เพื่อไทย ปัดหาเสียงในสภา เย้ย "ลุงตู่" ทำมา 8 ปีล้มเหลว แต่ยังอาสาทำต่อ

"หมอชลน่าน" ยัน พรรคเพื่อไทยไม่ได้หาเสียงในสภา เย้ย "พล.อ.ประยุทธ์" ที่ทำมาแล้ว 8 ปี แต่ล้มเหลว ยังอาสาทำต่อ เตรียมยื่นเอาผิดฝ่าฝืนจริยธรรม
วันที่ 16 ก.พ. 2566 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประเมินการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี หรือ การอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของฝ่ายค้านในวันแรก (15 ก.พ. 2566) ว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ดี บรรลุเป้าหมาย นำเอาข้อเท็จจริง หรือปัญหาที่เกิดขึ้นมาอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งต่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา และชี้ว่าเรื่องจากการอภิปรายสามารถนำไปกล่าวหาตามมาตรา 151 ได้
ทั้งนี้ การอภิปรายเมื่อวานนี้ไม่ได้กล่าวหาว่าใครผิดอย่างไร แต่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาในบ้านเมืองที่เกิดความเสียหาย ซึ่ง ครม. มีหน้าที่บริหารโดยตรงจึงต้องเข้าไปดู ซึ่งประเด็นที่มีหลักฐานชัด สามารถนำไปยื่นองค์กรอิสระเพื่อพิจารณาเอาผิดต่อ ครม. ได้ ส่วนจะดำเนินการเมื่อใด ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม เช่น ประเด็นของ นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายประเด็นที่มีความคาบเกี่ยวการประกอบธุรกิจที่ไม่ชอบ มีการเอื้อประโยชน์ ส่วนในการกล่าวหารัฐมนตรี แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงแต่มีความผูกพันเกี่ยวเนื่อง การเอาผิดที่สามารถดำเนินการได้ คือ การฝ่าฝืนจริยธรรม

ขณะเดียวกัน นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวถึงกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ และกล่าวว่าข้อมูลการอภิปรายของฝ่ายค้านเก่า และเป็นการหาเสียงในสภาฯ ว่า ข้อมูลในการอภิปรายคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และฝ่ายค้านอภิปรายให้เห็นว่าเป็นประเด็นปัญหา และจะต้องถามต่อ ครม. เพื่อหาแนวทางแก้ไข พร้อมย้ำว่าเรื่องการอภิปรายไม่ใช่เรื่องเก่าหรือเรื่องใหม่ แต่เกี่ยวข้องที่ว่าเป็นการบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่ ส่วนการหาเสียงในสภาฯ ฝ่ายค้านได้มีการประกาศจุดยืนแต่แรก ว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูล ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชนก่อนการเลือกตั้ง ว่าประชาชนจะเลือกหรือไม่เลือก ซึ่งฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องหาเสียงในสภาฯ
ทั้งนี้ นายแพทย์ชลน่าน ไม่ขอวิจารณ์คำชี้แจงของ พลเอกประยุทธ์ ถึงกรณีบริษัทของหลานชาย แต่เชื่อว่าหากทุกคนได้รับฟังก็จะรู้ แม้นายกรัฐมนตรีจะมองว่าเป็นเรื่องเดิมในการอภิปราย แต่คำตอบก็คือเรื่องเดิมๆ เช่นกัน เป็นการตอบในลักษณะเลี่ยงว่า เป็นเรื่องของครอบครัว แต่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธความผูกพัน เกี่ยวข้องเป็นญาติกันได้ และมีความผูกพันที่เกี่ยวข้องทางด้านนิตินัยและกฎหมาย เนื่องจากพ่อของหลานชายดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว. เป็นทหารที่มีอำนาจหน้าที่ และเหตุที่เกิดขึ้นก็เกี่ยวข้องกับอำนาจและหน้าที่นั้นด้วย จึงทำให้นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธได้ ส่วนที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าทำมาแล้วตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แต่กลับเกิดความล้มเหลว ทำให้ฝ่ายค้านต้องนำมาบอกกับประชาชนว่ารัฐบาลทำไม่สำเร็จ แต่ยังอาสาที่จะทำต่อ.
คุณกำลังดู: เพื่อไทย ปัดหาเสียงในสภา เย้ย "ลุงตู่" ทำมา 8 ปีล้มเหลว แต่ยังอาสาทำต่อ
หมวดหมู่: การเมือง
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- "พิเชษฐ์" ซัด "บิ๊กตู่" ไร้สัจจะ ไล่ เอากระโปรงไปใส่ หนีทิ้งคนแก่ดูแลพรรค
- “นิยม” ปูด “บิ๊กตู่” ปล่อยพวกพ้องเรียกรับผลประโยชน์ ฉ้อโกงศาสนสมบัติ
- ฟาด “ธนกร” อย่าสักแต่พูด “โรม” ยัน ส.ว. “อ.” โยงพรรครวมไทยสร้างชาติ
- "ชนก" อัด รัฐบาลประยุทธ์ เหลว ฟื้นฟู-บำบัด ผู้เสพ-ติดยาเสพติด
- "จตุพร" ซัด "บิ๊กตู่" รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ แก้ปัญหายาเสพติดในทุกมิติ
- "ชูวิทย์" ส่งต่อ ข้อมูล "จีนเทา" ให้ "รังสิมันต์ โรม" ใช้อภิปรายฯ ในสภา