เมียร้องความเป็นธรรม สามีตกเป็นแพะคดียาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด โทษสูงถึงประหาร

เปิดปากกับภาคภูมิ ครอบครัวร้องขอความเป็นธรรม หลังสามีตกเป็นแพะคดียาเสพติด โทษสูงถึงประหาร มั่นใจเป็นผู้บริสุทธิ์

วันที่ 6 มี.ค. 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" โดย ภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 วันนี้ พูดคุยกับ นางวาสนา โปวังสา อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นภรรยา ได้ร้องขอความเป็นธรรมกรณี นายสุวรรณ โปวังสา ผู้เป็นสามีตกเป็นแพะคดียาเสพติด ซึ่งมีโทษสูงถึงประหาร

ทั้งนี้ นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้จับยาบ้าที่ จ.อุดรธานี โดยสถานที่เกิดเหตุมีชายไม่ทราบชื่อขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาพร้อมกับวัตถุบางอย่าง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวตรวจค้น แต่คนขับได้หลบหนีไปได้ ต่อมาตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 198,000 เม็ด และภายหลังตรวจสอบพบว่า ชื่อเจ้าของรถจักรยานยนต์คือ นายสุวรรณ โปวังสา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็น นายสุวรรณ จึงเกิดเป็นคำถามว่า ในวันเกิดเหตุ นายสุวรรณ อยู่ที่ไหนกันแน่ ซึ่งต่อมาได้หมายจับออกวันที่ 27 ม.ค. 66

ด้านนางวาสนา ภรรยา เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 มี.ค. 64 ยืนยันว่า สามีอยู่ที่โรงงานใน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเลิกงานก็ไปตกปลากับเพื่อน กลับมาถึงบ้านเวลา 20.00 น. ซึ่งระยะทางที่สามีจะไปก่อเหตุแทบเป็นไปไม่ได้ จนช่วงปี 2565 สามีมีสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี จึงกลับไปอยู่บ้าน จ.บึงกาฬ จนกระทั่ง วันที่ 21 ก.พ. 66 ก็ถูกตำรวจเดินทางไปจับกุม

ขณะที่ ลูกสาว เปิดเผยว่า เมื่อปี 2562 ตนได้งานที่ จ.อุดรธานี ได้โทรมาขอให้พ่อส่งรถจักรยานยนต์มาให้ เพื่อใช้ขี่ไปทำงาน ซึ่งตนทำงานได้ไม่นานก็มาทำงานกับเพื่อนที่กรุงเทพฯ ส่วนรถจักรยานยนต์ได้ฝากน้องที่สนิทกัน จนช่วงโควิดได้กลับมาที่ จ.อุดรธานี และได้เจอกับแฟน รวมทั้งได้ย้ายไปอยู่บ้านแฟนพร้อมรถจักรยานยนต์ แต่อยู่ด้วยกันสักพัก ก็มีน้องมาชวนไปขายยำที่ตลาดนัด ส่วนรถจักรยานยนต์ก็จอดไว้ที่บ้านแฟน ซึ่งแฟนก็ได้ใช้ด้วย

โดยปี 2564 ตนได้เดินทางไปหาแม่ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 64 ช่วงที่เกิดเหตุตนได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่บ้านแฟน แต่ผ่านไปประมาณ 2-3 วัน ตนก็เริ่มเอะใจ เพราะไม่เห็นรถจักรยานยนต์ แต่แฟนก็บ่ายเบี่ยง แต่เมื่อถามอีกครั้งแฟนก็ยอมบอกว่า พี่ที่รู้จักกันได้ขอยืมรถจักรยานยนต์ไปทำธุระ โดยพี่คนนั้นบอกว่ามีตำรวจไล่บี้ จึงทิ้งรถไว้แล้วหนีไปกบดานที่หมู่บ้านอื่น ส่วนรถจักรยานยนต์คาดว่าโดนตำรวจเอาไปแล้ว แต่ปัจจุบันตนได้เลิกกับแฟนคนนี้แล้ว วันที่พ่อโดนจับตนก็ไปหาอดีตแฟนที่บ้าน แต่ไม่เจอตัว

ทนายโนบิ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การจะจับใครสักคนเพราะมีชื่อครอบครองรถคิดว่ายังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ หากไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุยิ่งมีโอกาสยกสูงมาก และชุดจับกุมจะรับผิดชอบไหวไหม และยาบ้า 198,000 เม็ด จะต้องมีการขยายผล ก็จะได้ไทม์ไลน์ว่า นายสุวรรณ ในเวลานั้นทำอะไรบ้าง หรือเรียกตัวมาสอบปากคำ จะทำให้นายสุวรรณได้มีโอกาสได้นำหลักฐานมาชี้แจง

นางวาสนา อ้างอีกว่า หลังจากสามีโดนจับก็พยายามจบชีวิตในห้องขัง แต่ช่วยได้ทัน เพราะสามีน้อยใจ เขาบอกว่าเขาไม่ได้ทำ และคดีนี้โทษก็หนักจนถึงประหารชีวิต รวมทั้งตำรวจก็บอกว่า รับๆไป ติดคุกก็ยังมีวันออก

ด้าน นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยก” จากเพจเฟซบุ๊ก เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย กล่าวว่า หลังจากเขามาร้องเรียนก็ได้สอบถามนางวาสนาว่าบริสุทธิ์จริงหรือไม่ ซึ่งนางวาสนาก็ได้นำหลักฐานมาให้ดู และที่แน่ใจคือ หลักฐานว่าวันเกิดเหตุ นายสุวรรณ ทำงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ประสานให้นักจิตวิทยาเข้าไปดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ส่วนในด้านการช่วยเหลือจะให้กองทุนยุติธรรมช่วยในเรื่องเงินประกันตัว และทนายความ ส่วนจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล เราก็ต้องพยายามสนับสนุนในเรื่องข้อมูลให้ศาลเห็นว่าผู้ต้องหาไม่น่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุ หากสุดท้ายแล้วพบว่าเป็นแพะ ก็สามารถเรียกร้องค่าชดเชยได้

คุณกำลังดู: เมียร้องความเป็นธรรม สามีตกเป็นแพะคดียาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด โทษสูงถึงประหาร

หมวดหมู่: ภูมิภาค