“บิ๊กตู่” ทัวร์เหนือตอนล่าง รับอยู่มานานคนอาจเบื่อ “อิ๊ง-เศรษฐา” ลุยดอนเมือง

“วิรัช” ปัดอัดฉีด 3 หมื่นกลุ่มเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือน เกทับกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อไทย จี้แบงก์ชาติตอบให้ชัดทำได้หรือไม่ “จั้ม สกลธี” เย้ย พท. ถาม พปชร.ด้วยว่าอยากร่วมไหม “หมอมิ้ง” โต้ครหาสู้ไปกราบไป “สมศักดิ์” คิดใหญ่ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว “อิ๊ง” ไม่หวั่นศัตรูรุมกินโต๊ะ “เสี่ยนิด” ให้รออาหารหลักกำลังมา “บิ๊กตู่” แว่วอยู่ในหู “ลุงตู่อยู่ไหน” รับอยู่มานานคนอาจเบื่อ เจอมือดีขึ้นป้ายต้าน “ค่าไฟแพง” ที่แพร่ “จุรินทร์” ตัดขาดพรรคทุจริต ลั่นไม่เอาลดโทษจำคุก-ติดคุกที่บ้าน “กรณ์” จวก กกพ.ทำหน่อมแน้ม ลดค่าไฟ 2 สตางค์ นิด้าโพลชี้ “อุ๊งอิ๊ง” ครองเรตติ้งชาวศรีสะเกษ พท.ยังคงนอนมาทั้งสองระบบ
หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศนโยบายอัดฉีดกลุ่มเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือน ครอบครัวละ 30,000 บาท จนถูกมองว่าเป็นการออกมาเกทับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย จนถูกตั้งข้อครหาไม่คำนึงถึงวินัยทางการคลัง

“วิรัช” ปัดแจกเงินเกทับเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงนโยบายดูแล 3 หมื่นบาทครอบครัวเกษตรกร 8 ล้านรายว่า ไม่ใช่นโยบายใหม่ แค่เพิ่มวงเงินให้เกษตรกรเป็นทุนทำนา ทำไร่ เมื่อถามว่าการออกนโยบายช่วงนี้คล้ายจะตัดหน้านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท พรรคเพื่อไทย นายวิรัชตอบว่า การจะออกก่อนหรือหลังไม่สำคัญ แต่ถ้าไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนไม่มีรายละเอียดมันก็ใช้ไม่ได้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำอะไรอยู่นโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ออกมา 3 สัปดาห์แล้ว ยังไม่มีความเคลื่อนไหวว่าเรื่องนี้ขอให้ออกมาตอบสังคมว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ได้ หากไปถามเพื่อไทยเดี๋ยวก็มีเงินสกุลใหม่ออกมาอีก ส่วนโพลบางสำนักประเมิน พปชร.จะได้เก้าอี้ ส.ส.แค่ 35 ที่นั่ง ไม่ขอพูดอะไรมากเรามาจากของจริง ทำโพลของตัวเองมาตลอด โคราชอย่างน้อยก็ 12 คนแล้ว รอวันที่ 14 พ.ค. เพราะหักปากกาเซียนมาทุกรอบ
ถาม พปชร.ด้วยอยากร่วมไหม
ที่ตลาดเช้าศิริเกษม เขตบางแค กทม. นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคพปชร. ช่วยนายเอกชัย ผ่องจิตร์ และนายมานพ มารุ่งเรือง 2 ผู้สมัคร ส.ส.กทม.หาเสียง นายสกลธีกล่าวว่า กรณีมีกลุ่มคนมาป่วนเวทีปราศรัย พปชร. แต่ไปช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียงถือเป็นเรื่องที่ย้อนแย้ง อยากให้มีประชาธิปไตยแต่ไปรบกวนการหาเสียงพรรคอื่น ทุกคนควรแข่งขันกันตามกติกา หมดเวลาปั่นวาทกรรมพรรคทหารฝ่ายเผด็จการแล้วให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่า ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยประกาศจะไม่ร่วมรัฐบาลกับ 2 ป. ถือเป็นสิทธิ ต้องถามด้วยว่าเราจะอยากร่วมด้วยหรือเปล่า จุดยืนพรรค พปชร.ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไปรวมกับใครก็ได้เรามีจุดยืนเรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าพรรคไหนแนวทางไม่ตรงกันก็รวมกันไม่ได้ และพรรคที่มีนโยบายทำลายเศรษฐกิจ เราก็ร่วมด้วยไม่ได้
เตือนประชานิยมเคลือบยาพิษ
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า การกำหนดยุทธศาสตร์ให้เลือกพรรคใหญ่เพื่อเอาชนะกันเองไม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างเสนอนโยบายประชานิยมที่เป็นตัวอย่างผิดพลาด เป็นนโยบายสุ่มเสี่ยงต่อความรั่วไหลงบประมาณ และสุ่มเสี่ยงต่อการก่อหนี้สาธารณะในอนาคต เป็นประชานิยมเคลือบยาพิษ สิ่งเหล่านี้ชี้ชัดว่าประชาชนมีความสุ่มเสี่ยงตกอยู่ในสภาพเดียวกับประชาชนของอาร์เจนตินา กรีซและเวเนซุเอลา หวังว่าทุกคนจะเพิ่มวิจารณญาณในการเลือกอย่างเต็มสติปัญญา
พท.ไม่ชะล่าใจผลโพลนำห่าง
นายนพดล ปัทมะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากร่วมลงพื้นที่ปราศรัยกับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยในภาคอีสาน พบว่า ประชาชนตอบรับนโยบายสร้างรายได้ของพรรคอย่างดี ทั้งนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ลดราคาพลังงาน เพิ่มรายได้เกษตกร 3 เท่า ออกโฉนดที่ดิน 50 ล้านไร่ เสียงประชาชนสะท้อนในโพลสำนักต่างๆ ที่พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ ล่าสุดผลสำรวจนิด้าโพล จ.ศรีสะเกษ ความนิยมเพื่อไทยเกินครึ่งไปมาก ถือเป็นกำลังใจ แต่เราไม่ชะล่าใจไม่ประมาทจะเดินหน้าทั้งผู้สมัครและแคนดิเดตนายกฯต่อไปจนถึงวันเลือกตั้ง ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง สังเกตเห็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์มาโจมตีพรรคอื่น ถึงขั้นบิดเบือนข้อมูลโจมตีอดีตรัฐบาลเป็นสาเหตุทำให้ค่าไฟแพง แต่ประชาชนยังคงตั้งคำถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ทำไมไม่แก้ให้เสร็จ
“หมอมิ้ง” โต้ครหาสู้ไปกราบไป
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ลานข้างวัดโสภาราม อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี ของพรรคหาเสียง นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจ กล่าวปราศรัยว่า มั่นใจว่าภายใต้นโยบายพรรคเพื่อไทยจะช่วยเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรภายใน 4 ปี หลายคนบอกว่าพรรคเพื่อไทยสู้ไปกราบไป ยืนยันเรายืนหยัดในระบอบประชาธิปไตย ต่อสู้ยืนหยัดกับฝ่ายประชาธิปไตยมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจำนวนมากถูกดำเนินคดี-คุมขัง สมาชิกพรรคจำนวนหนึ่งบาดเจ็บล้มตาย ช่วงหลังการรัฐประหาร แต่เรายังคงต่อสู้ในกติกาประชาธิปไตยมาตลอด
ชูจุดยืนไม่จับมือฝ่ายเผด็จการ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่า เลือกตั้งครั้งนี้ไม่เพียงแค่เลือกพรรค แต่เป็นการเลือกอนาคตและสิ่งที่ดีกว่าของประชาชน วางรากฐานให้ลูกหลาน หากปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯอยู่ต่อ บ้านเมืองจะไม่ดีกว่าเดิม เรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แค่เรื่องตำแหน่งนายกฯมีตำแหน่งเดียว แต่อยากนั่ง 2 คน ตกลงอำนาจกันไม่ลงตัว เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาต่อไปขอเพื่อไทยส่ง 2 ลุงกลับบ้าน ส่วนการจับขั้วพรรคประกาศชัดมาตลอดคือ 1.หากเพื่อไทยได้คะแนนอันดับ 1 ไม่ว่ากี่เสียงต้องตั้งรัฐบาล 2.คนเพื่อไทยเท่านั้นต้องเป็นนายกฯ 3.นโยบายพรรคเพื่อไทยต้องเป็นนโยบายหลัก ไม่มีความคิดจับมือเผด็จการ หรือพวกที่เคยรัฐประหาร ถ้าเราไปทำอะไรผิดทิศผิดทางจะถูกประชาชนปฏิเสธ พรรคเพื่อไทยสู้มากว่า 10 ปี รู้ดีว่าเรามีหลักพิงเดียวคือประชาชน ไม่เช่นนั้นจมดินไปนานแล้ว จะหักหลังประชาชนได้อย่างไร

“เศรษฐา” ชูพักหนี้-แก้ยาเสพติด
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า ปัญหาสำคัญ จ.ปทุมธานี คือเรื่องหนี้สินของเกษตรกร พรรคเพื่อไทยมีนโยบายพักหนี้ทั้งต้นทั้งดอก 3 ปี รัฐบาลที่ผ่านมาขาดการเอาใจใส่ดูแล ไม่จัดการทุนใหญ่ที่ทำมาหากินบนความยากลำบากประชาชน นายกฯที่มาจากพรรคเพื่อไทยจะนำสินค้าเกษตรไปขายในประเทศต่างๆ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี และคนไทยที่อายุ 16 ปีขึ้นไปจะได้เงิน 10,000 บาทจากนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล คนที่ไม่อยากเกณฑ์ทหาร จะเสนอนโยบายเกณฑ์ทหารด้วยความสมัครใจ ไม่ให้เสียโอกาสทำมาหากิน ขณะที่ปัญหายาเสพติด เราสนับสนุนแค่กัญชาเพื่อการแพทย์ หากเป็นรัฐบาลปัญหายาเสพติดจะถูกบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ มีนายกฯจากพรรคเพื่อไทยนั่งหัวโต๊ะ จัดการให้หมดโดยไม่มีข้ออ้าง
คิดใหญ่ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
ที่ จ.พิจิตร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เทศบาลเมืองตะพานหิน อ.ตะพานหิน วัดสวนโพธิ์ อ.ทับคล้อ และชมรมชาวสากเหล็ก อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ช่วยทีมผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทยหาเสียง มีประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยทั้ง 3 เวทีจำนวนมาก นายสมศักดิ์กล่าวว่า จ.พิจิตร เป็นเป้าหมายที่นักการเมืองจับตามาก เพราะมีตัวเต็งหลายพรรค วันนี้หลายพรรคเริ่มมีความชัดเจนจะร่วมหรือไม่ร่วมกับใคร พรรคเพื่อไทยประกาศชัดในเวที จ.สุโขทัยว่า จะไม่จับมือ พปชร. รทสช. เรายืนยันในแนวทางพรรคที่มีนโยบายเด่นชัด แต่หากได้รัฐบาลผสม นโยบายสำคัญที่ประชาชนอยากได้ก็จะไม่ได้ แต่ละพรรคจะเอาแต่นโยบายตัวเอง จึงต้องเลือกให้แลนด์สไลด์ ชนะทั้ง 250 ส.ว. และเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ให้นโยบายขับเคลื่อนได้ นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าประชาชนเลือกเพื่อไทยจนแลนด์สไลด์ ก็ไม่จำเป็นต้องจับมือกับใคร
“อิ๊ง” ไม่หวั่นโดนศัตรูรุมกินโต๊ะ
เวลา 17.30 น. ที่ตลาดโอโซน เขตดอนเมือง กทม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตดอนเมืองว่า ทุกนโยบายที่ออกมาหวังว่าจะสำเร็จทั้งหมด แก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ลำบากอีกต่อไป เริ่มตั้งแต่รากไปจนถึงการออกดอกออกผล ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้ประชาชน ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยต้องต่อสู้กับอำนาจนอกระบบ ถูกตั้งเป็นรัฐบาลด้วยฝีมือประชาชน แต่ถูกหักทิ้งด้วยปลายกระบอกปืน หวังว่าเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งด้วยปลายปากกาประชาชน 22 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยยอมแพ้ ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สามารถแบ่งใจให้คนอื่นได้ ต้องปิดสวิตช์ ส.ว. และ 3 ป. ประชาชนเท่านั้นคือผู้อนุญาตให้เข้าไปเปลี่ยนแปลงได้ นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท แม้จะเกิดศัตรูมากมายก็ไม่หวั่นไหว แม้จะต้องต่อสู้กับศัตรูมากแค่ไหนจะต่อสู้ในทุกนโยบาย เพื่อให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น
“เสี่ยนิด” ให้รออาหารหลักกำลังมา
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่าปัญหาค่าไฟวันนี้ที่แพงมาก แต่พรรครัฐบาลชุดปัจจุบันกลับเอามาหาเสียง แต่คงไม่ต้องคอยเพราะคิดว่าไม่น่าจะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก นโยบายเศรษฐกิจที่พรรคเพื่อไทยคิดมาไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท อันนี้แค่น้ำจิ้ม อาหารหลักกำลังจะมา ทุกคนกำลังรอคอยวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะถึงมือประชาชนที่มีอายุเกิน 16 ปี ไม่ได้ให้ทีละ 500-1,000 บาทเหมือนรัฐบาลปัจจุบัน ปัญหาใหญ่ที่ประสบมาในหลายจังหวัดภาคอีสานคือ ยาเสพติด ใครค้ายาต้องถูกลงโทษเด็ดขาด แต่คนค้ายาไม่กลัวคุก กลัวถูกยึดทรัพย์ รัฐบาลปัจจุบันแก้ปัญหาไม่ได้ แต่นายกฯจากพรรคเพื่อไทยขอให้คำมั่น จะเดินหน้ายึดทรัพย์ผู้ค้ายาให้ได้เร็วที่สุด นายกฯต้องนั่งหัวโต๊ะจัดการปัญหาให้สิ้นซาก ทราบดีว่า ส.ส.คนเก่านั้นประชาชนอาจยังผูกพันและรักเขาอยู่ แต่ขอให้แยกแยะเรื่องความรักความผูกพันเป็นเรื่องดี แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยมั่นใจจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้าประชาชนไม่เลือกนายสุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง และนายเอกภาพ หงสกุล ผู้สมัคร ส.ส.เขตสายไหม เราก็ได้ ส.ส.น้อยไป 2 เสียง วันนี้รักใครชอบใครให้เก็บไว้ในใจ ขอให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยเข้าสภา ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ

“ตู่-ท็อป” ป๊ะกันที่ดอนเมือง
ที่สนามบินดอนเมือง เวลา 08.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค นายจุติ ไกรฤกษ์ ทีมเศรษฐกิจพรรค เดินทางไปยัง จ.พิษณุโลก ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง-กลางตอนบน ได้แก่ จ.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และแพร่ บังเอิญพบกับคณะของนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ขนลูกพรรคขึ้นเครื่องไปยัง จ.เชียงราย ช่วยลูกพรรคหาเสียงเช่นกัน มีประชาชนทั่วไปให้ความสนใจขอถ่ายภาพร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์และนายวราวุธ โดยนายกฯอวยพรนายวราวุธว่า “ขอให้โชคดี” ทันทีที่คณะของ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงจ.พิษณุโลก ได้เข้าสักการะพระพุทธชินราช วัดพระ ศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล มีแฟนคลับมารอต้อนรับถือป้ายเชียร์ให้กำลังใจจากนั้นทั้งหมดพากันเข้าสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถวายเครื่องไหว้สักการะและดาบคู่
แว่วอยู่ในหู “ลุงตู่อยู่ไหน”
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์และคณะ เดินทางมายังอ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ช่วยผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาค น.ส.รสริน ศรัณย์เกตุ และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หาเสียง พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยว่า “ฝากผู้สมัครทั้ง 3 คนไว้ในอ้อมใจ ตอนนี้เวลาจะนอนมีแต่เสียง “ลุงตู่อยู่ไหน” ในหูตลอด เวลาเหลืออีกไม่กี่วันแล้วอยากให้ทุกคนไตร่ตรองให้ดี ขอให้เลือกในสิ่งที่ถูกต้อง ฝากความรักความสามัคคี โดยเฉพาะความมั่นคง ทุกคนมองแค่เฉพาะทหารตำรวจ ไม่ใช่ แต่ประชาชนคนในชาติสำคัญที่สุดชายแดนถ้าไม่มีทหารจะทำอย่างไร คนไหนที่ชอบว่าทหาร เพราะตัวเองไม่เคยเป็นทหาร แต่พูดเป็นตุเป็นตะ ตนรับไม่ได้
ยอมรับอยู่มานานคนอาจเบื่อ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การบริหารราชการแผ่นดินจำเป็นต้องมีผู้แทนในสภา ถ้าเรามีไม่มากพอ เสียงก็เบาเกินไป ที่ผ่านมาได้ทำหลายอย่างให้ปรากฏแล้ว แต่ยอมรับบางอย่างอาจไม่ดีมากนัก เพราะเป็นรัฐบาลผสม มาจากหลายพรรค แต่ถ้าเป็นของตนและสามารถสั่งคนเดียวได้ คงไม่เป็นแบบนี้ ฉะนั้นต้องทำให้ รทสช. ได้คะแนนมากที่สุดในสภา เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ดีมีประสิทธิภาพในการบริหาร ยอมรับว่าอยู่มานานคนอาจจะเบื่อ ไม่รู้ต้องไปทำหน้าใหม่ไหม “ส่วนบัตรประชารัฐวันนี้ขอให้เรียกว่าบัตรลุงตู่ เพราะลุงตู่เป็นคนเริ่ม และจะทำให้มันดีขึ้น สามารถนำไปกู้เงินค้ำประกันหลักทรัพย์เอาเงินด่วนออกมาได้” ระหว่างปราศรัยอยู่นั้น นายศรัณย์วุฒิประกาศหน้าเวทีว่าประชาชนมารอลุงตู่ 3 ชั่วโมงถ้าไม่รักไม่ศรัทธาไม่มานานขนาดนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขึ้นว่า “ถ้าไม่รักก็ไม่มาเหมือนกัน เราต้องมีน้ำใจให้กัน” นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ชิมทุเรียนพันธุ์ “หลงลับแล” ชื่อดังของ จ.อุตรดิตถ์
ขึ้นป้ายต้าน “ค่าไฟแพง” ที่แพร่
จากนั้นเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาเป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ นางวัลลีย์ ศุภศิริ อายุ 95 ปี มารดาของนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู แกนนำพรรค รทสช. ณ ฌาปนสถานประตูมาร ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ และประชาชนที่มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ระหว่างทำพิธีอยู่นั้น ได้มีกลุ่มต้านนำป้ายไวนิลที่มีข้อความ “ค่าไฟแพงแล้ว แพงอยู่ แพงต่อ คนจะตายเพราะไฟแพง” มาติดบนสะพาน และป้ายบอกทางบนถนนสายยันตรกิจโกศล ในพื้นที่ อ.สูงเม่น เป็นระยะทางยาวตั้งแต่บ้านน้ำชำ จนมาถึงตัวอำเภอ แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สูงเม่น รีบออกมาไล่เก็บป้ายออกไป
“จุรินทร์” ย่ำตลาดที่คลองสามวา
ที่ตลาดหทัยมิตร เขตคลองสามวา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงช่วย น.ส.เกศกานดา อินช่วย ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ขึ้นรถแห่ไปยังหมู่บ้านร่มทิพย์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา ร่วมกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ท่ามกลางกองเชียร์ที่ตามมาให้กำลังใจจำนวนมาก นายจุรินทร์กล่าวว่า การหาเสียงในช่วง 20 วันที่เป็นช่วงโค้งสุดท้ายนี้ เสียงตอบรับต่อพรรคในทุกพื้นที่ทุกภาคดีขึ้น เวลาที่เหลือ 20 วัน ทุกอย่างจะยิ่งดีขึ้น ด้วยการคัดสรรผู้สมัครที่มีศักยภาพ นโยบายที่ตกผลึก และทำได้จริงบนพื้นฐานความรับผิดชอบ นโยบายเราไม่สร้างภาระกับประชาชน เพราะการลด แลก แจก แถม สุดท้ายต้องไปขึ้นภาษีกับชาวบ้าน แล้วก็ต้องไปกู้ ทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องเป็นหนี้เพิ่ม สิ่งเหล่านี้คือนโยบายประชานิยมที่ไม่รับผิดชอบ เราไม่ทำแบบนี้ เชื่อว่าคนไทยอ่านออกว่านโยบายไหนทำได้ ทำไม่ได้ นโยบายไหนหลอกเอาคะแนน
เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ฝั่งธนฯ
ช่วงเย็นพรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค แกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต ร่วมเวที มีสมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนเข้าร่วมคับคั่ง นายจุรินทร์กล่าวปราศรัยว่า เหลือเวลา 3 สัปดาห์ 21 วันจะถึงวันเลือกตั้ง ไปหาเสียงทุกภาคเสียงตอบรับดีขึ้นมาก เราเคยฝ่าวิกฤติต้มยำกุ้ง วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์มาแล้ว ทีมเศรษฐกิจพรรคมีศักยภาพ จะฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโลกได้แน่ เราเป็นพรรคที่ไม่โกง หัวหน้าพรรคทั้ง 8 คนไม่เคยมีคดีติดคุกเพราะทุจริตคอร์รัปชัน ถ้า ปชป.ได้จัดตั้งรัฐบาล จะเดินหน้าประชาธิปไตยสุจริต คดีทุจริตคอร์รัปชันไม่มีอายุความ ไม่มีการลดโทษจำคุก ไม่เอาติดคุกที่บ้าน

“เจ๊หน่อย” เดินจตุจักรขอเสียง
ที่ตลาดนัดจตุจักร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี แคนดิเดตนายกฯพรรคไทยสร้างไทย นำคณะหาเสียงช่วย น.ส.ณิชชา บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พบปะพ่อค้าแม่ขายประชาชนที่มาเดินจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดนัดจตุจักร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่กลุ่มผู้ค้าพากันสะท้อนปัญหาการค้าขายที่กำลังซื้อและสภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่กลับมา คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ยอดขายที่ตกลงต่อเนื่องหลายปี จากสถานการณ์โควิด และปัญหาความขัดแย้ง 2 ขั้ว ทำให้ประเทศไทยไม่ได้รับความเชื่อมั่น เราจึงเสนอตัวเป็นทางเลือก ทางรอดของประเทศ นำชัยชนะกลับมาสู่ประชาชนอีกครั้ง เร่งสร้างโอกาส แก้หนี้ เติมทุน โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขาย สร้างกองทุนเครดิตประชาชน หรือกองทุนคนตัวเล็กขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ติดเครดิตบูโร สามารถกู้ได้ตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท
“ท็อป” ดันศูนย์ปราชญ์ชาวบ้าน
วันเดียวกันที่โรงเรียนแม่ลาววิทยาคม อ.แม่ลาว จ.เชียงราย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ขนแกนนำพรรคช่วยนายวันชัย เจียมวิจักษณ์ นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย หาเสียง นายวราวุธกล่าวว่า พรรคนำนโยบายดีๆมาให้ ไม่โยนภาระให้ลูกหลาน แต่เป็นความยั่งยืนด้วยการผลักดันให้มีศูนย์ปราชญ์ชาวบ้าน ให้เป็นองค์ความรู้กับคนรุ่นต่อๆไป เป็นการหางานหาอาชีพให้กับคนรุ่นใหญ่ หรือผู้สูงอายุ แนวทางของเราคือสร้างรายได้สร้างอาชีพให้กับผู้สูงอายุ ที่อยากช่วยแก้ปัญหามากที่สุด คือเรื่องภัยแล้ง เชียงรายเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีน้ำใต้ดินจำนวนมาก จากนี้ไปทุกหมู่บ้านทุกตำบลจะต้องมีระบบบาดาลขนาดใหญ่ให้ประชาชนได้อุปโภคบริโภค ไม่ต้องกลัวน้ำแล้งกันอีกต่อไป
“เสรีฯ” ขอปักธงถิ่นเก่านาแก
ที่โรงเรียนธารน้ำใจ อ.นาแก จ.นครพนม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยหาเสียงให้นายชาญชัย จำคำปา ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม พรรคเสรีรวมไทย มีประชาชนร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ดีใจที่มาเยือนถิ่นเก่าสมัยรับราชการตำรวจหลายสิบปีก่อน จนได้ฉายาวีรบุรุษนาแก ขณะนั้นพื้นที่นี้เป็นพื้นที่สีชมพู แต่วันนี้พัฒนาขึ้นเยอะแต่ไม่มากเท่าที่ควร หากเทียบกับพื้นที่อื่น แปลว่า 8ปีที่ผ่านมาถูกทอดทิ้ง ประชาชนเคยเจอหน้ารัฐมนตรีของรัฐบาลนี้มาเยือนหรือไม่ พรรคมีนโยบาย 14ข้อ แก้ปัญหาให้ประชาชนได้ทันทีหากได้เป็นรัฐบาล ทั้งการจัดสรรที่ดินให้ประชาชนได้อยู่อาศัยและทำกิน แก้ปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดทั่วบ้านทั่วเมือง เป็นคนจริงพูดคำไหนคำนั้น หากหน่วยงานใดไม่เร่งปราบเสพติด จะย้ายที่ทำงานให้เอง แล้วส่งคนดีมีฝีมือมารับหน้าที่แทน เลือกตั้งครั้งนี้ส่งผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ลงแข่งแทบทุกเขต น่าจะได้คะแนนดีกว่าครั้งที่แล้ว มั่นใจน่าจะมี ส.ส.เขตบ้าง โดยเฉพาะที่ จ.มุกดาหารและนครพนม
เพื่อชาติลุยหาเสียงเชียงใหม่
ที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อชาติ นำโดยนพ.เรวัต วิศรุตเวช ร.อ.จารุพล เรืองสุวรรณ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อชาติ น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ลงพื้นที่ช่วยนายคณาฤทธิ์ สุภาคุณ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ หาเสียงตั้งแต่ อ.แม่อาย อ.ฝาง และ อ.ไชยปราการ ได้รับการตอบรับอบอุ่น รับฟังปัญหาเศรษฐกิจ และผลกระทบจากฝุ่นควัน จากนั้นจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่โรงเรียนฝางชนูปถัมภ์ อ.ฝาง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ กล่าวปราศรัยว่า ที่ฝางมีกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์อยู่จำนวนมาก อยากได้ความเท่าเทียมกันในฐานะประชาชนคนไทยกลุ่มหนึ่งเหมือนกัน พรรคเล็กๆหลายพรรคมีนโยบายดีกว่าพรรคใหญ่ๆบางพรรคด้วยซ้ำ พรรคเพื่อชาติจะเข้ามาช่วยพี่น้องประชาชนจากคนที่ไม่มีความหวังให้มีความหวัง สามารถเดินต่อไปได้ สำหรับปัญหาค่าไฟแพงไม่ต้องเรียกร้องอะไรเลย เราต้องมองไปที่ 3 ป. เพราะเป็นต้นเหตุของทั้งหมด อยู่มา 8 ปีไม่คิดจะแก้ไขปัญหา

“กรณ์” จวก กกพ.ทำหน่อมแน้ม
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) โพสต์ลงเฟซบุ๊กถึงกรณีคณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) มีมติเห็นชอบตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้าวงเงิน 130,000 ล้านบาท ระบุว่า “เอาจริงดิ! เสนอเคาะลดค่าไฟแค่ 2 สตางค์! ยังต้องอ้างว่าลด 7 สตางค์ จากกระแสค่าไฟแพงที่ผมออกมาเรียกร้องเมื่อเดือน มี.ค.จนตอนนี้อนุกรรมการเอฟทีชงบอร์ด กกพ.ให้ลดค่าไฟแล้ว แต่มันน้อยจนน่าเกลียด ขอไม่ใช้คำว่าลด 7 สตางค์ตามข่าว เพราะเดือนนี้จ่ายอยู่ 4.72 เดือนหน้าจ่าย 4.70 นับยังไงก็ 2 สตางค์ (อย่าเอาตัวเลขเดือนหน้ามาหลอกกัน!) เสนอว่ายกเลิกค่าเอฟที 3 เดือนสุดร้อนนี้ ลดไป 93 สตางค์ต่อหน่วย การแก้ปัญหาแบบขอไปทีเช่นนี้ คือเหตุผลที่การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกพรรคที่จริงใจจริงจัง และเสมอต้นเสมอปลายที่จะชนกับ “ทุนผูกขาด” พร้อมติดแฮชแท็กทิ้งท้าย #ลดค่าการกลั่น #หั่นค่า FT #รื้อโครงสร้างเศรษฐกิจ #แก้วิกฤตปากท้อง #งานดีมีเงินของไม่แพง”
“อิ๊ง” ครองเรตติ้งชาวศรีสะเกษ
ขณะที่นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “คนศรีสะเกษเลือกพรรคไหน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-19 เม.ย. จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งใน จ.ศรีสะเกษ ทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวม 600 หน่วยตัวอย่าง พบว่าบุคคลที่คนศรีสะเกษจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ร้อยละ 47.67 เป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 16.50 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 10.50 นายเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย อันดับ 4 ร้อยละ 7.33 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5 ร้อยละ 5.17 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 6 ร้อยละ 3.17 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 7 ร้อยละ 3 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 8 ร้อยละ 2.33 นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย อันดับ 9 ร้อยละ 1.50 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว พรรคเพื่อไทย อันดับ 10 ร้อยละ 1 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชาธิปัตย์
พท.ยังนอนมาทั้งสองระบบ
ส่วนการเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 67.17 เป็นพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 15.83 พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 5.5 พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 4.5 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 5 ร้อยละ 2 พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 6 ร้อยละ 1.67 พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 7 ร้อยละ 1.17 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 8 ร้อยละ 1 ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 1.16 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา ขณะที่การเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ร้อยละ 64.67 ยังคงเป็นพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 16.33 พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 6.17 พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 3.83 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 5 ร้อยละ 2.5 พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 6 ร้อยละ 2.17 พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 7 ร้อยละ 1.33 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 8 ร้อยละ 1 ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 2 เป็นพรรคอื่นๆ ได้แก่ พลังประชารัฐ ชาติพัฒนากล้า ชาติไทยพัฒนา
“อดุลย์” วอนก้าวข้ามขัดแย้ง
ด้านนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวว่า คณะกรรมการญาติวีรชนฯออกแถลงการณ์หนุนการเลือกตั้งสร้างความปรองดอง ออกจากความขัดแย้ง พัฒนาประชาธิปไตย การหาเสียงที่พรรคการเมืองเสนอนโยบายประชานิยมสุดโต่ง เอาชนะทางการเมือง บรรยากาศเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น จนกลายเป็นก๊ก แบ่งขั้ว เลือกข้าง ที่ผ่านมาตลอด 9 ปีรัฐบาลไม่ได้สร้างความปรองดอง ไม่ได้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งเพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง วางรากฐานเพื่ออนาคตคนรุ่นหลัง ความขัดแย้งทางความคิดขยายวงไปถึงคนรุ่นใหม่ มีบางพรรคจะจัดการกับฝ่ายตรงข้ามทางความคิดที่ไม่เห็นด้วยว่าเป็นพวกต่างชาติ ไล่ไปอยู่ประเทศอื่น หากบรรยากาศยังเป็นเช่นนี้ หลังเลือกตั้งยิ่งจะเกิดความแตกแยกขัดแย้งกว่าเดิม อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้บ้านเมืองเข้าสู่วิกฤติอีกครั้ง แม้มีพรรค การเมืองที่พยายามหาทางออกก้าวข้ามขัดแย้ง โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ควรเสนอเป็นรูปธรรมให้ชัดเจนกว่าพูดลอยๆ สังคมจะได้พิจารณาว่าควรสนับสนุนหรือไม่ และขอให้ทุกพรรคมีแนวคิดหรือนโยบายสร้างความสมานฉันท์เพื่อเป็นทางออกให้สังคม
คุณกำลังดู: “บิ๊กตู่” ทัวร์เหนือตอนล่าง รับอยู่มานานคนอาจเบื่อ “อิ๊ง-เศรษฐา” ลุยดอนเมือง
หมวดหมู่: การเมือง