"ลุงแจ้" แบ่งรับแบ่งสู้หลังรู้ผล DNA ช่วยหาน้องต่อก่อน ยังไม่เข้าเครื่องจับเท็จ

"ลุงแจ้" แบ่งรับแบ่งสู้หลังรู้ผล DNA ช่วยหาน้องต่อก่อน ยังไม่เข้าเครื่องจับเท็จ

ลุงแจ้ เผยหลังรู้ผล DNA ชี้น้องต่อเป็นลูก โดยเจ้าตัวยังแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่เพราะยังไม่เห็นหลักฐาน ยันไม่ได้เอาเด็กไปและยังไม่เข้าเครื่องจับเท็จ วอนสังคมขอพื้นที่ให้ยืนบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 ก.พ. 2566 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พนักงานสอบสวน ได้นำตัวนายสุรชัย แซ่เฮ้ง หรือ ลุงแจ้ อายุ 55 ปี เพื่อนสนิทพ่อของนิ่ม แม่น้องต่อ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บางหลวง ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงลุงแจ้ในกรณีดังกล่าวว่า ได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้อย่างไร

ลุงแจ้ เปิดเผยว่า เวลานี้กระทบกับตนเองทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานหรือการทำมาหากิน ชาวบ้านที่นับหน้าถือตา ลำบากใจกันไปหมด ส่วนผลดีเอ็นเอออกมา ผมทราบเพียงคร่าวๆ แต่ยังไม่รู้รายละเอียด ยอมรับว่ารู้สึกตกใจแต่ยืนยันและให้การอย่างเดิมว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปของเด็ก

"อยากให้มุ่งประเด็นไปเรื่องของเด็กหายมากกว่า เพราะหายตัวไปนานแล้ว ตอนนี้ยอมรับว่าสภาพจิตใจเครียด คนที่นับหน้าถือตาและลูกหลานก็เครียด สื่อก็ตามไปบ้านแล้วติดตามตลอด รู้สึกลำบากใจแต่บริสุทธิ์ใจว่าตนไม่ได้เอาเด็กไป สำหรับผลดีเอ็นเอที่ออกมา ตอนนี้ ส่วนตัวก็ไม่มั่นใจว่าน้องต่อเป็นลูกผมหรือไม่ และเพิ่งรู้จักเรื่องผลตรวจจากสื่อ แต่ยังไม่เห็นหลักฐาน" เพื่อนของพ่อแม่น้องต่อ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าหากผลตรวจรู้แน่ชัดว่าน้องต่อเป็นลูก ลุงแจ้จะรู้สึกอย่างไร ลุงแจ้ เผยว่า ตอนนี้ก็ช่วยกันตามหาน้องต่ออยู่แล้ว พร้อมกับลงพื้นที่กับตำรวจ ส่วนตัวแล้วก็รักเด็กในหมู่บ้านทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานหรือเด็กทั่วไป สำหรับนิ่มยังไม่มีโอกาสได้คุยกันส่วนมาก ภายหลังก็ไม่ได้คลุกคลีกันแล้ว มักจะเป็นตัวประสานให้กับพ่อนิ่ม หากนิ่มติดต่อพ่อไม่ได้ ก็จะโทรมาที่ตนให้เป็นสื่อกลางเฉย โดยผลตรวจ DNA ออกมาว่าลุงแจ้เป็นพ่อ สังคมมองและตั้งข้อสงสัยว่า ลุงแจ้เอาเด็กไปหรือไม่ ขอบอกตามตรงว่าไม่ได้เอาเด็กไปอย่างแน่นอนแล้วก็ไม่เกี่ยวข้อง เพราะวันที่เกิดเหตุตนพาพระไปบิณฑบาต ในจุดนั้นก็มีวงจรปิดไปตรวจสอบได้ และไม่มีเหตุผลที่จะต้องเอาตัวเด็กไป

ลุงแจ้ กล่าวด้วยว่า อยากให้สังคมเห็นใจด้วย เพราะยังเป็นยังมีคนที่นับหน้าถือตากัน ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว ยอมรับว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อยู่แล้ว สุดท้ายแล้วหากเราโดนแจ้งข้อหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรากผู้เยาว์ ก็ต้องตามแก้ไขกันต่อไป แต่คิดอยู่ว่าอาจจะโดนดำเนินคดี แต่เรื่องเด็กหายสำคัญกว่า ส่วนความสัมพันธ์ของลุงแจ้กับนิ่ม พุทธคงรู้แล้ว และได้ขอโทษพ่อของนิ่มไป ได้คุยกันบ้างแล้วแต่ก็ไม่ได้มีเหตุอะไรรุนแรง ทั้งนี้สรุปว่า ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยังไม่ได้เดินทางไปที่อื่น หรือยังไม่ได้มีการเข้าเครื่องจับเท็จแต่อย่างใด.

คุณกำลังดู: "ลุงแจ้" แบ่งรับแบ่งสู้หลังรู้ผล DNA ช่วยหาน้องต่อก่อน ยังไม่เข้าเครื่องจับเท็จ

หมวดหมู่: ภูมิภาค

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด