กกต.ฟ้องเรียก 11 ล้าน "ไทรักธรรม" ปมให้ทรัพย์สิน จูงใจ สมัครเป็นสมาชิก

กกต.ฟ้องเรียก 11 ล้าน "ไทรักธรรม" ปมให้ทรัพย์สิน จูงใจ สมัครเป็นสมาชิก

กกต.ฟ้องเรียกเงิน 11 ล้าน คืนจาก กก.บห.พรรคไทรักธรรม หลังพรรคถูกศาลสั่งยุบ ปมจูงใจบุคคลสมัครเข้าเป็นสมาชิกทำดอกไม้จันทน์ แล้วซื้อคืนดอกละ 1 บาท แฉ หัวหน้าพรรค-เหรัญญิก รู้กันเพียง 2 คนคนอื่นไม่รู้เรื่อง

วันที่ 28 ก.พ. 66 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ศาลจังหวัดสระบุรี นายปรีชา เข็มบุบผา ทนายความจากสำนักงานกฎหมายปรีชา ตั้งอยู่ที่ 149 ม.9 บ้านสระปะคำ ต.พระสำราญ อ.ภูเมือง จ.บุรีรัมย์ นำลูกความจำนวนกว่า 60 คน ที่ถูก นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง “พรรคไทรักธรรม” โดย นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ที่ 1 กับพวกรวม 66 คน ในคดีหมายเลขดำที่ พ 406/2565 เรียกเงินคืน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์คืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 จำนวนทุนทรัพย์ 11,431.045 บาท

โดยวันนี้เป็นขั้นตอน ศาล “นัดพร้อม” ตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคที่ตกเป็นจำเลยทุกคน “ปฏิเสธ”

ทั้งนี้ พรรคไทรักธรรม ซึ่งมี นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค รั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค มี ส.ส. คือพีระวิทย์ เพียงคนเดียวในสภา หลังเลือกตั้ง ปี พ.ศ.2562 (ส.ส.ปัดเศษ) ดำเนินงานการเมืองโดยมีการระดมตั้งสาขาพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ และได้รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง จาก กกต. เหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ โดยทั่วไป และต่อมาเมื่อ (19 ต.ค. 2565) พรรคไทรักธรรม ได้ถูก (กกต.) ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค มูลเหตุมาจากให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อจูงใจบุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค

ในกรณีที่ นายพีระวิทย์ ได้ใช้ให้ นายมนัส มีชาวนา ไปจูงใจชักชวน ให้ชาวบ้านป่ามะข้าม อ.เมือง จ.พิจิตร ทำดอกไม้จันทน์ โดยจะนำวัสดุอุปกรณ์ไปให้ทำ แล้วซื้อคืนได้ไปเสนอให้ชาวบ้านที่ จ.พิจิตร เข้าเป็นสมาชิกพรรค โดยมีข้อเสนอให้ชาวบ้านไม่ต้องเสียค่าสมัคร ค่าบำรุงพรรค แต่ให้ชาวบ้านทำดอกไม้ดอกไม้จันทน์ แล้วจะไปซื้อคืนดอกละ 1 บาท กระทั่งพรรคไทรักธรรมสามารถระดมสมาชิกได้ 500 คน จนสามารถเปิดสาขาพรรคที่ จ.พิจิตร ได้

ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้แสดงว่า หัวหน้าพรรคไทรักธรรม มอบหมายให้ นายมนัส ไปดำเนินการ จึงฝ่าฝืนต่อกฎหมายมีผลผูกพันกับพรรค โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วจึงมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 มีคำสั่งให้ยุบพรรคไทรักธรรม ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 2560 มาตรา 92 วรรค 1 วรรค 2 ประกอบมาตรา 30 เพิกถอนสิทธิ ห้ามลงเล่นการเมือง 10 ปี ห้ามจดทะเบียนพรรคใหม่ หรือไปเป็นสมาชิกพรรคใหม่ก็ไม่ได้ ด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้ กกต.ฟ้องเรียกเงินคืนจาก นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค และกรรมการบริหารพรรคดังกล่าว

นายทรงกฤษดากร ไตรรัตน์รังสี (หนุ่ม จีสตาร์) อดีตรองหัวหน้าพรรคไทรักธรรม และนางกฤติยา พละสุ อดีตเลขาพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคไทรักธรรม จำนวนกว่า 60 คน ที่ตกเป็นจำเลยถูก กกต.ฟ้องร้องเรียกเงินสนับสนุนพรรคการเมืองคืน ที่เดินทางมาศาล จ.สระบุรี ตามนัด ได้ร่วมกันเปิดเผยว่า พวกตนเหมือนแพะรับบาป เสียทั้งเงิน และยังต้องมาตกเป็นจำเลย เป็นทุกข์หนักที่ต้องรับผิดชอบใช้เงินคืน กกต. พวกตนขอปฏิเสธ และไม่ได้ร่วมรับรู้กับการดำเนินการเรื่องเงินบำรุงพรรคแต่อย่างใด รู้เห็นกันแค่หัวหน้าพรรค กับเหรัญญิกพรรคเท่านั้น การประชุมแต่ละครั้งก็ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อพรรคถูกยุบ ถูก กกต.ฟ้องเรียกเงินคืน พวกตนเดือดร้อนหนัก สอบถามหัวหน้าพรรคในที่ประชุมก็รับปากว่า “เดี๋ยวผมหามาคืนเอง” แต่ก็ไม่เห็นทำอะไร ยังคงเดินเข้าออก-สภา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พวกตนที่ติดร่างแหไปด้วย ขอให้ออกมารับผิดชอบด้วย ทั้งนี้นอกจากพวกตน 66 คนแล้วยังมีตาสีตาสาที่ถูกหลอกอีกนับร้อยคน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท จะทำอย่างไร.

คุณกำลังดู: กกต.ฟ้องเรียก 11 ล้าน "ไทรักธรรม" ปมให้ทรัพย์สิน จูงใจ สมัครเป็นสมาชิก

หมวดหมู่: ภูมิภาค

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด