เปิดยุทธวิธีล้อมจับ "สารวัตรคลั่ง" ข้ามวันข้ามคืน ไขข้อสงสัยใช้เวลานานไหม

เปิดยุทธวิธีล้อมจับ "สารวัตรคลั่ง" ข้ามวันข้ามคืน ไขข้อสงสัยใช้เวลานานไหม

เปิดปากกับภาคภูมิ พูดคุยกับหลายฝ่าย ปมยุทธวิธีล้อมจับ "สารวัตรคลั่ง" ใช้เวลาข้ามวันข้ามคืน นานเกินไปหรือไม่ หลังกระแสสังคมตั้งข้อสงสัย

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 มีนาคม 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ กรณีสารวัตรกานต์ หรือสารวัตรศูนย์พัฒนาด้านการข่าว บช.สันติบาล วัย 51 ปี ป่วยและมีอาการคลั่ง ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ รพ.ตำรวจ และเพื่อนๆ ที่มารับบริเวณที่พัก ย่านสายไหม 46 ไปรักษาหลังขาดราชการหลายวัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้ยุทธวิธีในการปฏิบัติการนานข้ามวัน

คุณทัศนีย์ พุฒแก้ว ประธานหมู่บ้านมั่นคง 9 กล่าวว่า บ้านของสารวัตรกานต์เป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น อยู่ห่างจากบ้านของตนประมาณ 26 หลัง ซึ่งสารวัตรกานต์มาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ปีกว่า ที่ผ่านมาไม่มีอาการแบบนี้ พฤติกรรมยิงปืนขึ้นฟ้าเพิ่งมาเกิดช่วงหลัง ซึ่งลูกบ้านได้โทรมาหาตนประมาณตอน ตี 1 โทรมาบอกว่า นอนไม่ได้เลย

ตนจึงประสานไปทาง สน.ให้มาช่วยดู ซึ่งสารวัตรมีอาการหนักมากในวันที่ 13 มีนาคม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับปากว่าจะมาดูให้ ประกอบกับลูกบ้านก็ไม่ได้โทรหาตน จึงคิดว่าอาการน่าจะสงบลง จนช่วงเช้าวานนี้ (14 มีนาคม) เวลาประมาณ 8-9 โมง ก็มีคนจะพาเขาไปรักษา แต่สารวัตรบอกว่าไม่ไป จนเกิดเหตุขึ้น

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า สารวัตรกานต์เป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนเรียบง่าย เป็นที่รักของเด็กๆ เพราะเวลาไปซื้อของแล้วเจอเด็กก็จะซื้อขนมให้ จนกระทั่งไม่นานมานี้สารวัตรเริ่มบ่นว่า มีเรื่องเครียด จากปกติมาซื้อเบียร์ 2 ขวด ช่วงหลังซื้อ 8-9 ขวด ซึ่งสารวัตรบอกว่าเครียดเพราะเปลี่ยนที่ทำงาน

ส่วนเรื่องที่สังคมบอกว่าตำรวจใช้เวลานานนั้น ตนเข้าใจความยากลำบากของการทำงาน สารวัตรกานต์อยู่ในที่ที่ได้เปรียบ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปก็โดนยิงสวน ขณะเดียวกันสารวัตรกานต์ก็ไม่ได้ทำร้ายชาวบ้าน เขาคลุ้มคลั่งอยู่ในบ้าน ดังนั้นเราจึงพาชาวบ้านที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ

ล่าสุดที่ตนได้คุยกับชาวบ้าน ส่วนใหญ่ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำให้สถานการณ์คลี่คลายอย่างรวดเร็ว และไม่มีใครได้รับความเสียหาย แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้เจ้าหน้าที่กลับไปดู ไปถอดเทปคือตอนที่สารวัตรพูดตอนคลุ้มคลั่งว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อยากให้ดูว่าสิ่งที่เขาพูดมีข้อเท็จจริงหรือไม่ และสิ่งที่พูดอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ก็ได้

นายธิติพงศ์ อินนทร์สืบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯสยามรวมใจปู่อินทร์ เปิดเผยว่า วานนี้ (14 มีนาคม) ทางทีมได้รับแจ้งเหตุเวลา 12.10 น. ไปถึงที่เกิดเหตุเวลา 12.15 น. และได้สแตนด์บายเฝ้าเหตุการณ์ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงปืนเป็นระยะจนถึงช่วงเย็น มีการยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในบ้านของสารวัตร แต่ควันฟุ้งออกมาจึงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่ไปในที่ที่ปลอดภัย รวมทั้งให้ครอบครัว และเพื่อนของสารวัตรเข้ามาพูดคุย ร้องเพลง แต่เขาก็ไม่ออกมา หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา นอกจากควันที่แสบแล้ว รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณนั้นล้มทั้งหมด

ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือรองแต้ม เปิดเผยว่า จากที่ดูเหตุการณ์ ส่วนตัวมองว่า สารวัตรไม่ใช่อาชญากรไปฆ่าคนตายมา เขาอยู่ในบ้านแล้วคลุ้มคลั่ง ดังนั้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องมีมาตรการว่าจะทำอย่างไร 1.เขาไม่มีตัวประกัน จึงต้องใช้การเจรจาจากเบาไปหาหนัก ต้องมาวิเคราะห์ว่าสารวัตรเครียดจากอะไร ที่สำคัญเราไม่รู้ว่าในบ้านของสารวัตรมีอาวุธอะไรบ้าง มีระเบิดหรือไม่

ส่วนตัวไม่อยากให้เอาเรื่องเวลาในการปฏิบัติมาเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ แต่ต้องดูที่ผลว่าออกมาแบบใด การทำหน้าที่วันนี้ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบต่อร่างกาย ส่วนแก๊สน้ำตาเป็นเรื่องปกติของการทำงาน และหากวันนี้ผู้ก่อเหตุไม่ใช่สารวัตร เป็นคนธรรมดาแต่ไม่มีตัวประกันตำรวจก็จะใช้มาตรการเดียวกัน และที่สำคัญหลังเกิดเหตุผู้บังคับบัญชาต้องไปถอดบทเรียนว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากอะไร

นอกจากนี้ ในรายการได้สอบถามไปยัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตอนนี้ผู้ก่อเหตุอยู่ในการดูแลของแพทย์ในห้องไอซียู อาการปลอดภัย ในส่วนของการปฏิบัติการ เมื่อคืนผู้ก่อเหตุเขาดูความเคลื่อนไหวของตำรวจผ่านทางไลฟ์สดตลอด ตอนเช้าทางตำรวจจะเอาหุ่นยนต์เข้าไปเขาก็ยิงเราอีก ซึ่งท่าน ผบ.ตร. ได้โทรมาตอนเช้าว่าจะเข้ามาดู พอถึงหน้างานก็เจรจาต่อรอง ซึ่งฝ่ายผู้ก่อเหตุหลุดโลกไปแล้ว

ประกอบกับวานนี้ (14 มีนาคม) ตำรวจได้พูดคุยกับจิตแพทย์ ก็พูดว่า อาการของสารวัตรเกินขีดความสามารถของการเจรจาแล้ว ทางกรมสุขภาพจิตก็ส่งทีมจิตแพทย์มาประเมิน ซึ่งเราได้วางแผนแล้วตั้งแต่เมื่อคืน แต่ไม่สามารถบอกสื่อมวลชนได้ ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ทำตามกระแสของโซเชียล หรือเกรียนคีย์บอร์ด ผู้ก่อเหตุไม่มีตัวประกัน และยังไม่เป็นภัยต่อประชาชน ซึ่งทางตำรวจก็ประเมินสถานการณ์ตลอด เรามีขั้นตอนการทำงานจากเบาไปหาหนัก

"เราใช้มาตรฐานเดียวกัน ผมไม่ได้มองเขาเป็นตำรวจ หรือคนร้าย แต่มองเขาเป็นผู้ป่วยต้องได้รับการบำบัด เป็นนโยบายแห่งชาติ"

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของบุหรี่เราส่งให้เขาเอง เพื่อจะได้มีคอนเทคในการพูดคุยกับเขา อย่าลืมว่าปัญหาของคนไม่ได้เกิดแค่ปัญหาเดียว แต่เกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งเขามีปัญหาทางด้านจิตใจ ส่วนเรื่องอื่นยังต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียด

ในส่วนของภาพภายในบ้านที่เห็นว่ามีอุปกรณ์คล้ายท่อพีวีซีและกระติกน้ำ ซึ่งในกระติกคือหุ่นยนต์ของตำรวจ สารวัตรเขารู้ว่าเราส่งเข้าไปเลยเอาหุ่นยนต์ใส่ในกระติก การปฏิบัติการของเราในครั้งนี้คือ ปฏิบัติการถ้าเขาเผลอ เราไม่ได้หวังชีวิตเขา ถ้าเราจะเอาชีวิตเขาคงไปตั้งแต่วันแรกแล้ว


อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเผยล่าสุดว่า ได้แจ้งข้อหาเรื่องประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตกับคู่กรณีแล้ว เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สามารถติดตามรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.

คุณกำลังดู: เปิดยุทธวิธีล้อมจับ "สารวัตรคลั่ง" ข้ามวันข้ามคืน ไขข้อสงสัยใช้เวลานานไหม

หมวดหมู่: ภูมิภาค

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด