นายกฯ เผย ครม. เคาะช่วยลดค่าไฟเร่งด่วนงวด พ.ค. เตรียมส่งเรื่องให้ กกต.

ครม. ถกนานกว่าชั่วโมงเคาะช่วยค่าไฟเร่งด่วน 1 เดือน “บิ๊กตู่” เผย คนใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วย ให้ส่วนลด 150 บาท ส่วนกลุ่มเปราะบาง ขยายเวลาต่อไปถึง ส.ค. 2566 ห่วงพรรคการเมืองนำไปใช้หาเสียง

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 25 เมษายน 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้นว่า วันนี้มีเรื่องพิจารณาน้อย หากมีเรื่องการใช้งบประมาณจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญในช่วงเลือกตั้งที่จะต้องใช้งบกลาง ซึ่งทุกคนอยากทราบว่ารัฐบาลดูแลเรื่องพลังงานช่วงนี้หรือเปล่า และดูแลมาอย่างไร

ที่ผ่านมาต้องย้อนกลับไปเรื่องการดูแลอยู่ที่ 150 หน่วยอย่างไร 300 หน่วยอย่างไร และวันนี้เพิ่มเป็นใช้ไฟฟ้าไม่เกิน500 หน่วย ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 150 บาท ไปเพิ่มให้เขา ซึ่งความเป็นมาในเรื่องของพลังงานมีรายละเอียดเยอะ มีปลีกย่อยอีกมากมาย ส่วนพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียน ก็อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างทั้งสิ้น ไม่ได้ไปใช้จ่ายตรงนั้นมาบวกลบตรงนี้ คนละเรื่องกัน เป็นการเตรียมการสู่อนาคต ซึ่งจะมีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม รวมความไปถึงส่วนคณะกรรมการกำกับนโยบายพลังงานด้วย

ทั้งนี้ ขอให้ไว้วางใจซึ่งกันและกัน เราพยายามจะทำให้ดีที่สุด ก็เป็นข้อกังวลเหมือนกันกรณีที่มีการไปหาเสียงต่างๆ ว่าจะลดลงเท่านั้นเท่านี้ ถ้ามาดูไส้ในแล้วจะรู้ว่ามีรายละเอียดมากมาย มีทั้งเหตุผลและความจำเป็น สิ่งสำคัญที่สุดเราพยายามที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางด้านรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ที่มีการพูดถึงสิ่งที่เราอนุมัติไป 2 งวด ทำให้เกิดภาระ ซึ่งจริงๆ แล้วยังไม่ได้สร้าง เป็นการอนุมัติไว้เฉยๆ และที่บอกว่าเกินไป 50-60% ไม่ใช่ตัวเลขนั้น ฉะนั้น ต้องเข้าใจกัน อย่าไปหาเสียงทำให้เกิดความตื่นตระหนก หรือไม่เข้าใจ หรือทำให้การบริหารมันทำไม่ได้ รายละเอียดปลีกย่อยเขาจะมีการชี้แจงเพิ่มเติม

“เมื่อกี้ใน ครม. ได้คุยกันเป็นชั่วโมงก็เข้าใจกันดีในขั้นต้น และเห็นชอบในการที่จะอนุมัติเพิ่มเติมให้ 150 บาทต่อ 500 หน่วย เพิ่มขึ้น ซึ่งวันนี้ค่าเฉลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งด้านอุตสาหกรรมและประชาชนก็เท่ากัน เดิมเสียสละมาเป็น 5 บาทอะไรทำนองนี้ ตอนนี้ก็ลดลงมา ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นภาระของภาคอุตสาหกรรม แต่เราก็ดูแลหมด การดูแลคนส่วนใหญ่มันลำบากเหมือนกัน แต่ละประเภทมีคนจำนวนเท่าไรๆ ก็มุ่งเป้าตรงนี้ว่าจะแก้ปัญหาให้เขาอย่างไร”

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการช่วยเหลือค่าไฟใช้งบประมาณเท่าไร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า 3,500 ล้านบาท ไม่ได้คิดของเดิมที่ใช้จ่ายไปแล้ว 1 แสนกว่าล้านบาท ลดภาษีบ้างอะไร วันนี้ก็ใช้มาอีก 3,500 ล้านบาท ถ้าใช้ต่อไปอีก ทั้งหมดน่าจะประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท เมื่อถามว่าจะดูแลประมาณกี่เดือน และส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้ผ่าน ครม. แล้ว ก็ต้องนำส่งให้ กกต. พิจารณา ซึ่งสถานการณ์ค่าพลังงานยังไม่แน่นอน ขึ้นๆ ลงๆ อยู่แบบนี้มาโดยตลอด ฉะนั้น ต้องดูว่าจะทำอย่างไร ก็แก้ปัญหาไป แต่ปัญหาของเรางบประมาณจำกัดพอสมควรเหมือนกัน หนี้สินเก่าจากการลดนู่นนี่ให้เขาก็มีอยู่ เพราะเป็นการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมทุกภาคส่วนที่มีการร่วมกันในการบริหารจัดการพลังงาน เพราะรัฐบาลไม่สามารถที่จะลงทุนทั้งหมดได้ เอกชนมาร่วมลงทุนด้วย แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายกติกาที่มีอยู่ทุกประการ สิ่งใดที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ซึ่งเป็นปัญหาทางกฎหมายได้ให้กระทรวงพลังงานส่งสัญญาต่างๆ ไปให้กรมอัยการได้พิจารณาดูแล้ว ในขณะนี้ได้รับรายงานอย่างนั้น ว่าเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมเพราะหลายสัญญาทำมานานพอสมควร

ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงระยะเวลาในการดูแลค่าไฟฟ้าประมาณกี่เดือน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “หน้าร้อนเดือนนึง ตอนนี้คือหน้าร้อนอยู่ อากาศร้อนคนก็มีโอกาสใช้พลังงานสูงขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปเร่งความเย็น เขาชี้มาแล้วว่าเป็นการเพิ่มการใช้พลังงานมากขึ้น 2-3 เท่ากว่าปกติ หลายคนคิดว่าเปิดเหมือนเดิมแต่เร่งแอร์ให้เย็นขึ้น ก็เป็นการเพิ่มการใช้พลังงาน 2-3 เท่า คงต้องฟังเหตุผลบ้าง ฉะนั้น การที่จะนำบิลค่าเก็บเงินมาดูอย่าเทียบเฉพาะทางขวามือที่เป็นราคาค่าไฟฟ้าประจำเดือน กรุณาเสนอให้ครบทั้งซ้ายและขวา ซึ่งทางซ้ายคือจำนวนหน่วยพลังงานที่ใช้ และเดือนที่แล้วกับเดือนนี้มันต่างกันอย่างไร ตรงนั้นคือประเด็นสำคัญ ไม่เช่นนั้นจะเข้าใจกันผิดทั้งหมด”

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงกลุ่มเปราะบาง โดยยืนยันว่าต้องดูแล เพราะมีหลายสิบล้านคน และรัฐบาลต้องระมัดระวังการใช้งบประมาณให้พอเพียง มุ่งเป้าไปตรงไหนอะไรอย่างไร รัฐก็ต้องดูแลกลุ่มเปราะบางให้มากที่สุด ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “มีอะไรจะถามไหมเรื่องพลังงาน ผมว่าพอแล้ว มันปวดหัว”

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมว่ามาตรการดังกล่าวช่วยเหลือประชาชนระยะเร่งด่วนกำหนดส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในรอบบิลเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นเดือนที่มีสถิติความต้องการไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ และจะเริ่มลดลงในเดือนมิถุนายน เพื่อเป็นลดภาระของประชาชน ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดจำนวน 150 บาทต่อราย จำนวน 23.40 ล้านราย โดยใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 3,510 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

ขณะที่กลุ่มเปราะบาง ครม. มีมาตรการต่อเนื่อง สำหรับงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 (4 เดือน) ดังนี้

1. ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้า ตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย

2. ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 67.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย

คุณกำลังดู: นายกฯ เผย ครม. เคาะช่วยลดค่าไฟเร่งด่วนงวด พ.ค. เตรียมส่งเรื่องให้ กกต.

หมวดหมู่: การเมือง