เลือกตั้ง : 2566 "ก้าวไกล" พรรคเกือบแตก เบื้องลึก เพราะ "โปลิตบูโร" จริงหรือ?

เลือกตั้ง : 2566 "ก้าวไกล" พรรคเกือบแตก เบื้องลึก เพราะ "โปลิตบูโร" จริงหรือ?
  • "คริส โปตระนันทน์" ยังเชื่อ "ก้าวไกล" ทะเลาะกันพรรคแทบแตก มาจากการเห็นต่างบริหารงานในพรรค ชิงธงนำเลือกตั้ง ลำดับ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
  • ชี้สัญญาณดี ก้าวไกล กลุ่ม "โปลิตบูโร" หรือผู้บริหารมีอำนาจในพรรค เริ่มรับฟังกลุ่มเห็นต่างการบริหารงานในพรรคบ้าง หลังจากที่ผ่านมาไม่มีสิ่งเหล่านี้ในพรรคก้าวไกล
  • มั่นใจ ปรากฏการณ์ขัดแย้งที่เกิดขึ้น ไม่กระทบกระเทือนเหล่าแฟนคลับ ค่ายสีส้ม แต่กลุ่มที่ไม่ใช่แฟนคลับ (กลุ่มคนตรงกลาง) รับไม่แน่ใจ

ปรากฏการณ์ร้อนแรง ทำเอา พรรคก้าวไกล "แทบแตก" โดยเฉพาะกระแสในโลกโซเชียลที่ผ่านมา เรียกว่า มาไวไปไวแบบ "กามนิตหนุ่ม" กับกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และเป็น 1 ในผู้ก่อตั้งอดีตพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

วิกฤตการณ์ของพรรค ตอนแรกดูท่าจะลุกลาม ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอม โพสต์เฟซบุ๊ก โต้ตอบกันชนิด "ถึงพริกถึงขิง" แต่ก็จบลงใช้เวลาเพียงแต่ชั่วข้ามคืน กับภาพกอดกันของบุคคลทั้งสอง กับแฟนคลับพรรคก้าวไกล ที่โล่งใจไปตามๆ กัน

ทิ้งปริศนาคาใจ จากอีกฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม ตกลงนี่แค่แผนเรียกเรตติ้ง ช่วงใกล้เลือกตั้งหรืออย่างไร

เรื่องนี้ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้สัมภาษณ์พิเศษ "คริส โปตระนันทน์" ซึ่งตัดสินใจ ลาออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล โดยเป็น 1 ในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และได้ "ทิ้งบอมบ์" เอาไว้ เรียกว่าทำเอา "ค่ายส้ม" แห่งนี้ ถึงกับสะเทือน โดยชี้ว่า การตัดสินใจในพรรคก้าวไกล ทุกอย่างอยู่ที่กลุ่ม "โปลิตบูโร"

เบื้องลึกเบื้องหลังเป็นเช่นไร เรามาไขเรื่องที่คอการเมือง อยากรู้กัน โฟกัส ทำไมถึงเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อ 2 คีย์แมนคนสำคัญของก้าวไกล อย่าง "ปิยบุตร-พิธา" ต้องมาฟาดฟันกันเองจนร้อนไปทั้งโซเชียลฯ

อะไร คือ เบื้องหลังการปะทะกันของ"พิธา-ปิยบุตร" อย่างดุเดือด

นายคริส กล่าวว่า ไม่มีอะไรนะครับ แต่การวิพากษ์วิจารณ์พรรค ตกลงสามารถทำได้หรือไม่ ตอนแรกผมโดนกระแสถล่ม หลังที่ผมออก ผมก็ลาออก แล้วบอกพรรคก้าวไกลว่า ควรแก้ไขยังไง แล้วผมก็โดน "ติ่งส้ม" ถล่ม อาจารย์ปิยบุตรตอนนี้ ก็โดนสภาพไม่ต่างกัน ปิยบุตรโพสต์ก้าวไกลควรปรับปรุงคืออะไร แล้วก็ถูกคุณพิธาต่อว่า "มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ" ความจริงตามระบอบประชาธิปไตย มนุษย์เราก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แล้วสิ่งที่อาจารย์ปิยบุตรพูด ผมว่า มันก็เป็นความคิดของอาจารย์ท่านหนึ่ง และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคด้วยแล้วก็เป็นผู้นำจิตวิญญาณของ "ติ่งส้ม" ก็ว่าได้ ผมว่า มันเป็นความเห็นที่น่าฟังมาก ไม่ได้มีอคติเลย แต่ปรากฏว่า คุณพิธา โพสต์แบบนั้นมันก็เลยมีปัญหา ตามที่เห็น

บอก สัญญาณดี ก้าวไกล"โปลิตบูโร" เริ่มรับฟังกลุ่มเห็นต่าง

"ผมว่าเป็นสัญญาณที่ดี อย่างน้อยเมื่อปิยบุตร โพสต์ฯ แล้ว "ทิม พิธา" สามารถรับได้ ผมว่าตอนนี้แกก็ปรับปรุงละ แล้วเริ่มเปิดรับความวิพากษ์วิจารณ์ ผมว่ามันดีมากเลย และก็มีประโยชน์ต่อประชาธิปไตย และพรรคก้าวไกล" นายคริส กล่าว...

เชื่อ "ก้าวไกล" ทะเลาะกันพรรคแทบแตก มาจาก เห็นต่างบริหารงานในพรรค ชิงธงนำเลือกตั้ง ลำดับ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

นายคริสยอมรับว่า มันก็อาจจะเกี่ยว เพราะระบอบประชาธิปไตยเหมือนกาต้มน้ำ ถ้าพรรคก้าวไกลมีระบอบประชาธิปไตย ที่ทุกคนสามารถพูดจากันได้ แล้วมีการเลือกตั้งกรรมการบริหาร มันก็จะอยู่ในฟอร์ม ใครไม่เห็นด้วยการบริหาร เขาก็จะพูดออกมา แน่นอนก็ต้องมีการถกเถียงกัน แน่นอนว่า มันเป็นสิ่งที่ควรจะมีในพรรคการเมืองทุกพรรค แต่อย่างที่ผมเคยบอก พรรคก้าวไกล ไม่มีตรงนี้ เสียงคนไม่เห็นด้วยกับการบริหาร มันสะท้อนไปเรื่อยๆ มันก็เลยทำให้คนรู้สึก หรือ "โปลิตบูโร" รู้สึกว่าไอ้พวกคนวิจารณ์เรามันคือ พวกทำลายพรรค คิดร้ายต่อพรรค มันก็เลยกลายเป็นระบบแบบนั้นไป

ลองไปดูที่ปิยบุตร หรือผมโพสต์เฟซฯ สิครับ ก็เป็นเรื่องการบริหารงานภายในนี่ละ เรื่องลำดับปาร์ตี้ลิสต์ เรื่องจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยไหม? เรื่องบริหารงานในพรรค การแข่งขัน และเรื่องมุมมองแตกต่างกันในชิงธงนำในการเลือกตั้ง แน่นอนผู้บริหารหรือโปลิตบูโรก็ได้ ก็มีคนเห็นต่าง ประเด็นใหญ่ก้าวไกล ต้องการให้คนเห็นต่างแสดงความเห็นไหม ถ้าไม่มีช่องทางให้สะท้อนจริงก็เดินหน้าออกสื่อต่อไป ในพรรคก้าวไกลไม่มีทางโชคดีเป็นอาจารย์ปิยบุตร ถ้าเป็นคนอื่นไม่รู้ว่าจะได้เห็นภาพจับมือแบบนี้หรือเปล่า มันเป็นเรื่องทำอย่างไรให้ชนะเลือกตั้ง

แล้วส่งผลกระทบพรรคก้าวไกลในอนาคตไหม

ในสายตาผมไม่มาก แทบไม่กระทบเลยเป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าก้าวไกล ไม่ใช่พรรคของคนใดคนหนึ่ง มันก็ต้องมีทะเลาะกันถกเถียงกันได้ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต่างพรรคที่มีเจ้าของพรรคที่มีเถ้าแก่ ก็แบบนี้ล่ะ เมื่อเห็นไม่ตรงกันก็แบบนี้ ยืนยัน ผมว่าไม่กระทบกระเทือนเลย แฟนคลับพรรค "แฟนคลับพรรคสีส้ม" ไม่น่าจะแคร์ละครับ

แล้วถ้าไม่ใช่กลุ่มแฟนคลับล่ะ เพราะถ้าจะชนะเลือกตั้ง ต้องมีกลุ่มอื่นมาสนับสนุนเพิ่มขึ้นด้วย

"อันนี้ก็อยู่ที่ว่า พรรคก้าวไกล จะเน้นทำ "กลุ่มแฟนคลับ" หรือ "กลุ่มตรงกลาง" พรรคก้าวไกลเน้นทำ "กลุ่มแฟนคลับ" ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จะสามารถชนะเลือกตั้งได้หรือเปล่า ต้องรอให้พรรคก้าวไกลเปลี่ยนกลยุทธ์ไปหรือเปล่า" นายคริส กล่าว...

เหนือสิ่งอื่นใด แม้ตอนนี้ความขัดแย้งเหมือนเคลียร์กันจนจบชื่นมื่นแล้วตามภาพของทั้งคู่กอดกัน ที่ส่งสัญญาณออกมา แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว จะเหมือน "ภูเขาไฟรอวันปะทุ" อีกหรือไม่

งานนี้จึงต้องจับตา ยิ่งเมื่อพรรคก้าวไกล กำลังจะเข้าสู่สมรภูมิเลือกตั้ง ภาพความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันสู้ศึก จึงมีความสำคัญ ไม่ยังงั้นอาจได้ ส.ส. แค่ 30 ที่นั่ง อย่างที่อาจารย์ปิยบุตร โพสต์เฟซฯ หากยังไม่แก้ไข คาดการณ์ไว้ก็เป็นได้

ผู้เขียน:เดชจิวยี่

กราฟิก:sathit chuephanngam

คุณกำลังดู: เลือกตั้ง : 2566 "ก้าวไกล" พรรคเกือบแตก เบื้องลึก เพราะ "โปลิตบูโร" จริงหรือ?

หมวดหมู่: การเมือง

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด