แจ้งเตือนรวมไทยสร้างชาติคุม “สามสี” อาจผิดกฎกกต. ปราศรัยเพลินโยงสถาบัน (คลิป)

แจ้งเตือนรวมไทยสร้างชาติคุม “สามสี” อาจผิดกฎกกต. ปราศรัยเพลินโยงสถาบัน (คลิป)

“บิ๊กตู่” ขนทีม รทสช. ออนทัวร์ราชบุรี ข่มคนที่คิดร้ายให้ระวัง เกิดเหตุชุลมุน หญิงสูงวัยเห็นต่างบุกชู 3 นิ้วใส่ จนท.ปิดปากหิ้วตัวออกจากพื้นที่ “ประยุทธ์” เมินมากันแค่ไม่กี่คน เทียบกับคนแห่รับนับพันนับหมื่น รทสช.เปิดแคมเปญชุด “ไอติม” เลียจนเหลือแต่ด้าม “แด๊ก” โต้ “เศรษฐา” ไม่ก้าวข้ามธุรกิจ พท.จ่อเปิดตัวใหญ่ 400 เขต ที่ มธ.รังสิต กั๊ก “อุ๊งอิ๊ง-เสี่ยนิด” ลงปาร์ตี้ลิสต์ “ประเสริฐ” ยังไหวแม้ขาเจ็บ เลขาฯ กกต.เตือนถึงทุกพรรคห้ามโหนสถาบันหาเสียง ยื่นโนติสหัวหน้า รทสช.ควบคุม “สามสี” เลขาฯ “ไตรรงค์” ของขึ้นแทนจวกกติกาไม่ชัด “สมชัย” บอกไม่พอต้องยุบพรรค ก.ก.ฟุ้งมี ขรก. ส่งเอกสารสาวไส้รถไฟฟ้าสายสีส้ม สงสัยส่วนต่างทอนเข้าพรรคไหน “ชูวิทย์” ขยี้ต่อเอาถึงขั้นยุบ ภท. แถมพ่วงขู่แบล็กเมล์ “เศรษฐา” “ป้าเป้า” แก้ผ้าเจอปรับ 3.4 หมื่น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค การเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ ขนทีมแกนนำพรรคลงพื้นที่ จ.ราชบุรี เกิดเหตุชุลมุนเมื่อมีผู้เห็นต่างเป็นหญิงชรามาชู 3 นิ้วต้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปิดปาก และหิ้วออกไปจากพื้นที่จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์

“บิ๊กตู่” นำทีม รทสช.ทัวร์ราชบุรี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มี.ค.ที่ พล.ม.2 รอ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำคณะได้แก่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรค รทสช. เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจราชการที่โรงเรียนวัดหุบกระทิง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยมีทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี พรรค รทสช. ได้แก่ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี น.ส.กุลวลี นพอมรบดี นายมานิจ นพอมรบดี รวมถึง พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม และเด็กนักเรียนรอต้อนรับ

ข่มคนที่คิดร้ายให้ระวังแล้วกัน

ต่อมานายกฯนำคณะเข้ากราบสักการะพระ ประธานและนมัสการพระมหาสงกรานต์ สนฺติกโร เจ้าอาวาสวัดหุบกระทิง โดยช่วงก่อนจะเข้าอุโบสถ นายกฯได้ลูบหัวสุนัขที่เจ้าของอุ้มมาและพูดว่า “น่ารัก นะลูก” และสอบถามเจ้าอาวาสถึงการเลี้ยงดูกระบือที่มีคนมาถวายวัด แต่เนื่องจากมีคนจำนวนมากทำให้ “เจ้าโควิด” ควายเผือกอายุ 4 ปี เกิดอาการตื่น พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวปลอบว่า “อย่าไปทำอะไรเขานะ พวกนักข่าวไม่มีใครทำร้ายนายกฯหรอก แต่ใครที่คิดจะทำร้ายนายกฯก็ขอให้ระวังก็แล้วกัน คิดดีทำดี” และเดินเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรวิถีพุทธ วัดหุบกระทิง ภายใต้สโลแกน “คุณลุงทำนา คุณป้าทำสวน”

ชุลมุน จนท.ปิดปากคนเห็นต่าง

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เข้าสักการะเจ้าแม่เบิกไพร ณ ศาลเจ้าแม่เบิกไพรและเดินทางมายังศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ปรากฏว่าเกิดเหตุชุลมุนขึ้นเมื่อมีหญิงสูงวัย 1 คน และหญิงวัยกลางคน 1 คนที่เห็นต่างมารอดักขบวนรถนายกฯที่มีกลุ่มผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่ด้วย พยายามตะโกนด่าทอตำหนิการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมชู 3 นิ้ว ทำให้ชาวบ้านที่มารอต้อนรับนายกฯ ขอให้หญิง 2 คนออกนอกพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงนอกเครื่องแบบ 2 คน เข้าไปสกัดและพยายามเอามือปิดปากหญิงสูงวัยเพื่อกันออกไป แต่หญิงสูงวัยไม่ยอม เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปกระชากนำตัวออกมานำตัวขึ้นรถตำรวจ โดยที่หญิงสูงวัยพยายามดิ้นสู้ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้ร่มกางกันสื่อมวลชนบันทึกภาพ ซึ่งสื่อมวลชนพยายามขอเจ้าหน้าที่ใจเย็นๆ อย่าใช้ความรุนแรง ภาพออกมาไม่ดี แต่มีกลุ่มผู้สนับสนุนนายกฯอ้างว่า หญิงดังกล่าวเป็นลม เจ้าหน้าที่ จึงพาไปหาหมอ

ลั่นอยู่มาแปดปีไม่สั่งอะไรโง่ๆ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่งว่า วัตถุประสงค์มาเยี่ยมเยือนดูความเรียบร้อย รัฐบาลอยู่มา 8 ปี หลายคนคงเห็นว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง ประเทศไทยเดินผ่านความยากลำบากมา 8 ปีเต็ม เจอทั้งโควิด-19 สงครามการค้า หนักสุดคือราคาพลังงาน แก๊ส และน้ำมัน ถ้าทำได้ทำไมจะไม่ทำให้ ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ เขาบอกว่าลุงไม่รู้เรื่อง อยู่มาตั้ง 8 ปีจะโง่ไม่รู้เรื่องเหรอ ไม่ได้โง่เกินไปนักหรอก ครม.มี 36 คน 20 กว่ากระทรวง ข้าราชการกี่หมื่น กี่แสนคน คณะทำงานร้อยกว่าคณะ แต่ละเรื่องไม่ใช่สั่งโง่ๆ ต้องฟังความคิดเห็น ไม่ใช่เป็นนายกฯแล้วสั่งได้หมด แต่ต้องสั่งในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นธรรม ไม่ทุจริต เข้าใจคำว่าทุจริตไหมบางคนไม่เข้าใจ ทุจริตคืออะไรไม่รู้ โกงเวลาราชการก็ถือว่าทุจริตแล้ว ไม่มาทำงาน นอนอยู่บ้านไม่ได้ป่วย แต่ขี้เกียจมา นี่ก็เบียดบัง แซงคิวเขาก็เรียกว่าโกงเวลาคนอื่น พูดมากเดี๋ยวก็โดนด่าอีก เมื่อกี้ยังมีไม่รู้เป็นอะไรมือมี 3 นิ้ว มันหายไปไหน 2 นิ้ว ฝากหมอดูด้วยว่าอีก 2 นิ้ว เป็นอะไรต้องมีปัญหาอาการอะไรสักอย่าง

ไม่ชอบคนที่ทำให้คนเกลียดกัน

จุดต่อไป พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปที่วัดใหญ่นครชุมน์ เยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวไทยเชื้อสายรามัญ พูดคุยกับคุณยายสุขวรรณ เที่ยงธรรม อายุ 91 ปี จาก จ.เชียงใหม่ และลูกสาวบอกว่าเป็นผู้แต่งเพลง “ฉันรักลุงตู่” และกล่าวกับคนที่มารอรับว่าคนไทยต้องรักสามัคคีกัน ไม่ว่าเชื้อสายอะไร ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในกระบวนการประชาธิปไตย ขอให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำให้ดีขึ้น หลายอย่างวางกรอบไว้หมดแล้ว เราเดินมาเลยครึ่งทางแล้วผ่านมาหลายเหตุการณ์ เลือดตาแทบกระเด็น ไม่ชอบคนที่ทำให้คนเกลียดกัน มันเป็นบาป

เมินคนเห็นต่างมากันไม่กี่คน

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มต่อต้านมาชู 3 นิ้วว่า อย่าไปสนใจจะเห็นต่างสักกี่คน มา 3 คน ไม่สนใจอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่เขาก็ดูแลดีไม่ใช่หรอ เมื่อถามว่าอาจเจอเหตุการณ์เช่นนี้อีก พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า สื่ออย่าไปคุ้ยหรือให้ความสำคัญ เมื่อถามว่าแต่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงเกินเหตุไปหรือไม่ นายกฯตอบว่า “รุนแรงตรงไหน ไม่เห็นนี่ รุนแรงอย่างไร” เมื่อผู้สื่อข่าวอธิบายว่ามีการกระชากและลากตัว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเสียงดังว่า “อ้าวก็ฝ่าฝืนและทำผิดกฎหมายหรือเปล่า เขาห้ามแล้วไม่เชื่อฟัง เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้วิธีการอื่น ไม่เข้าใจทำไมต้องทำในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ห้าม วันนี้ผมมาทำให้กับคนเป็นพันเป็นหมื่น แล้วเขาเสียประโยชน์หรือไม่” หลังพูดจบ พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นไปนั่งบนรถก่อนลดกระจกลงมาพูดย้ำกับผู้สื่อข่าวอีกว่า “คำถามแบบนี้อย่าถามกันอีกนะ คนมาเป็นหมื่นคนกับคนแค่ 3 คน”

ปลื้มปาฐกถางาน Trade Winds

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่โรงแรมอวานี ริเวอร์ไซด์ ถนนเจริญนคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวปาฐกถาในงาน Trade Winds Business Development Forum จัดโดยสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทยว่า ยินดีที่สหรัฐฯเลือกจัดงาน Trade Winds ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเลือกไทยเป็นศูนย์กลาง รัฐบาลพร้อมร่วมมือและสร้างระบบนิเวศให้เอื้อต่อการลงทุน การจัดงานครั้งนี้ตรงกับการครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสหรัฐฯ 2 ปีที่ผ่านมามีความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างใกล้ชิด โดยไทยให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจบีซีจี ตามที่ประกาศไว้ในงานเอเปก และสหรัฐฯที่เป็นเจ้าภาพจัดเอเปกปีนี้ก็ดำเนินการแนวคิดดังกล่าวต่อ ยืนยันเราจะร่วมมือกับสหรัฐฯและประเทศหุ้นส่วนในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโดแปซิฟิก

หวังจับมือสหรัฐฯ พัฒนา 3 มิติ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า การมองไปที่ความเป็นหุ้นส่วนไทย-สหรัฐฯ เห็นความร่วมมือใน 3 มิติ คือ 1.การเสริมสร้างอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน เพราะมีโครงสร้างภูมิศาสตร์ และการอำนวยความสะดวกที่หลากหลายให้เอกชน 2.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวและพลังงานสะอาด และ 3.การเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล ด้วยการพัฒนาบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ขอให้เชื่อมั่นว่าไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างการดำเนินธุรกิจอย่างสมดุลเข้มแข็งต่อไป

รทสช.เปิดแคมเปญชุด “ไอติม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค รทสช. เตรียมเปิดแคมเปญใหม่ในชื่อชุด “ไอติม” ภายใต้แนวคิด “มา 100 ได้ 100” เป็นแคมเปญใหญ่ของพรรค มีเนื้อหาคลิป “ไอติม” เปรียบเทียบโครงการสวัสดิการให้เงินช่วยเหลือประชาชนในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กับโครงการประชานิยมในอดีต เพื่อสื่อให้เห็นว่าโครงการประชานิยมในอดีตกว่าจะถึงมือประชาชนต้องถูกคนกลางเบียดบัง หักส่วนแบ่ง เก็บหัวคิว เหมือนที่เกิดกับหลายๆโครงการที่ผ่านมา คล้ายไอติมหนึ่งแท่งกว่าจะถึงมือประชาชนก็ถูกกัดกินจนเกือบหมด เหลือเนื้องานติดไม้เล็กน้อย บางโครงการเหลือเพียงไม้ไอติม ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ในคลิปยังเน้นย้ำโครงการที่ พล.อ. ประยุทธ์ทำ เช่น โครงการเราชนะ คนละครึ่ง ม.33 เรารักกัน เราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น

โต้ “เศรษฐา” ไม่ก้าวข้ามธุรกิจ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ฯ กล่าวตอบโต้นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ เน้นแต่เรื่องความมั่นคงว่าการที่นายเศรษฐามองแต่เรื่องความมั่งคั่ง ผลลัพธ์ที่ได้คือความล้มเหลว เหมือนอดีตที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำไว้ จากการทำนโยบายขายฝัน จ้องแต่หาเสียง จนท้ายที่สุดกลายเป็นมรดกหนี้ มีการทุจริตคอร์รัปชันมากมาย การประกาศเข้าสู่การเมืองเต็มตัวก็แค่ลางานชั่วคราว น่าจะเป็นการเมืองช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อมาสร้างภาพให้พรรคเพื่อไทยแค่นั้น จึงยังสลัดไม่หลุดจากความคิดของนักธุรกิจที่มองแต่เรื่องความมั่งคั่ง ร่ำรวย กำไร ขาดทุน จนลืมนึกถึงภาพรวมของความมั่นคงของประเทศ

พท.เปิดผู้สมัคร ส.ส.เพิ่ม 11 คน

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. ร่วมเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส.ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางและ กทม. รวม 11 คน ประกอบด้วย นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตาก นายศราวุธ เพชรพนมพร นางหทัยรัตน์ เพชรพนมพร นพ.ภาณุ พรวัฒนา นายวัชรพล ขาวขำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี นายชัชวาล พรอมรธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น น.ส.ขานิฐานันท์ เทียมประเสริฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สระบุรี นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย นายนิธิพล บุญเพ็ชร นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ และนายอรรฆรัตน์ นิติพน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.

เปิดตัวใหญ่ 400 เขตที่ มธ.รังสิต

นพ.ชลน่านกล่าวว่า วันที่ 17 มี.ค. พรรคเพื่อไทยจะจัดงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ที่ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต พร้อมกัน เพื่อแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจว่าผู้สมัครของเรามีความพร้อมตอบสนองความต้องการ เข้าถึงพื้นที่ เข้าใจประชาชน ที่สำคัญว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการสรรหาตามกฎหมาย พร้อมประกาศรายชื่อไปยังเขตแต่ละจังหวัด ยอมรับว่าการแข่งขั้นครั้งนี้สูงมาก แต่มั่นใจว่าเมื่อเราสื่อสารนโยบายที่ชัดเจนออกไปจะเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่างๆได้ และทำให้ประชาชนลงคะแนนให้กับผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ นอกจากนี้จะประกาศนโยบายเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยเกิน 310 บวกๆ แต่ยังไม่ถึงเวลาเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ในวันนั้น เราจะประกาศตัวเมื่อมีการยุบสภาฯ ซึ่งเหลือเวลาไม่อีกกี่วัน

กั๊ก “อุ๊งอิ๊ง-เสี่ยนิด” ลงปาร์ตี้ลิสต์

เมื่อถามว่าจะเปิดตัว ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า ในส่วนของบัญชีรายชื่อยังต้องผ่านกระบวนการสรรหาจากประชาชนก่อน จะประกาศหลังยุบสภาฯเช่นกัน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะเป็นที่คนเข้าไปทำงานในสภาฯ คนที่ทำงานในระดับรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องอยู่ในบัญชีรายชื่อ แต่ถ้าเขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความรู้ ความสามารถ จะได้อยู่ในลำดับต้นๆ ส่วนจะมีชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อยู่ในบัญชีรายชื่อด้วยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการสรรหาจะพิจารณา ไม่มีกฎหมายบังคับไว้ แต่ส่วนตัวมองว่าต้องดูความเหมาะสมอีกครั้ง

“ประเสริฐ” บอกยังไหวแม้ขาเจ็บ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงความคืบหน้าอาการเจ็บ หลังพลัดตกเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.พิษณุโลก ว่า เข้ารับการตรวจอาการที่ รพ.พระราม 9 แล้ว หมอระบุว่าข้อเท้าขวาแตกร้าวแต่กระดูกข้อเท้าไม่ได้เคลื่อน จึงต้องใส่เฝือกอ่อน ขอไม่ให้เดินหรือเคลื่อนไหวประมาณ 1 สัปดาห์ ยังต้องใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงตัวอยู่บ้าง สำหรับอาการโดยรวมข้อเท้าขวายังบวม รู้สึกเจ็บบ้างเวลาเดินหรือเคลื่อนไหว แต่ยืนยันว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน คาดว่าจะไปร่วมงานแถลงนโยบายและเปิดตัวผู้สมัครของพรรคทั้ง 400 เขตได้

“เจ๊หน่อย” แจกบัตรเครดิตตั้งตัว

ที่ตลาดโกสุมรวมใจ เขตดอนเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายการุณ โหสกุล แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่พบปะพ่อค้าแม่ค้า สอบถามถึงการค้าขายและภาระหนี้สิน คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทยยังสูงถึงเกือบร้อยละ 90 ต่อจีดีพี รายได้ประชาชนไม่เพียงพอต่อรายจ่าย โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้น้อย ที่รายได้ฟื้นตัวช้ากว่ากลุ่มคนรายได้สูง พรรคไทยสร้างไทยจึงมีมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับพี่น้องคนไทย จะพักหนี้และเติมทุนให้กลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กที่เป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นเวลา 3 ปี พักดอกเบี้ย 2 ปี เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงมีกองทุนคนตัวเล็ก การมอบเครดิตให้ประชาชนใช้ล้างหนี้นอกระบบ ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีคนจนเกิดขึ้นมากมาย ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสูงถึง 20 ล้านคน พรรคไทยสร้างไทยขอประกาศว่าจะไม่แจกบัตรคนจน แต่ขอแจก “บัตรเครดิตประชาชน” เป็นเงินด่วนประชาชน ใช้ล้างหนี้นอกระบบ เป็นทุนตั้งตัวและเป็นหลักประกันทางการเงินตลอดชีวิต มั่นใจช่วยฟื้นเศรษฐกิจชุมชนให้หมุนเวียน ไม่สูญเปล่าเหมือนการแจกเงินแบบประชารัฐ ประชานิยม

“จุรินทร์” ขอความชัดเจน กกต.

ที่โรงแรมพูลแมน King Power นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ว่า กกต.ต้องช่วยดูเรื่องการแบ่งเขตให้มีความยุติธรรม ไม่ให้เป็นประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ควรยึดไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ วันที่ 16 มี.ค. มีไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ จ.สกลนคร เพราะเป็นพื้นที่เป้าหมาย มั่นใจว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชน วันที่ 18 มี.ค. ไป จ.นราธิวาส วันที่ 19 มี.ค. ไป จ.ยะลา

ทีม กทม.ผุดแก้ปัญหาฝุ่นพิษ

ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ร่วมแถลงแนวทางการประกาศสงครามกับฝุ่น PM 2.5 กำหนดเขตควบคุมมลพิษใจกลางเมือง 16 เขต และการแก้ไขปัญหาเพื่อเดินหน้าจัดการจนกว่าจะได้อากาศสะอาดไว้หายใจ นายองอาจกล่าวว่า พรรคเล็งเห็นความสำคัญของปัญหา PM 2.5 จึงหามาตรการและแนวทางต่างๆ เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่ยังพบว่าการแก้ไขปัญหายังไม่สามารถทำได้เท่าที่ควร ด้วย 3 สาเหตุคือ 1.ผู้บริหารที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ยังมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้อง 2.ไม่จริงจังกับมาตรการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในการบังคับใช้กฎหมาย 3.ไม่พยายามหามาตรการ หรือแนวทางแก้ไขให้ทันกับปัญหา PM 2.5 ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน พรรคจึงมอบหมายให้นายสุชัชวีร์ ศึกษาตามกระบวนการ ฟัง-คิด-ทำ ร่วมกับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อกำหนดแนวทางมาตรการแก้ไขปัญหานี้

“แสวง” เตือนห้ามโหนสถาบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงนามในหนังสือเมื่อวันที่ 10 มี.ค. แจ้งต่อหัวหน้าพรรค การเมืองทุกพรรค เรื่องการควบคุมและกำกับดูแลมิให้สมาชิกพรรคกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ด้วยพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 22 กำหนดให้คณะกรรมการ และกรรมการบริหารพรรค มีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลมิให้สมาชิกพรรคกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของ กกต. เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. หรือให้มีการเลือก ส.ว. คณะกรรมการบริหารพรรค และกรรมการบริหารพรรค มีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลมิให้สมาชิกพรรค หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรค กระทำการในลักษณะที่อาจทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรืออาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

ย้ำทุกพรรคให้กำชับสมาชิก

นายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้พรรคการเมืองปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงขอให้แจ้งสมาชิกพรรคปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ รวมตลอดทั้งระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของ กกต. โดยเฉพาะระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนของการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง และเมื่อความปรากฏให้คณะกรรมการบริหารพรรค มีมติหรือสั่งการให้สมาชิกพรรคยุติการกระทำนั้นโดยพลัน และกำหนดมาตรการหรือวิธีการที่จำเป็น เพื่อมิให้สมาชิกพรรคผู้ใดกระทำการอันอาจมีลักษณะดังกล่าวอีก แล้วแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายในเจ็ดวัน หากไม่ปฏิบัติตาม นายทะเบียนพรรคการเมืองจะเสนอให้ กกต. พิจารณามีคำสั่งให้ กก.บห.พรรคนั้นพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และห้ามดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองจนกว่าจะพ้นเวลา 20 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง

ยื่นโนติส รทสช.ควบคุม “สามสี”

เลขาธิการ กกต. ยังลงนามในหนังสือส่งถึงหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เรื่องการควบคุมและกำกับดูแลมิให้สมาชิกพรรคกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย มีรายละเอียดว่า ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2566 นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ได้ปราศรัย ณ สนามหน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา ช่วงหนึ่งได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง นายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของนายไตรรงค์ สมาชิกพรรครทสช. อาจกระทำการฝ่าฝืนระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. ในส่วนของการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ขอให้ควบคุมและกำกับดูแลมิให้นายไตรรงค์ กระทำการอันอาจเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ รวมถึงระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของ กกต.

เลขาฯของขึ้นแทนจวก กกต.

ขณะที่นายวินท์ สุธีรชัย สมาชิกพรรค รทสช. เลขาประจำตัวนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี โพสต์เฟซบุ๊กภายหลังทราบว่านายแสวงลงนามในหนังสือดังกล่าวว่า การระบุว่านายไตรรงค์อาจทำผิดระเบียบ กกต. คำว่าอาจผิดระเบียบ แต่ไม่ลงรายละเอียดว่า “อะไรที่ถูกระเบียบ หรืออะไรที่ผิดระเบียบ เหมือนบอกให้ลงไปเล่นฟุตบอล ใช้ไม้หน้าสามอาจผิดระเบียบ แต่ใช้มีดปืนได้มั้ย? ให้ใช้กันก่อนแล้วค่อยมาถามอีกทีนะ?!?!?! #อะไรทำได้อะไรทำไม่ได้??? #สนามกีฬาที่กติกาไม่ชัดเจน!!!”

“สมชัย” บอกไม่พอต้องยุบพรรค

วันเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า แค่ตักเตือน ยังไม่จบ คำร้องกรณีนายไตรรงค์ ที่ตนและนายวีระ สมความคิด ร้องต่อ กกต. มีผลคือ เลขาธิการ กกต.ลงนามเอกสารถึงทุกพรรคให้ระมัดระวังการหาเสียงที่พาดพิงสถาบัน และมีหนังสือเตือนพรรค รทสช. ให้กำกับนายไตรรงค์ไม่ให้กระทำการอาจเข้าข่ายดังกล่าว ต้องชื่นชมเลขาธิการ กกต. ที่ออกหนังสือ 2 ฉบับ แต่เท่านี้ยังไม่สมควรจบ เพราะเป็นความผิดสำเร็จแล้วถึง 2 ครั้ง 2 ครา เป็นข้อหาที่เชื่อมโยงถึงขั้นยุบพรรค ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 (2) สิ่งที่ท่านเลขาธิการ กกต.พึงกระทำคือ การมีคำสั่งรับหรือไม่รับคำร้อง หากรับคำร้องต้องตั้งกรรมการเก็บรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริง เสนอ กกต.ภายใน 30 วัน ให้ กกต.วินิจฉัย หาก กกต.เห็นว่าผิดก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคต่อไป

ก.ก.ชี้ ขรก.ขยับสาวไส้รถไฟสีส้ม

ที่พรรคก้าวไกล นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงเอกสารหลักฐานกรณีข้อสงสัยการทุจริตประมูลสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่เคยใช้อภิปรายในสภาชี้ให้เห็นถึงความพยายามกีดกันบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS คู่แข่งของบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM มีส่วนต่างที่รัฐต้องจ่ายอุดหนุนให้สูงถึงกว่า 6.8 หมื่นล้านบาทหรือไม่ว่า เอกสารที่เพิ่งได้มาเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุด คือข้อเสนอ BEM ที่ขอหลายครั้งผ่านทุกช่องทางไม่เคยได้รับการตอบสนอง บัดนี้เมื่อหัวโจกไม่อยู่ ข้าราชการรักความยุติธรรมเริ่มส่งข้อมูลมาให้ ในเอกสารปรากฏข้อเสนอของ BTS ขอเงินอุดหนุนค่าก่อสร้างจากรัฐในปีที่ 3-8 รวม 79,820 ล้านบาท มีกำไรจ่ายคืนรัฐในปีที่ 20 รวม 70,145 ล้านบาท เท่ากับส่วนต่างที่รัฐต้องอุดหนุนเพียง 9,675 ล้านบาท ขณะที่ BEM ขออุดหนุน 81,871 ล้านบาท ให้กำไรคืนตั้งแต่ปีที่ 14 เพียง 3,583 ล้านบาทเท่านั้น

สงสัยส่วนต่างทอนเข้าพรรคใด

นายสุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ผลตอบแทน BEM คืนให้รัฐน้อยกว่า BTS มาก ส่วนต่างนี้จะเอาไปทอนให้ใคร หรือให้พรรคการเมืองใดบ้างหรือไม่ ครม.ยังมีเวลาประชุมอย่างมาก 2 ครั้ง ต้องจับตาจะยัดเรื่องนี้เข้าไปหรือไม่ และอาจใช้กระบวนการยุติธรรมมาฟอกขาวว่า ข้อเสนอของ BTS เป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน กล่าวได้ว่าความพยายามของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกระทรวงคมนาคมคล้ายคลึงกับกรณีป้ายสถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ ทำให้ถูกต้องโดยกระบวนการ แต่ข้อเท็จจริงทุจริตเห็นๆ และที่โครงการล่าช้า ทั้งที่ควรเปิดบริการได้เร็วๆนี้ เป็นเพราะเอาโครงการมาหากินกัน ขอให้ทุกคนติดตามอย่าปล่อยให้เมกะโปรเจกต์กลายเป็นเมกะดีล

“ชูวิทย์” ยื่น ป.ป.ช.สอบ 4 ปมโกง

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองจอมแฉ ยื่นเรื่องต่อนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบกรณีทุจริต 4 ประเด็น 1.กรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้นอมินีถือหุ้นบริษัทบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ไปรับงานโครงการต่างๆจากกระทรวงคมนาคม 2.นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเขากระโดงจากผู้บุกรุกที่ดิน รฟท. 3.นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช.ขาดคุณสมบัติเป็นกรรมการ ป.ป.ช. และ 4.เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ปล่อยปละละเลยให้พนักงานบริษัท ช.การช่าง ถือครองที่ดิน สปก.จ.สระบุรี โดยไม่ใช่ผู้ยากไร้

กัดไม่ปล่อยสอย “โอ๋” ยุบ ภท.

นายชูวิทย์กล่าวว่า จะตามทำลายพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะไปบุรีรัมย์ เคาะประตูบ้านนายเนวิน และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เพราะไม่ใช่บ้านนายเนวิน นายศักดิ์สยาม แต่เป็นที่สาธารณะที่ดิน รฟท. หลังยุบสภาวันที่ 20 มี.ค. จะยื่น กกต.ตรวจสอบยุบพรรค ภท. กรณีนอมินีถือหุ้นบริษัทบุรีเจริญฯ นำเงินที่ได้จากโครงการกระทรวงคมนาคมไปบริจาคให้พรรค ภท. ถือว่าเป็นเงินที่ไม่ชอบ นำไปใช้ต้องถูกยุบพรรค เป็นเรื่องเร่งด่วนให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง ถ้าไปยุบหลังเลือกตั้งบุคคลเหล่านี้ได้เป็น ส.ส.ก็ย้ายพรรคได้

ขู่จองกฐินแบล็กเมล์ “เศรษฐา”

นายชูวิทย์กล่าวว่า กำลังจับจ้องนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีเบื้องหลังเรื่องสำคัญ มีหลักฐานหมด จะเรียกว่าแบล็กเมล์ก็ว่าได้ ขอดูพฤติกรรมก่อนว่ามีความตั้งใจจริงแค่ไหน ถ้าไม่เข้าท่า ไม่มีอุดมการณ์จะเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ การตรวจสอบของตนไม่มีการเมือง ต้องการให้ทรัพย์สมบัติกลับมาเป็นของประชาชน ขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ตั้งอยู่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช. จากนั้นนายชูวิทย์ได้เผาแบงก์กงเต็ก กระดาษเงินกระดาษทอง สำเนาโฉนดที่ดินเขากระโดง พร้อมกล่าวว่า นายศักดิ์สยามชอบเงิน หาเงินทอนโครงการต่างๆ ขอเผาไปให้นำไปใช้ในปรโลก

ภท.ยัน “ศักดิ์สยาม” ไม่มีที่ รฟท.

นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค ภท. กล่าวว่า ที่เดินเขากระโดงมีเจ้าของกว่า 1 พันแปลง เนื้อที่กว่า 5 พันไร่ มีเอกสารสิทธิเกือบทุกแปลง กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิให้โดยชอบ มีการโอนผ่านมือไปเรื่อย เฉพาะที่ดินแปลงที่นายชูวิทย์กล่าวหา นายศักดิ์สยามไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนี้เลย และที่ดินที่นายชัย ชิดชอบ เป็นเจ้าของ ก็ซื้อมาจากบุคคลอื่น มีเอกสารสิทธิถูกต้อง กล่าวหา รมว.คมนาคมปล่อยปละละเลย ไม่ให้ รฟท.ทำอะไรนั้น ความจริง รฟท.ทำหนังสือถึงกรมที่ดินให้เพิกถอน ถ้าเพิกถอนต้องเพิกถอนที่ดินพันกว่าแปลงที่กรมที่ดินออกเอกสารให้ เคยมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ต้องจ่ายค่าชดเชย ขณะที่กรมที่ดินถาม รฟท.มีเอกสารสิทธิอะไรมายืนยันว่า ที่ดินทั้งหมดเป็นของ รฟท. ก็ตอบไม่ได้ นอกจากแผนที่สมัยรัชกาลที่ 5 ก็ต้องวินิจฉัยยืนยันกัน ดังนั้นกล่าวหานายศักดิ์สยาม ทำผิดหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่พรรค ภท.จึงยอมไม่ได้

“ป้าเป้า” แก้ผ้าเจอปรับ 3.4 หมื่น

วันเดียวกัน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลแขวงดุสิต พิพากษาลงโทษปรับนางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า แม่ค้าวัย 68 ปี กรณีเปลือยกายต่อหน้าแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ในม็อบ #28 กันยา 64 ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯปรับ 30,000 บาท และข้อหากระทำขายหน้าต่อธารกำนัล ตาม ป.อาญา มาตรา 388 ปรับ 4,000 บาท ทั้งนี้ คดีดังกล่าวป้าเป้าเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มทะลุฟ้า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.64 ที่แยกนางเลิ้ง ถนนพิษณุโลก ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ งัดไม้เด็ดเปลือยกายล่อนจ้อนใส่แถวตำรวจจนผงะทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายต้องขอร้องให้สวมเสื้อผ้าและถอยกลับที่ตั้ง ทำให้วีรกรรมป้าเป้าได้รับการชื่นชมจากมวลชนจนตำรวจ คฝ.รวมถึงนักข่าว เวลามาม็อบต้องขอร้องป้าเป้าไม่ให้แก้ผ้าอีก

คุณกำลังดู: แจ้งเตือนรวมไทยสร้างชาติคุม “สามสี” อาจผิดกฎกกต. ปราศรัยเพลินโยงสถาบัน (คลิป)

หมวดหมู่: การเมือง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด