัดยุบสภาต้นเดือนมีนาคม วันกาบัตร 7 พฤษภาคม 2566 (คลิป)
หมวดหมู่: การเมือง