เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งเกินมาตรฐาน 36 พื้นที่ อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ยังอ่วม เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งเกินมาตรฐาน 36 พื้นที่ อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมเตือนช่วงวันที่ 14-16 มี.ค. ควรเฝ้าระวังผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่

เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งเกินมาตรฐาน 36 พื้นที่ อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ยังอ่วม เช้านี้ค่าฝุ่นPM 2.5 พุ่งเกินมาตรฐาน 36 พื้นที่อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมเตือนช่วงวันที่ 14-16 มี.ค. ควรเฝ้าระวังผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่

เฟซบุ๊กกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความโดยระบุว่า ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันศุกร์ที่ 10 มี.ค. 2566 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5)โดยตรวจวัดได้ 37-66 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 36 พื้นที่ดังนี้

1. เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 66 มคก./ลบ.ม.

2. เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 64 มคก./ลบ.ม.

3. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 64 มคก./ลบ.ม.

4. เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 63 มคก./ลบ.ม.

5. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 63 มคก./ลบ.ม.

6. เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 62 มคก./ลบ.ม.

7. เขตบางนา บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 61 มคก./ลบ.ม.

8. เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 60 มคก./ลบ.ม.

9. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 60 มคก./ลบ.ม.

10. เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 59 มคก./ลบ.ม.

11. เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 59 มคก./ลบ.ม.

12. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 58 มคก./ลบ.ม.

13. เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 58 มคก./ลบ.ม.

14. เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.

15. เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.

16. เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.

17. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.

18. เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.

19. เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.

20. เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.

21. เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.

22. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.

23. สวนหนองจอก เขตหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.

24. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.

25. เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.

26. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.

27. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.

28. เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.

29. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.

30. เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.

31. สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.

32. เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.

33. เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.

34. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.

35. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.

36. เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.

สำหรับ ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีข้อแนะนำ ดังนี้

ระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

สำหรับบุคคลทั่วไป : ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น

ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ : ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลียควรปรึกษาแพทย์

ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 มี.ค. 2566 อากาศเริ่มอยู่ในสภาวะเปิด การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลให้ฝุ่น PM 2.5 เกิดการสะสมตัวมีแนวโน้มลดลง แต่อาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้ในบางพื้นที่ ในช่วงนี้มวลอากาศเย็นยังแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน แต่เริ่มมีกำลังอ่อนลง มีอากาศเย็นตอนเช้า กลางวันอากาศร้อน (ท้องฟ้าโปร่ง เมฆน้อย) ลมทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ พัดปกคลุม มีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ควรระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งในระยะนี้ และต้องระมัดระวังรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ควรระวังโรคลมแดด

ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 12-14 มี.ค. 2566 อากาศจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง และในช่วงวันที่ 13-14 มี.ค. 2566 อาจมีฝนในบางพื้นที่ โดยประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ จากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นเกิดการปะทะกันกับมวลอากาศร้อนทำให้มีพายุฤดูร้อน (พายุฝนฟ้าคะนอง) ลมกระโชกแรง มีฟ้าร้อง ฟ้าผ่าและลูกเห็บตกได้ และวันนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

อย่างไรก็ตาม วันที่ 10 มี.ค. 2566 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้ในบางพื้นที่ โดยหลังวันที่ 11 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากลมทางใต้ช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่ช่วงระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค. 2566 เป็นช่วงที่ควรเฝ้าระวังของพื้นที่เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่ได้.

ขอบคุณเฟซบุ๊กกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร

คุณกำลังดู: เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งเกินมาตรฐาน 36 พื้นที่ อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ

หมวดหมู่: ภูมิภาค

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด