ผบ.ตร.สั่ง จตช.สอบถอนหมายจับคดีทุนมินลัต ยันโยกย้าย ตร.ปรับให้เหมาะกับงาน

ผบ.ตร.สั่ง จตช.ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องถอนหมายจับคดีทุนมินลัต ขณะที่ยืนยันการแต่งตั้งโยกย้ายเป็นการปรับเปลี่ยนกำลังพลให้เหมาะสมกับการทำงาน ตามความเหมาะสมที่หมุนไปตามจังหวะประจำปี
วันที่ 13 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึง กรณีเอกสารการชี้แจงของตำรวจชุดทำคดีเครือข่ายทุนมินลัตว่า สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เรื่องนี้ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ส่วนหนึ่งทาง พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ได้แถลงชี้แจงไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทาง พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 บช.ปส. ได้แถลงความคืบหน้าทางคดีไปอีกส่วนหนึ่ง และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ได้ชี้แจงไปแล้วอีกส่วนหนึ่ง รวมถึงการตรวจสอบเรื่องถอนหมายจับ ทาง พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ จะตรวจสอบเรื่องนี้ถึงเหตุต่างๆ แต่ดุลยพินิจของศาล เราไม่อาจไปก้าวล่วง ท่านก็ใช้ดุลยพินิจของท่าน
ส่วนตำรวจจะตรวจสอบว่า เป็นเรื่องจริงอย่างไรหรือไม่ เหตุใดถึงต้องไป มีความจำเป็นขนาดไหนถึงไม่ได้ประสานกับ บช.ปส.เท่าที่เห็นรายละเอียดเป็นเหตุการณ์ก่อนที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่ง คดีนี้เกี่ยวเนื่องกันตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 มีการส่งสำนวนไปให้ทาง บช.ปส.แต่ทราบว่าวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ทางผู้กำกับการและสารวัตรได้ไปขอหมาย ซึ่งน่าจะเป็นวันแรกที่ทาง พล.ต.ต.ธีรเดช มารับตำแหน่ง ผบก.สส.บช.น. ซึ่งทาง พล.ต.ต.ธีรเดช บอกว่าไม่มีใครมารายงาน มารู้ทีหลังว่ามีการไปขอหมายจับและมีการถอนหมายจับ เป็นเรื่องที่เราจะตรวจสอบข้อเท็จจริง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ยืนยันเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ออกมาว่ามี ผกก.ถูกย้าย ชุดถูกย้ายต่างๆ สารวัตรถูกย้าย ขอชี้แจงว่า ในอำนาจของผม คือ ผกก.-รอง ผบก. ผมได้มีการโยกย้าย เป็นไปตามคำยืนยันหรือคำชี้แนะของผู้บัญชาการ ในการที่จะปรับเปลี่ยนกำลังพลให้เหมาะสมในการทำงาน ในส่วนของ สว.-รอง ผกก.เป็นอำนาจของผู้บัญชาการ ในส่วนของ ผกก.ที่ถูกย้าย สุดท้ายย้ายไปที่จเรตำรวจ ก็เป็นเพราะเรื่องผลการทำงาน ก่อนหน้านี้อาจจะมีผลงานอะไรผมก็ไม่ทราบ แต่เมื่อทางผู้บัญชาการยืนยันบอกว่า เขามีคนที่ทำงานได้ดีกว่า และดูจากผลประกอบการที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ใครมีผลงานมากน้อยเขาสามารถพิสูจน์ได้ แต่ไม่อยากพูดในตอนนี้ ซึ่งก็มีการหมุนไปตามจังหวะประจำปีไป
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการหมุนระดับ สว.-รอง ผกก.เป็นอำนาจของ บช.ของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถ้าดูจากการโยกย้ายแล้ว การปรับเปลี่ยนจากสารวัตรศูนย์สืบมาเป็นสารวัตรสืบสวนพญาไท ถือว่าไม่ได้มีอะไรที่เสียหาย และไม่มีผลต่อทางคดี เนื่องจากคดีนี้อยู่ในอำนาจของ บช.ปส.ไปตั้งแต่เดือนกันยายนด้วยซ้ำ และต่อมาทราบว่าอัยการสูงสุดเห็นว่า เป็นคดีนอกราชตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถือเป็นความรับผิดชอบของทางอัยการสูงสุด ซึ่งได้มอบให้ทาง ผบก.ปส.3 ร่วมกับทีมอัยการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของท่าน ไม่ได้เกี่ยวกับสารวัตรหรือไม่เกี่ยวอะไรอีกแล้ว สารวัตรอาจเป็นผู้กล่าวหา ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ แต่การรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ขึ้นอยู่กับชุดของคดีนอกราช
เมื่อถามถึงขั้นตอนการถอนหมายจับระบุว่า ให้ออกหมายเรียกภายใน 15
วัน ถ้าไม่มาตามหมายเรียก ให้ออกหมายจับ ซึ่ง พ.ต.ท.มานะพงษ์
ได้ไปร้องต่อ บช.ปส. ซึ่งทาง ปส.เงียบและหายไปนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์
กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงาน และ ผบก.ปส.3 ได้ชี้แจง
รวมถึงผมได้อ่านตามคำให้การของ ผบก.ปส.3 ไม่ได้เงียบ
แต่เป็นการหารือกันในคณะทำงานอยู่แล้วว่า
จะออกหมายเรียกใครอยู่ในขั้นตอน ไม่ใช่ว่าจะหายเงียบ ขั้นตอนต่างๆ
ผมเชื่อว่าคณะนี้จะให้คำตอบได้ดีที่สุด
และเชื่อว่าเดี๋ยวสังคมก็จะได้กระจ่างเอง ขอเวลานิดนึงในการทำงาน
ทุกอย่างเราต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย อย่าเพิ่งไปเห็นอะไรปุ๊บ
เราก็ตัดสินเลย
“ยกตัวอย่างที่ผมเห็นตัวอย่างได้ชัดเจน คือ โฆษก ตร.ได้ชี้แจงไป
แต่บางฉบับเองก็ยังลงไม่เหมือนกันเลย ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า
การขอหมายผู้บังคับบัญชาต้องรับรู้หมด มันใช้ดุลยพินิจได้
บางเรื่องขนาดให้ข่าวที่เดียวกัน ยังออกไปหลายรูปแบบ
ก็คิดว่าน่าจะต้องขอให้ทางคณะของทีมอัยการและตำรวจเป็นผู้ชี้แจงจะดีกว่า”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว.
คุณกำลังดู: ผบ.ตร.สั่ง จตช.สอบถอนหมายจับคดีทุนมินลัต ยันโยกย้าย ตร.ปรับให้เหมาะกับงาน
หมวดหมู่: อาชญากรรม