พิษการเมือง-หมดไฟ? เจาะสาเหตุ นิโคลา สเตอร์เจียน ลาออกมุขมนตรีสกอตแลนด์
นิโคลา สเตอร์เจียน มุขมนตรีแห่งสกอตแลนด์ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว ท่ามกลางปัญหาหนักใจหลายอย่างในด้านการเมือง กับชีวิตส่วนตัวที่เธอต้องสูญเสียไป

- นิโคลา สเตอร์เจียน
มุขมนตรีแห่งสกอตแลนด์ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว
สร้างความประหลาดใจให้แก่หลายฝ่ายทั้งในสกอตแลนด์และในสหราชอาณาจักร
- นางสเตอร์เจียนพูดถึงสภาพจิตใจของตัวเอง
ว่าเป็นส่วนหนึ่งในเหตุผลที่เธอลาออก โดยระบุว่า การอยู่ในตำแหน่งสูง
ทำให้เธอแทบไม่มีชีวิตส่วนตัว
- ยังมีอีกหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของเธอ
เพราะสเตอร์เจียนกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักทั้งเรื่องการแยกเอกราช
กฎหมายคนข้ามเพศ และค่าครองชีพ
นิโคลา สเตอร์เจียน
หัวหอกการเคลื่อนไหวเพื่อแยกสกอตแลนด์เป็นอิสระจากสหราชอาณาจักร
ผู้ดำรงตำแหน่งมุขมนตรี หัวหน้ารัฐบาลสกอตแลนด์มายาวนานถึง 8 ปี
ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วในวันพุธที่ 15 ก.พ. 2566
ท่ามกลางความประหลาดใจของหลายฝ่าย
ในการแถลงที่ทำเนียบรัฐบาล นางสเตอร์เจียนพูดถึงสภาพจิตใจของตัวเอง
ว่าเป็นส่วนหนึ่งในเหตุผลที่เธอลาออก
การตัดสินใจของเธอไม่ได้เป็นผลจากแรงกดดันระยะสั้น
และว่าพิธีศพของนายอัลลัน แองกัส
นักเคลื่อนไหวสนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระเมื่อวันอังคาร
ทำให้เธอตกลงใจได้
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ยังมีอีกหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของเธอ
เพราะสเตอร์เจียนกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก
ทั้งเรื่องแผนการลงประชามติแยกตัวที่ทำท่าจะมาถึงทางตัน
กฎหมายเปลี่ยนเพศที่ถูกต่อต้านอย่างหนัก
และปัญหาค่าครองชีพภายในประเทศที่ผู้นำคนถัดไปต้องมารับช่วงต่อจากเธอ

แผนแยกสกอตแลนด์เจอทางตัน
นางสเตอร์เจียนไม่ได้ระบุเหตุผลชัดเจนว่าทำไมเธอจึงตัดสินใจลาออก
แต่เชื่อกันว่า
คำตัดสินของศาลสูงสุดแห่งสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน
ซึ่งห้ามสกอตแลนด์จัดการลงคะแนนเสียงประชามติแยกตัวเป็นอิสระรอบ 2
โดยปราศจากความเห็นชอบจากรัฐบาลเวสต์มินสเตอร์ คือเหตุผลสำคัญ
ก่อนหน้านี้
สเตอร์เจียนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่ประกาศกร้าวว่าจะใช้การเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศครั้งต่อไปเป็นการลงประชามติโดยพฤตินัย
จนพรรคฝ่ายสนับสนุนให้อยู่กับสหราชอาณาจักรต่อ ออกมาโจมตีว่า
เธอไม่ฟังความคิดเห็นของสังคมอย่างสิ้นเชิง
ผู้นำพรรค SNP ยังทำให้ฝ่ายอนุรักษนิยมจำนวนมากผิดหวัง
โดยแทนที่จะให้คำมั่นสัญญา พวกเขากลับตัดสินใจเสนอตัวเลือกต่างๆ
ให้สมาชิกพรรคตัดสินที่การประชุมพิเศษ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19 มี.ค.
รวมถึงเรื่องที่ว่าจะใช้การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า
หรือการเลือกตั้งรัฐสภาสกอตแลนด์เป็นการลงประชามติโดยพฤตินัยด้วย
แต่ความคิดนี้ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
ผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในสกอตแลนด์กว่า
2 ใน 3 คัดค้านการใช้การเลือกตั้งทั่วเป็นการลงประชามติโดยพฤตินัย
แผนการที่ไม่ชัดเจนทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า
นางสเตอร์เจียนจะใช่ผู้นำที่จะพาพรรค SNP
ฟันฝ่าการต่อสู้เพื่อแยกตัวเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักรหรือไม่
นางสเตอร์เจียนกล่าวในการแถลงลาออกจากตำแหน่งของเธอว่า
เธอตระหนักว่ามุมมองของเธอในฐานะผู้นำจะมีน้ำหนักอย่างมาก
หรืออาจถึงขั้นอย่างเด็ดขาด ต่อการอภิปรายเรื่องดังกล่าว
เธอจึงขอหลบไปเพื่อให้พรรคสามารถเลือกวิธีที่ดีที่สุดในการก้าวไปข้างหน้า
โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความเป็นผู้นำของเธอ

กฎหมายคนข้ามเพศถูกต่อต้านหนัก
อดีตผู้นำสกอตแลนด์ยืนยันว่า
กระแสต่อต้านที่เกิดขึ้นกับกฎหมายปฏิรูปการรับรองเพศ (Gender
Recognition Reform) ของเธอ
ไม่ใช่ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอตัดสินใจลาออก
แต่มันชัดเจนว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเธอไม่มากก็น้อย
กฎหมายปฏิรูปฯ
ดังกล่าวจะทำให้ชาวสกอตแลนด์สามารถเปลี่ยนเพศของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น
และไม่ต้องมีการรับรองของเธอ
แต่หลังจากรัฐสภาสกอตแลนด์ลงมติผ่านร่างกฎหมายเมื่อเดือนธันวาคม 2565
มันกลับตามมาด้วยการถกเถียงและการแบ่งฝักฝ่ายของผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ซึ่งบางคนอยู่ในพรรค SNP ของเธอด้วยซ้ำ
ฝ่ายต่อต้านแย้งว่า การทำเช่นนี้จะขัดแย้งกับกฎหมายความเท่าเทียม
(Equality Act) ซึ่งมีการบังคับใช้ทั่วสหราชอาณาจักร เช่น
ทำให้การจำกัดพื้นที่สำหรับสตรีโดยเฉพาะทำได้ยากขึ้น
นอกจากนั้นยังเกิดกรณีอื้อฉาวของ อิสลา ไบรสัน
หญิงข้ามเพศผู้ก่อคดีข่มขืนผู้หญิง 2 คนตอนที่ยังเป็นผู้ชายชื่อว่า
อดัม แกรแฮม
โดยในเบื้องต้นไบรสันถูกส่งเข้าคุกสตรีทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจไปทั่วสกอตแลนด์
จนทำให้รัฐบาลต้องกลับลำส่งคนร้ายรายนี้เข้าคุกผู้ชายในเวลาต่อมา
แม้ว่าเธอจะมีเพศตามกฎหมายว่าเป็นผู้หญิงก็ตาม
รัฐบาลสหราชอาณาจักรออกคำสั่งระงับ
ไม่ให้กฎหมายนี้ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระมหากษัตริย์
ซึ่งนางสเตอร์เจียนประกาศว่าจะยื่นคำร้องต่อศาล
เพื่อท้าทายคำสั่งของรัฐบาล UK แม้ว่าผลสำรวจความคิดเห็นจะชี้ว่า
ชาวสกอตแลนด์จำนวนมากคิดว่า
การขัดขวางกฎหมายฉบับนี้เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว

ประท้วงค่าครองชีพ-เงินเฟ้อ
รัฐบาลของนางสเตอร์เจียนยังคงต้องรับมือกับความไม่สงบในภาคประชาชนที่ยังไม่สงบลง
ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเกิดการประท้วงใหญ่ของสหภาพแรงงานหลายกลุ่ม
ตั้งแต่สหภาพครู, แพทย์, รถไฟ, ข้าราชการ หรือกระทั่งนักดับเพลิง
ซึ่งต้องการเรียกร้องขอขึ้นค่าแรง
ให้สอดรับกับอัตราเงินเฟ้อกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 ก.พ. 2566)
สหภาพครูเพิ่งปฏิเสธข้อตกลงค่าแรงใหม่กับรัฐบาลสกอตแลนด์
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS)
ร่วมกันหยุดงานประท้วงในขณะที่การเจรจายังดำเนินต่อไป
กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ผู้นำคนต่อไปต้องเข้ามาแก้ไข
เรื่องอื้อฉาวของสามี
ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
นางสเตอร์เจียนถูกนักข่าวถามกดดันอย่างหนัก กรณีที่นายปีเตอร์
เมอร์เรลล์ สามีของเธอและเป็นผู้บริหารใหญ่ของพรรค SNP ถูกสื่อแฉว่า
บริจาคเงินมากกว่า 100,000 ปอนด์ให้กับพรรคเดือนมิถุนายน 2564
เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งครั้งก่อน
การบริจาคเงินให้พรรคการเมืองสามารถทำได้ แต่การบริจาคที่มากกว่า
7,500 ปอนด์จำเป็นต้องมีการเปิดเผยต่อสาธารณะ
แต่กรณีของนายเมอร์เรลล์กลับถูกปิดเงียบนานถึง 1 ปี
ขณะที่นางสเตอร์เจียนถูกถามถึงที่มาของเงินก้อนนี้
ซึ่งอดีตผู้นำสกอตแลนด์ยืนยันว่า สามีของเธอใช้เงินตัวเอง
และจำไม่ได้ว่าเธอรู้เรื่องนี้ครั้งแรกตอนไหน
พรรค SNP ยังถูกตรวจสอบมานานกว่า 18 เดือน
หลังมีการตั้งคำถามถึงชะตากรรมของเงินกว่า 600,000 ปอนด์
ที่พรรคระดมทุนมาจากผู้สนับสนุนในปี 2560
เพื่อใช้ในการหาเสียงประชามติในอนาคตด้วย

สูญเสียชีวิตส่วนตัว
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นางจาซินดา อาร์เดิร์น
อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์
ประกาศลาออกอย่างกะทันหันหลังอยู่ในตำแหน่งมา 6 ปี
โดยนางอาร์เดิร์นให้เหตุผลในการลงจากตำแหน่งว่า
เป็นเพราะเธอหมดไฟและไม่มีพลังงานเหลือ
สวนทางกับนางสเตอร์เจียนที่ยืนยันในเวลานั้นว่า
เธอยังเหลือพลังงานอีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากดำรงตำแหน่งมุขมนตรีของสกอตแลนด์มานาน 8 ปี
รองมุขมนตรีอีก 7 ปี และตลอดชีวิตในแวดวงการเมือง
นางสเตอร์เจียนยอมรับในแถลงการณ์ลาออกว่า มันส่งผลกระทบต่อเธอมากมาย
มุขมนตรีไม่เคยมีวันหยุด และไม่มีความเป็นส่วนตัวโดยเฉพาะในยุคนี้
เธอบอกอีกว่า เป็นเรื่องยากมากที่จะได้ใช้ชีวิตส่วนตัว
แม้แต่การไปพบเพื่อนเพื่อดื่มกาแฟ หรือเดินเล่น
ท่ามกลางความโหดร้ายของการใช้ชีวิตในตำแหน่งระดับสูง ซึ่งเธอหวังว่า
ผู้ที่มาสืบทอดตำแหน่งต่อจากเธอจะเป็นคนที่ไม่ตกเป็นเป้าจากความเห็นแบ่งฝักแบ่งฝ่ายโดยไม่สนว่ามันจะยุติธรรมหรือไม่
เหมือนกับเธอ
สเตอร์เจียนยืนยันว่า เธอไม่กลัวชีวิตหลังออกจากการเมือง
เธออยากทำงานเพื่อคนหนุ่มสาว เขียนบันทึก
และตั้งตารอที่จะได้ใช้เวลากับครอบครัว กับหลานๆ มากขึ้น
แม้ว่าเธอจะต้องดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาสกอตแลนด์ต่อไปก่อน
จนกว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมาถึงในปี 2569
ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี
ที่มา: bbc, independent
คุณกำลังดู: พิษการเมือง-หมดไฟ? เจาะสาเหตุ นิโคลา สเตอร์เจียน ลาออกมุขมนตรีสกอตแลนด์
หมวดหมู่: ต่างประเทศ