"ณัฐวุฒิ" เชื่อ "แพทองธาร" ไม่เจอเหมือนพ่อ-อา "อิ๊งค์-โอ๊ค" กลั้นน้ำตา

"ณัฐวุฒิ" ขอบคุณ "ไตรรงค์" ช่วยเพื่อไทยหาเสียง บอกประเทศคงไม่มาถึงจุดนี้ ถ้า 2 ป.ไม่แย่งเก้าอี้นายกฯ กันเอง เชื่อ "อิ๊งค์" ไม่เจอชะตากรรมเหมือนพ่อ-อา "อิ๊งค์-โอ๊ค" กลั้นน้ำตา ยกมือไหว้ขอบคุณ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยใหญ่ ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง เชียงใหม่ ว่า การปราศรัยวันนี้นึกถึงเวทีการปราศรัยเมื่อวานที่จังหวัดนครราชสีมาในช่วงที่ ประชาสัมพันธ์ไว้ว่า จะมีคนมาฟังการปราศรัยครึ่งแสน แต่เมื่อถึงเวลาที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นปราศรัยที่ปักหลักไม่ไปไหนเลยคือเก้าอี้ ก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนแล้ว แต่พลเอกประยุทธ์ ก็โดนหลอกจนได้ เพราะขนาดกับ "ย่าโม" ยังโดนต้มเลย

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตั้งแต่จำความได้ ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย จังหวัดเชียงใหม่ได้ส.ส.ยกจังหวัด ตั้งแต่ยุคทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และวันนี้มายุคของนางสาวแพทองธาร ก็เช่นเดียวกัน แม้ ส.ว.วันชัย สอนศิริ จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า นางสาวแพทองธาร ไม่มีดีอะไรนอกจากเป็นลูกสาวทักษิณ แต่การจะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่แค่เป็นลูกสาวทักษิณ แต่ต้องมีนโยบาย เดินพบปะประชาชนและได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน ต่อให้ทักษิณมาเองถ้าประชาชนไม่เลือกก็ไม่ได้เป็น แต่ถ้าประชาชนเลือกให้แลนด์สไลด์ยังไงก็ได้เป็น

และเหตุที่นางสาวแพทองธาร และนายพานทองแท้ ออกมาต่อสู้อยู่ตรงนี้ ทั้งที่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ “ก็เพราะพวก...รังแกพ่อ รังแกอาเขาไง แค่นี้ยังคิดไม่ได้ไปนั่งอยู่ในสภาฯ ได้ยังไง” ถ้าไม่ปฏิวัติพ่อเขา ปฏิวัติอาเขา ป่านนี้นายกฯ ทักษิณ อาจยังเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ก็นำพาประเทศไทยให้คนไทยพ้นความยากจน แล้วประกาศแขวนนวมอย่างสง่างาม

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า บ้านเมืองคงไม่เลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ถ้าพี่น้องสองคน ที่คบหากันมา 40-50 ปี มาเล่นเกมแย่งเก้าอี้กัน อยากเป็นนายกฯ กันทั้งคู่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อยากรักษาเก้าอี้ พล.อ.ประวิตร ก็อยากได้เก้าอี้ แย่งกันจนบ้านเมืองป่นปี้ “มานี่จะพาไปซื้อเก้าอี้บ้านถวายคนละตัว จะได้ไม่ต้องปวดหัวกันทั้งบ้านทั้งเมือง ทีแรกเล่นซ่อนหา ตอนนี้มาเล่นเกทับกัน”

นางสาวแพทองธาร บอกว่า เพื่อไทยขึ้นค่าแรง 600 พล.อ.ประวิตร บอกว่า ขึ้นบัตร 700 พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ขึ้นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 1,000 คิดว่าไม่กี่วัน พล.อ.ประวิตร คงประกาศเป็น 1,500 แต่ปัญหาคือทำได้หรือไม่ เมื่อคราวหาเสียงปี 62 อยู่ในพรรคพลังประชารัฐด้วยกัน ประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทยังทำไม่ได้ ราคายาง 65 บาทก็ทำไม่ได้ ข้าวหอมมะลิ 20,000 บาทก็ทำไม่ได้ อะไรก็ทำไม่ได้สักอย่าง แต่เรือดำน้ำคนห้ามว่าอย่าซื้อ กลับแอบซื้อจนได้

แต่สิ่งที่นางสาวแพทองธารประกาศ คือ คำพูดของลูกผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมั่นใจว่า จะซื่อตรงและรักษาสัญญากับประชาชนมากกว่าชายชาติทหารบางคน แต่ไอ้นั่นโกหกตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา

พรรคเพื่อไทยตรงไปตรงมากับคำสัญญา รับผิดชอบกับทุกนโยบาย ที่ผ่านมา ถ้าทำนโยบายต่างๆ ตั้งแต่สมัยไทยรักไทยไม่ได้ จะไม่มีพรรคเพื่อไทยในวันนี้ เพราะทำได้มาตลอด ประชาชนจึงปกป้องและหวงแหน แม้จะยึดอำนาจแต่ก็ฆ่าไม่ตาย ยึดอำนาจทักษิณก็มียิ่งลักษณ์ ยึดอำนาจยิ่งลักษณ์ก็มีแพทองธาร บางคนขู่ว่า ถ้าแพทองธารเป็นนายกฯ ขึ้นมาจริงๆ จะถูกปฏิวัติอีก ไม่ได้อยู่ในประเทศ ถ้าตอนนี้ยึดอำนาจแพทองธาร ยังมีลูกพานทองแท้อีก 2 คน แพทองธารอีก 2 คน และพินทองทาอีก 3 คน ทีนี้มาพร้อมกันทีเดียว 7 คนเป็นแคตตาล็อก เลือกจนเวียนหัว ขอให้คิดดีๆ อย่าหาว่าตนไม่เตือน

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทย อีกหนึ่งนโยบายด้านการเกษตร โดยจะมีโครงการโคขุนล้านตัว เพื่อให้ประชาชนไปเลี้ยงเพิ่มรายได้ เลือกพรรคเพื่อไทยได้วัวล้านตัว เลือกประยุทธ์ได้ควายตัวเดียว ตนไม่ได้ว่า ท่านเป็นควาย แต่ตนหมายความว่าถ้าเลือกประยุทธ์จะไม่มีโครงการเลี้ยงวัว เพราะอาจจะมีควายก็ได้ ดังนั้น จึงขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 11 เขตเลือกตั้งยกจังหวัด เพราะถ้าไม่เลือกเพื่อไทยเท่ากับให้ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ แต่ถ้าเลือกเพื่อไทยเท่ากับหยุด 3 ป. เดินหน้าประชาธิปไตย

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวว่า เมื่อคืนวานนี้รู้สึกใจหาย จากเวทีโคราชจนถึงวันนี้ยังรู้สึกไม่สบายใจ เพราะตนกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ มีไมตรีที่งดงามมาตลอด ไม่เคยกระทบกระทั่งกันทางการเมือง แต่เมื่อคืนนี้ ตนไม่สบายใจกับการปราศรัยของนายไตรรงค์ ที่ประกาศให้เลือกพรรคไทยรักไทย ที่ผ่านมา ตนไม่เคยว่าอะไรแต่เรื่องนี้ขอประท้วง เพราะตอนนี้หาเสียงให้ไทยรักไทยอยู่ แต่ท่านกลับแย่งไปได้อย่างไร แล้วตนจะไปหาเสียงให้พรรคไหน เรื่องอื่นประชาชนจะเชื่อนายไตรรงค์หรือไม่ก็ว่ากันไป แต่เรื่องนี้ขอให้เชื่อนายไตรรงค์ เลือกพรรคไทยรักไทยยาวๆ ไป แม้ไทยรักไทยไม่มีในบัตรเลือกตั้ง ก็เลือกดีเอ็นเอไทยรักไทยคือพรรคเพื่อไทย

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า ก่อนที่ตนจะขึ้นปราศรัย ได้ชมปราศรัยของนางสาวแพทองธารที่หยุดไปช่วงหนึ่ง เพราะหายใจไม่ทัน ตนรู้ว่า ประชาชนและทุกคนก็เอาใจช่วย แต่บนเวทีมีชายคนหนึ่งน้ำตาคลอด้วยความเป็นห่วงน้องสาว นั่นคือ นายพานทองแท้ ตนจะบอกประชาชนว่า วันที่นายกฯ ทักษิณเข้าการเมือง ทั้งสองคนยังตัวเล็ก จึงไม่คิดจะเข้าการเมืองและไม่คิดว่า จะมาเจอแรงเสียดทานทางการเมืองขนาดนี้ ในวันที่ทั้งคู่ลูกยังเล็ก ยอมที่จะเอาชีวิตของตัวเองแขวนบนเส้นด้าย ซึ่งเป็นเส้นด้ายที่อันตรายเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความอำมหิต ซึ่งเป็นชะตากรรมที่ไม่มีใครในโลกบอกได้ ว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า สองคนนี้ไม่ใช่คนจน เพราะร่ำรวยมาแต่เกิด พ่อแม่ช่วยกันทำมาหากิน ตลอดชีวิตจะไม่มีความลำบากเลย ตราบลูกตราบหลาน เพราะทรัพย์ของครอบครัวที่มีอยู่ แต่สถานการณ์วันนี้ไม่ใช่เพราะเป็นลูกทักษิณ ไม่ใช่เพราะเป็นทายาทของอดีตนายกรัฐมนตรี แต่เป็นเพราะหัวใจที่สู้ของทั้งสองคน ที่ยังรักประชาชนและอยากทำงานตอบแทนให้กับประชาชน

นายณัฐวุฒิกล่าวต่ออีกว่า ถ้านายพานทองแท้ออกมาพยุงน้องสาวได้ เขาจะทำ แต่เมื่อนางสาวแพทองธาร ยืนประกาศตัวต่อคนทั้งประเทศ ว่า จะเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เมื่อน้องสาวถือธงนำทางการเมืองอยู่ นายพานทองแท้ก็เอาใจช่วยน้องสาว แต่ตนเองมั่นใจว่า ตลอดเส้นทางนี้ นางสาวแพทองธารจะปลอดภัยตลอดเส้นทางจะไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะจะอยู่ในอ้อมกอดของประชาชน

ซึ่งระหว่างที่นายณัฐวุฒิปราศรัยอยู่นั้นทั้งนางสาวแพทองธารและนายพานทองแท้นั่งฟังและน้ำตาคลอ พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา โดยนางสาวแพทองธารได้บีบแขน พร้อมกับเอามือลูบที่ท้อง โดยหลังจากที่นายณัฐวุฒิพูดจบ ได้ยกมือขอบคุณ

โดยจังหวะนี้ได้รับเสียงปรบมือทั้งจากแกนนำบนเวทีและประชาชนที่มาฟังการปราศรัย

คุณกำลังดู: "ณัฐวุฒิ" เชื่อ "แพทองธาร" ไม่เจอเหมือนพ่อ-อา "อิ๊งค์-โอ๊ค" กลั้นน้ำตา

หมวดหมู่: การเมือง