แช ยัม เถียน: หญิงผู้อยู่เบื้องหลังเมนู "ปูผัดพริก" เลื่องชื่อของสิงคโปร์
เมื่อพูดถึงอาหารของสิงคโปร์ หนึ่งในเมนูที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกก็คือ "ปูผัดพริก" หรือ "ชิลลี่ แครบ"

- นางแช ยัม เถียน วัย 90 ปี ผู้คิดค้นเมนูปูผัดพริกอันเลื่องชื่อของสิงคโปร์ เสียชีวิตขณะอายุได้ 90 ปี เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังเธอมีอาการปอดติดเชื้อ ซึ่งพัฒนาไปสู่โรคปอดบวม
- ที่มาของเมนูปูผัดพริก เกิดขึ้นหลังจาก แช ยัม เถียน ได้รับคำขอร้องจากสามีว่าอยากได้เมนูจากปู ที่ไม่ใช่ปูนึ่ง เธอจึงผัดปูในซอสมะเขือเทศและมีการเพิ่มพริกลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ
- ครั้งหนึ่ง อดีตรัฐมนตรีการท่องเที่ยวของมาเลเซียอ้างว่า ปูผัดพริกคือหนึ่งในอาหารมาเลเซียที่ถูกประเทศอื่นอ้างความเป็นเจ้าของ ถ้อยคำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้คนสิงคโปร์อย่างมาก
เมื่อพูดถึงประเทศสิงคโปร์ สิ่งหนึ่งที่เรานึกถึงนอกเหนือจากเมอร์ไลออนก็คืออาหาร และหนึ่งในเมนูที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกก็คือ "ปูผัดพริก" หรือ "ชิลลี่ แครบ"
ขณะที่ต้นกำเนิดของมันก็มีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะมันเริ่มต้นด้วยการค้นพบโดยบังเอิญเช่นเดียวกับสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่มากมาย
กว่า 70 ปีที่แล้วแช ยัม เถียน ได้รับคำขอร้องจากสามีของเธอ ลิม ชุน งี ซึ่งเป็นตำรวจที่ชื่นชอบการตกปลาและจับปูโคลนริมชายหาดว่า อยากได้เมนูจากปู และอยากให้เธอลองทำเมนูที่แตกต่างออกไปนอกจากปูนึ่ง
จากข้อมูลของ ดร.เลสลี่ เทย์ ผู้ดูแลบล็อกอาหารชื่อดังของสิงคโปร์ "ไออีทไอชูตไอโพสต์" (ieatishootipost) กล่าวว่า เธอจึงผัดปูในซอสมะเขือเทศ สามีของเธอคิดว่ามันรสชาติดี แต่อาจจะหวานเกินไป เขาจึงแนะนำให้เธอเติมพริกเล็กน้อยลงในซอส
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แช ยัม เถียนเสียชีวิตที่สิงคโปร์ ขณะอายุได้ 90 ปี สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เธอมีอาการปอดติดเชื้อซึ่งพัฒนาไปสู่โรคปอดบวม ในไม่ช้าผู้คนจำนวนมากก็ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของเธอ เพื่อรำลึกถึงผู้สร้างอาหารที่ตอนนี้กลายเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบในสิงคโปร์ และติดอันดับหนึ่งในอาหารที่อร่อยที่สุดเสมอมา

เมื่อคุณแช ยัม เถียน ทำอาหารเมนูนี้ให้กับครอบครัวและเพื่อนๆ กลับกลายเป็นว่ามันได้รับความนิยมอย่างมากจนเธอเริ่มขายมันบนรถเข็น ในปี 2493 และเธอเรียกเมนูนี้ว่า ปูผัดพริก
หกปีต่อมา เธอได้ย้ายไปอยู่ที่เพิงเล็กๆ ที่สว่างไสวด้วยตะเกียงเจ้าพายุ ก่อนที่สามีของเธอจะเปิดร้านอาหารชื่อ "ปาล์ม บีช ซีฟู้ด" ในปี2506 โดยตั้งชื่อตามต้นปาล์มที่เรียงรายตามชายหาดในบริเวณใกล้เคียง
สูตรนี้ได้รับการดัดแปลงในภายหลังโดยเชฟ ฮุย ก็อก ไว ชาวสิงคโปร์ ผู้มีชื่อเสียง ซึ่งเพิ่มไข่และน้ำพริกซัมบัล ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ทำจากพริกและกุ้งกระทั่งกลายเป็นเมนูปูผัดพริกสมัยใหม่ที่ชาวสิงคโปร์ชื่นชอบ นั่นคือปูผัดซอสที่มีความข้นหวานและเผ็ด โดยปกติแล้วจะเสิร์ฟพร้อมกับหมั่นโถวทอดหรือนึ่ง
ดร.เทย์ กล่าวว่า "ไข่ทำให้ซอสข้นและเพิ่มรสชาติเล็กน้อย"
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารกล่าวว่า เมนูที่ชาวสิงคโปร์คุ้นเคยในทุกวันนี้ ไม่มีอะไรที่เหมือนกับเมนูดั้งเดิมที่ แช ยัม เถียน ได้ทดลองทำเป็นครั้งแรก
เคเอฟ ซีโตห์ นักวิจารณ์อาหารที่ยกย่องให้นางแชเป็น "ฮีโร่เรื่องอาหาร" กล่าวว่า "การที่ใครสักคนคิดเมนูอาหารที่เด็ดเดี่ยวขึ้นมา คุณได้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้คน ทำให้ผู้คนกินมัน จนทำให้มันเป็นอาหารที่ติดปาก นี่คือรสชาติที่คุณจดจำได้"
"เธอสร้างอาหารที่มีความโดดเด่นมันคืออาหารทะเลที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่"
ดร.เทย์ ยังมองว่า ปูผัดพริกกับข้าวมันไก่ที่แพร่หลายนั้น เป็นสองอาหารที่สิงคโปร์เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ซึ่งต้องทำในประเทศที่มีอาหารหลากหลายจากหลากหลายวัฒนธรรม หากไม่ต้องพูดถึงราคาที่ค่อนข้างสูง ที่ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและความหลากหลาย เมนูปูผัดพริกในสิงคโปร์มักจะเริ่มต้นที่ประมาณ 80 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือราว 2,000 บาท
เขากล่าวว่า "การทำให้สิงคโปร์และปูผัดพริกอยู่บนแผนที่โลก นั่นถือเป็นความสำเร็จ ไม่มีใครวางแผนเรื่องแบบนี้ ไม่มีใครเคยบอกว่าฉันจะสร้างอาหารแล้วยึดครองโลก"
ดร.เทย์ พบ แช ยัม เถียน ครั้งแรกในปี 2552 เพื่อทำความเข้าใจประวัติของอาหารจานนี้ นี่เป็นผลสืบเนื่องมาจากนาง อึ้ง เหยียน เหยียน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของมาเลเซีย ที่อ้างว่าปูผัดพริกเป็นหนึ่งในเมนูอาหารของมาเลเซีย ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารของประเทศอื่น คำพูดดังกล่าวยังคงสร้างความไม่พอใจให้กับชาวสิงคโปร์
ดร.เทย์ กล่าวถึง "สุภาพสตรีผู้สง่างาม" ซึ่งขณะนั้นอยู่ในวัย 70 ปีว่า "เธอรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่ผู้คนกล่าวอ้างเช่นนี้"
"เธอพูดว่า 'ฉันเป็นคนคิดขึ้นมาเอง' เธอมองว่ามันเป็นสิ่งที่เธอมอบให้แก่วัฒนธรรมของสิงคโปร์"

การแข่งขันมาอย่างยาวนานระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเดียวกัน มักปรากฏชัดในอาหารของพวกเขา นอกเหนือจากข้อพิพาททวิภาคีเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนหรือปัญหาเศรษฐกิจแล้วก็มีบางเรื่องที่สร้างความปั่นป่วนให้กับพลเมืองของทั้งสองฝ่าย เช่น อาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการอ้างสิทธิ์ในอาหารที่ทั้งสองประเทศมีเหมือนกัน
กรณีตัวอย่างคือการที่ ดร.เทย์ ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของนางอึ้งว่าเป็น "คำกล่าวอ้างที่น่าขัน" เขายืนกรานว่า แม้ประเทศอื่นอาจอ้างว่าเสิร์ฟปูผัดพริก แต่สูตรอาหารที่เป็นหนึ่งเดียวของสิงคโปร์นั้นไม่เหมือนใคร
"คุณแช ยัม เถียนเป็นคนเริ่ม เมื่อคุณมาสิงคโปร์และคุณสั่งปูผัดพริก คุณจะได้ปูแบบเดียวเท่านั้น" และตามความเห็นของเขา ปูผัดพริกเป็น "อาหารจานเด็ดของสิงคโปร์" และเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
ดร.เทย์ กล่าวว่า แช ยัม เถียน เป็น "ผู้คิดค้น"โดยชี้ให้เห็นว่าเธอสร้างสรรค์อาหารสิงคโปร์ที่เป็นที่รู้จักอื่นๆ เช่น กุ้งเต๋ายู หรือกุ้งผัดซีอิ๊วหวาน และโซตงยูเตียว หรือปลาหมึกชุบแป้งทอด
นอกจากปูผัดพริกสูตรดั้งเดิมแล้ว อาหารเหล่านี้ยังคงเสิร์ฟที่ร้านอาหารโรแลนด์ ขนาด 1,000 ที่นั่ง ซึ่งบริหารงานโดยลูกชายของเธอโรแลนด์ ลิม วัย 65 ปี และริชาร์ด ลิม วัย 60 ปี
ร้านปาล์ม บีช ถูกขายกิจการในปี2528 ขณะที่ร้านโรแลนด์เปิดให้บริการและก่อตั้งในปี2543หลังจากที่ Roland เข้าครอบครองร้านอาหารของพ่อทูนหัวของเขาและเปลี่ยนชื่อใหม่
ดร.เทย์ กล่าวว่า "จนถึงทุกวันนี้ สูตรของซอสปูผัดพริกยังคงเป็นความลับภายในครอบครัว ผมไม่สามารถแกะอะไรออกมาได้"
เมื่อถามว่าในอีก 30 ปีข้างหน้า คนจะยังกินปูผัดพริกอยู่หรือไม่? นายซีโตห์ นักวิจารณ์อาหาร ตอบว่าใช่ เพราะแม้จะผ่านมาแล้วกว่า 70 ปี นับตั้งแต่มีการคิดค้นเมนูนี้ขึ้นมา แต่อาหารจานนี้ก็ยังคงเป็นที่นิยม.
คุณกำลังดู: แช ยัม เถียน: หญิงผู้อยู่เบื้องหลังเมนู "ปูผัดพริก" เลื่องชื่อของสิงคโปร์
หมวดหมู่: ต่างประเทศ