กรมอนามัย แนะอย่าตื่นตระหนก "ไข้หวัดนก H5N1" หลังพบเด็กเสียชีวิตที่กัมพูชา

กรมอนามัย แนะอย่าตื่นตระหนก "ไข้หวัดนก H5N1" หลังพบเด็กเสียชีวิตที่กัมพูชา

กรมอนามัย แนะอย่าเพิ่งตื่นตระหนก "โรคไข้หวัดนก H5N1" ที่ประเทศกัมพูชา ย้ำเลือกเนื้อไก่ เป็ดสดจากแหล่งที่มีการรับรองมาตรฐาน และปรุงสุก

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีพบเด็กหญิงชาวกัมพูชา อายุ 11 ปี เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนก H5N1 ที่ประเทศกัมพูชา รวมถึงบิดาของเด็กหญิงก็ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ส่งผลให้มีผู้ป่วยไข้หวัดนกในประเทศกัมพูชา จำนวน 2 ราย นั้น

สำหรับในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้มีการเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด โดยกรมอนามัยแนะนำประชาชนและผู้ประกอบการ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกแต่ไม่ควรประมาท หากพบสัตว์ปีก เช่น นก ไก่ เป็ด ตายเป็นจำนวนมาก หรือ ตายผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที รวมทั้งให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกที่มีอาการป่วย หรือตาย และห้ามนำซากสัตว์ปีกที่ป่วยตายไปกินหรือให้สัตว์อื่นกินโดยเด็ดขาด กรณีการเลือกซื้อสัตว์ปีกที่มีชีวิต ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งของสัตว์ รวมทั้งพื้นผิวที่สัตว์เหล่านั้นอาศัยอยู่ด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบการค้าอาหารในตลาดสดต้องเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด โดยล้างทำความสะอาดตลาดบริเวณจุดเสี่ยงเป็นประจำทุกวัน และให้ล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลเป็นประจำทุกเดือน

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ผู้สัมผัสหรือผู้ปรุงประกอบอาหารต้องไม่ใช้มือที่หยิบ จับไก่ดิบหรือเปื้อนมาจับจมูก ตาและปาก หมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจับเนื้อสัตว์ และเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อน หากมีบาดแผลที่มือต้องปกปิดแผลให้มิดชิด และหลีกเลี่ยงการปฏิบัติงานที่มีโอกาสสัมผัสอาหาร ควรแยกเขียงสำหรับหั่นเนื้อไก่สด เป็ดสด จากเขียงสำหรับหั่นอาหารที่ปรุงสุกแล้ว และเขียงผัก ผลไม้โดยเฉพาะ

สำหรับประชาชนควรเลือกเนื้อไก่และเป็ดสด จากแหล่งที่มีการรับรองมาตรฐานหรือร้านค้าประจำ และเลือกซื้อไก่และเป็ดสดที่ไม่มีลักษณะบ่งชี้ว่าอาจจะตายด้วยโรคติดเชื้อ เช่น เนื้อมีสีคล้ำ มีจุดเลือดออก ส่วนไข่ให้เลือกซื้อฟองที่ดูสดใหม่ไม่มีมูลไก่หรือเป็ดติดเปื้อนที่เปลือกไข่ และล้างทำความสะอาดก่อนนำมาปรุงการปรุงประกอบอาหารไก่ เป็ด ควรผ่านการปรุงให้สุกโดยใช้ความร้อนให้อาหารสุกอย่างทั่วถึงด้วยอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 นาที เพื่อลดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรครวมทั้งยาฆ่าแมลงตกค้าง

หากมีอาการไม่สบาย เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ หนาวสั่น เจ็บคอ ไอ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที กรณีทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์หรือมีประวัติสัมผัสซากสัตว์ต้องแจ้งแพทย์ด้วย.

คุณกำลังดู: กรมอนามัย แนะอย่าตื่นตระหนก "ไข้หวัดนก H5N1" หลังพบเด็กเสียชีวิตที่กัมพูชา

หมวดหมู่: สังคม

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด