ดีเอสไอรับคำร้อง "ทนายอั๋น" ยื่นตรวจสอบสถานะการเงินรวยก้าวกระโดด "ทนายตั้ม"

ดีเอสไอรับคำร้อง "ทนายอั๋น" ยื่นตรวจสอบสถานะการเงินรวยก้าวกระโดด "ทนายตั้ม"

ดีเอสไอรับคำร้อง "ทนายอั๋น" ปมยื่นตรวจสอบสถานะการเงินรวยก้าวกระโดดของ "ทนายตั้ม" ขณะที่ 26 เม.ย.นี้ ทนายอั๋น จ่อมอบเอกสารใหม่เพิ่มเติม แย้ม กังวลทนายตั้มรีบโยกย้ายทรัพย์สินหากพบว่ามีความผิดจริง

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่5เม.ย. นายภัทรพงศ์ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์"คนรุ่นใหม่ประชาธิปไตยบริสุทธิ์"เข้ายื่นหนังสือร้องดีเอสไอขอให้ตรวจสอบสถานะทางการเงินของ นายษิทราเบี้ยบังเกิดหรือทนายตั้มเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯในประเด็นสถานะการเงิน เรื่องภาษีที่ไม่สอดคล้องกับรายรับ ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งหนังสือตอบรับที่ ยธ. 0816/575 รับคำร้องดังกล่าว เพื่อพิจารณาในขั้นตอนถัดไปนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 เมษายน 2566 เจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า เบื้องต้นเป็นการแจ้งรับเรื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และจากหนังสือเลขที่ ยธ. 0816/575 เป็นการแจ้งว่า ได้ส่งเรื่องไปยังกองคดีภาษีอากรที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ประเด็นที่ทนายอั๋นร้องมาคราวนั้น เกี่ยวกับเรื่องภาษีของทนายษิทรา โดยตั้งข้อสงสัยในลักษณะที่ทนายษิทรามีชีวิตความเป็นอยู่ไม่สอดคล้องกับรายรับ

นอกจากนี้ กองคดีภาษีอากรอาจจะมีการเชิญให้ทนายอั๋นเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนจะมีการรับเป็นคดีพิเศษ หรือจะมีการสอบสวนในเรื่องนี้หรือไม่ ต้องเรียนแจ้งว่า ปกติแล้วกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากรจะมีลักษณะพิเศษ โดยจะมีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 8 ปี พ.ศ.2522 กำหนดไว้ว่า ห้ามเจ้าพนักงานอื่นดำเนินคดีเกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากร จนกว่าจะได้รับคำกล่าวโทษจากกรมสรรพากร ดังนั้น หากข้อมูลที่ทนายอั๋นมอบให้มีความชัดเจน เข้าองค์ประกอบ ดีเอสไอจะต้องไปหารือกับกรมสรรพากร

เจ้าหน้าที่ดีเอสไอระดับสูง กล่าวด้วยว่า อย่างไรคงต้องให้กองคดีภาษีอากรชี้แจงรายละเอียด และถ้าหากจะมีการรับหรือไม่รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอจะต้องรอดูพยานหลักฐานของทนายอั๋น ที่จะนำมามอบให้เพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อนำไปตรวจสอบตามเกณฑ์และประกาศกำหนดลักษณะคดีแบบใด ความเสียหายเท่าไร อย่างไรก็ตาม แม้ดีเอสไอมีอำนาจในชั้นสืบสวน แต่ในการดำเนินคดีนั้น ตามกฎหมายจะต้องให้กรมสรรพากรเป็นผู้กล่าวโทษเท่านั้น จึงเป็นข้อยกเว้นแค่คดีภาษีอากรที่มีกฎหมายพิเศษ กำหนดให้บุคคลใดก็ตามที่จะกล่าวโทษในคดีอาญา หรือให้สอบสวนดำเนินคดีอาญา จะต้องมาจากกรมสรรพากร เพราะกรมสรรพากรมีอำนาจอื่น เช่น อำนาจในการเรียกมาเปรียบเทียบโดยไม่ต้องดำเนินคดี การดำเนินคดีเป็นเงื่อนไขสุดท้าย เป็นต้น

"เมื่อทนายอั๋นมายื่นคำร้องกับดีเอสไอ กรมสอบสวนคดีพิเศษก็มีหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงขั้นต้น ว่าเข้าองค์ประกอบเป็นคดีในอำนาจของกรมหรือไม่ จากนั้นจึงส่งเรื่องให้กรมสรรพากร เพื่อให้มาพิจารณากล่าวโทษ" เจ้าหน้าที่ดีเอสไอระดับสูง ระบุปิดท้าย

ด้าน ทนายอั๋น เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ เวลาประมาณ 10.30 น. เตรียมเข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติม (หลักฐานใหม่) กับดีเอสไอ ในประเด็นเกี่ยวกับทนายตั้ม และจะหารือถึงแนวทางการดำเนินการของดีเอสไอ เนื่องจากสิ่งที่เป็นห่วงในตอนนี้คือตามที่มีปรากฏในกระแสข่าวว่า ทนายคนดังอาจจะมีการโยกย้ายทรัพย์สิน หรือจะเดินทางกลับเมืองไทยหรือไม่ ว่า ดีเอสไอจะมีมาตรการอย่างไร เพื่อให้สิ่งที่ตนยื่นเรื่องตรวจสอบไปมีความรวดเร็ว และถ้าหากทนายคนดังมีความผิดจริง ดีเอสไอจะอายัดทรัพย์สินทันหรือไม่

ทนายอั๋น ยังเผยด้วยว่า ก่อนที่ตนจะไปยื่นเรื่องให้กับดีเอสไอนั้น ด้าน นายชูวิทย์ ได้เคยโทรศัพท์มาให้กำลังใจ เนื่องจากในขณะนั้น ตนได้ออกมาพูดเรื่องการเก็บเงินค่าแถลงข่าวของทนายตั้ม จำนวน 300,000 บาท ตนมองว่าผิดจรรยาบรรณทนาย โดย นายชูวิทย์ บอกกับตนว่า ตนเป็นทนายความที่มีเกียรติ เป็นทนายความน้ำดี แต่เป็นเพียงการพูดคุยสั้นๆ เท่านั้น ไม่ได้มีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกันแต่อย่างใด.

คุณกำลังดู: ดีเอสไอรับคำร้อง "ทนายอั๋น" ยื่นตรวจสอบสถานะการเงินรวยก้าวกระโดด "ทนายตั้ม"

หมวดหมู่: อาชญากรรม

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด