ราชกิจจานุเบกษา ประกาศระเบียบการสั่งให้ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศระเบียบการสั่งให้ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศระเบียบ ตร. เรื่องการสั่งให้ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ พร้อมระบุคุณสมบัติ และต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ พ.ศ. 2566 ลงนามโดย พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประกาศ ณ วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2566 มีเนื้อหาสาระที่สำคัญ ว่า

ด้วยพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 92 วรรคสอง บัญญัติการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญตามตำแหน่งที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กำหนด ให้เป็นไปตามระเบียบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด จึงต้องปรับปรุงมาตรการว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบันและสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงวางระเบียบไว้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และให้ยกเลิกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 60/2545 เรื่อง มาตรการว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ลงวันที่ 17 มกราคม 2545 บรรดาระเบียบ คำสั่ง หลักเกณฑ์ หรือแนวทางปฏิบัติที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดเกี่ยวกับการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ในระเบียบนี้ “การรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ” หมายถึง การกำหนดแนวทาง แผน และมาตรการต่างๆ เพื่อใช้เป็นหลักการและวิธีการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญของประเทศให้พ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง การลดโอกาสในการเข้าทำร้ายของบุคคลต่างๆ และให้สามารถแก้ปัญหา ระงับเหตุ บรรเทาผลร้ายและอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ไม่รวมถึงเรื่องการถวายความปลอดภัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งมีกฎหมายและระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว ส่วนคำว่า “บุคคลสำคัญ” หมายถึง บุคคลตามตำแหน่งที่ ก.ตร. กำหนด

ทั้งนี้ การร้องขอจะต้องทำเป็นหนังสือ ซึ่งบุคคลสำคัญผู้ร้องขอเป็นผู้ลงนามร้องขอมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่านกองบัญชาการตำรวจสันติบาลตามแบบคำร้องขอ โดยจะระบุตัวข้าราชการตำรวจที่จะไปรักษาความปลอดภัยมิได้ และกรณีบุคคลสำคัญที่ดำรงตำแหน่งเกินกว่า 1 ตำแหน่งตามที่ ก.ตร. กำหนด สามารถร้องขอข้าราชการตำรวจไปรักษาความปลอดภัยได้เพียงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ให้กองบัญชาการตำรวจสันติบาลเป็นผู้รับผิดชอบในการพิจารณาจัดข้าราชการตำรวจที่จะไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมในตำแหน่ง ความรู้ ความสามารถ และคุณสมบัติของข้าราชการตำรวจที่จะไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ โดยต้องสอบถามไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของข้าราชการตำรวจที่ได้รับการพิจารณาให้ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญว่ามีเหตุขัดข้องหรือไม่ อย่างไร พร้อมเหตุผล และสมัครใจหรือไม่ แล้วให้หน่วยงานต้นสังกัดแจ้งผลมายังกองบัญชาการตำรวจสันติบาลภายใน 15 วันนับแต่ได้รับเรื่อง เพื่อประมวลเรื่องเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาสั่งการ

คุณสมบัติข้าราชการตำรวจที่จะไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

  • ดำรงตำแหน่งไม่เกินรองสารวัตรหรือตำแหน่งเทียบเท่า
  • มีอายุ 25 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 45 ปี
  • เป็นผู้ที่สมัครใจจะไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ
  • ไม่เป็นข้าราชการตำรวจที่สังกัดสถานีตำรวจ เว้นแต่จะมีข้าราชการตำรวจอื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทนในสถานีตำรวจนั้น
  • ไม่เป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการในตำแหน่งที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งครั้งแรกยังไม่ครบ 2 ปี
  • ไม่เป็นผู้ที่ปฏิบัติราชการในตำแหน่งที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งยังไม่ครบกำหนดเวลาตามเงื่อนไขท้ายคำสั่งบรรจุและแต่งตั้ง หรืออยู่ระหว่างการบรรจุให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิ
  • ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งควบปรับระดับเพิ่ม-ลดในตัวเอง
  • ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในกลุ่มสายงานวิชาชีพเฉพาะ
  • ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งห้ามไปปฏิบัติราชการในหน้าที่อื่นตามระเบียบหรือคำสั่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด
  • ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวน และไม่อยู่ระหว่างต้องหาคดีอาญา เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ


สำหรับการสั่งให้ข้าราชการตำรวจที่ไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญนั้น ให้สั่งได้ครั้งละไม่เกิน 2 คน และระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี

การสิ้นสุดระยะเวลาของข้าราชการตำรวจที่ไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

  • เมื่อบุคคลสำคัญผู้ร้องขอเสียชีวิต
  • ครบระยะเวลาในการอนุมัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
  • ถูกส่งตัวกลับ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียกตัวกลับ
  • สถานภาพตำแหน่งของบุคคลสำคัญที่ร้องขอเปลี่ยนแปลงไปและไม่เป็นไปตามระเบียบนี้
  • เมื่อสถานภาพตำแหน่งหรือสังกัดของข้าราชการตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปลี่ยนแปลงไป
  • ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงหรือต้องหาคดีอาญา เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ


นอกจากนี้ เมื่อการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญใกล้สิ้นสุดตามระยะเวลาที่กำหนดและผู้ร้องขอยังมีความจำเป็นต้องการให้มีการรักษาความปลอดภัยต่อ ให้ผู้ร้องขอนั้นเสนอเรื่องถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่านกองบัญชาการตำรวจสันติบาลก่อนครบกำหนดระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน ห้ามสั่งให้ไปรักษาความปลอดภัยเป็นครั้งคราวโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาแต่ละครั้งอย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการบังคับบัญชาของหน่วยงานต้นสังกัด และห้ามสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปรักษาความปลอดภัยย้อนหลัง เมื่อการรักษาความปลอดภัยสิ้นสุดลง ให้ข้าราชการตำรวจที่ไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญรายงานไปยังหน่วยงานต้นสังกัดภายใน 7 วันนับแต่วันที่มีเหตุสิ้นสุด เมื่อหน่วยงานต้นสังกัดได้รับรายงานเหตุแล้วให้มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจนั้นกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีเหตุสิ้นสุด และให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรักษาการตามระเบียบนี้

(อ่านราชกิจจานุเบกษาฉบับเต็ม)

คุณกำลังดู: ราชกิจจานุเบกษา ประกาศระเบียบการสั่งให้ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

หมวดหมู่: การเมือง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด