“โรม” ตามจิกร้อง ก.ต. สอบถอนหมายจับส.ว.ทรงเอ “เศรษฐา” ประเดิมลงพื้นที่

“นายกฯตู่” คัมแบ็กลุยสางงานเตรียมคิวลุยหาเสียง จ.ฉะเชิงเทรา “วิษณุ” โต้ครหารัฐบาลเทงบฯตกเขียวขึ้นเงินเดือน อสม.-อสส. รับรัฐบาลได้เปรียบ ตีเนียนอ้างเป็นหน้าที่บริหารราชการ ไม่ถือว่าให้สัญญาจูงใจเลือกตั้ง “บิ๊กป้อม” โพสต์เฟซบุ๊กอวยระบอบประชาธิปไตย ยกคณะลงพื้นที่อยุธยา-สระบุรี กราบหลวงพ่อโต-โชว์ผัดไส้กะหรี่ปั๊บ “วิรัช” สับหลีกจัดเวทีปราศรัยเลี่ยงชน “ประยุทธ์” “เสรีพิศุทธ์” ฉะเลวทรามบัดซบผลาญภาษีประชาชนมาซื้อเสียงล่วงหน้า “อุ๊งอิ๊ง” หวังได้ปราศรัยโค้งสุดท้าย คุย พท.ต้นกำเนิดพักหนี้ 3 ปี ไม่ต้องก๊อบปี้ตัวเอง มั่นใจสานต่องานรัฐบาล “บิ๊กตู่” ได้ “เศรษฐา” ชิมลางไปคลองเตยรับฟังปัญหาชุมชน 30 ไร่ “โรม” ร้องกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม สอบถอนหมายจับ ส.ว.ทรงเอ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แม้ยังคงมีอาการมือบวมอักเสบติดเชื้อ แต่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และทางพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้วางคิวให้กลับมาเร่งเดินสายหาเสียงต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง

นายกฯเข้าทำเนียบฯ ลุยงานต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 8 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีวาระงานการประชุมและภารกิจนอกทำเนียบรัฐบาล ใช้เวลาเซ็นเอกสารติดตามงานที่ห้องทำงานชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ช่วงเช้าก่อนออกจากบ้านพักแพทย์ได้เข้าตรวจอาการมือขวาบวมอักเสบ ล้างแผลและให้ยาปฏิชีวนะ โดย พล.อ.ประยุทธ์ยังคงสวม Arm-Sling หรือที่ช่วยพยุงแขนเช่นเดิม ส่วนมือข้างซ้ายยังมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ให้ยาฆ่าเชื้อ ขณะที่ขบวนรถนายกฯได้เปลี่ยนจากเข้าทางประตู 1 มาเข้าทางประตูสะพานอรทัยแทน เนื่องจากที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ด้านหน้าประตู 1 กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนชุมนุมเรียกร้อง อาทิ ขยายสิทธิลาคลอดโดยได้รับค่าตอบแทนเป็น 180 วัน จัดให้มีสวัสดิการประชาชนตามช่วงอายุ ได้แก่ 0-6 ปี และ 60 ปีขึ้นไป รายละ 3,000 บาทต่อเดือน รับรองสิทธิสมรสเท่าเทียมทุกเพศ คืนสิทธิการประกันตัวให้นักสู้ทางการเมืองทุกคน เป็นต้น จนกระทั่งเวลา 11.00 น. ยุติชุมนุม

ฟิตพร้อมลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันที่ 10 มี.ค.นายกฯมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ฉะเชิงเทรา โดยจุดแรกเดินทางไปยังวัดโสธรวรารามวรวิหาร สักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธร กราบนมัสการพระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร จากนั้นนายกฯ เป็นประธานในพิธีเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนเดินทางกลับ กทม. และวันที่ 11 มี.ค.มีกำหนดการตรวจราชการในช่วงเช้า จ.สงขลา ดูปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ช่วงบ่าย จ.ยะลา และวันที่ 13 มี.ค.ลงพื้นที่ จ.ราชบุรี

“วิษณุ” รับรัฐบาลได้เปรียบตีเนียน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายกฯแจ้งวันยุบสภาชัดเจนกับพรรคร่วมรัฐบาล ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่า ระหว่างการประชุม ครม.ไม่มี แต่ท่านอาจสนทนาเป็นส่วนตัว คนนั้นคนนี้เข้าไปถาม เข้าไปคุยในห้องพัก ไม่ใช่ห้องประชุมตนไม่ทราบ ขอชี้แจงไปถึงพิธีกรโทรทัศน์บางช่องเหมือนกับพูดว่าวันที่ 14 มี.ค. จะประชุม ครม.ครั้งสุดท้าย ยืนยันยุบสภาแล้วยังประชุม ครม.ได้ บางรัฐบาลช่วงบ่ายจะถวายสัตย์รัฐบาลใหม่ รัฐบาลเดิมยังประชุม ครม.กัน ยุบสภาแล้วยังประชุม ครม.มีเพียงบางอย่างที่ทำไม่ได้ การอนุมัติงบฯค่าป่วยการ อสม.2,000 บาท มีผลบังคับใช้เดือน ต.ค.เป็นการใช้งบฯปี 67 อยู่แล้ว เมื่อ ครม. อนุมัติไปแล้วถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงวันที่ 1 ต.ค.จะมีผล แต่หากรัฐบาลเข้ามาใหม่ ก่อนวันที่ 1 ต.ค.หากยกเลิกจะไม่ได้เงินนั้น แต่ไม่ถือเป็นการให้สัญญาเพื่อจูงใจในการเลือกตั้ง ไม่ใช่ เพราะรัฐบาลมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ตอนนี้ยังไม่มีการยุบสภา จึงมีอำนาจเต็มทุกอย่าง การให้คำมั่นสัญญาคือการแลกกับคะแนนเสียง คนเป็นรัฐบาลได้เปรียบตรงนี้ เพราะทำอะไรได้แนบเนียนกว่าคนไม่ได้เป็นรัฐบาล

“ธนกร” ยันขึ้นเงิน อสม.ผลงานรัฐบาล

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การเพิ่มค่าป่วยการ อสม.และ อสส.ถือเป็นผลงานของรัฐบาล เป็นความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาลทุกฝ่าย ไม่เป็นห่วงว่าจะทำให้ขัดแย้งบานปลาย พรรคร่วมรัฐบาลนำไปต่อยอดเพื่อสานต่อนโยบายได้ ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมสานต่อนโยบายรัฐบาลที่พล.อ.ประยุทธ์ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” เช่น บัตรสวัสดิการพลัส เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,000 บาท เชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ไม่สับสน ประชาชนรักใคร ชอบใครเลือกคนนั้น

เย้ย “โทนี่” ไม่กล้ายกเลิกบัตรคนจน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯวิจารณ์ว่าคนจะเมินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลว่า เห็นใจนายทักษิณคงว้าเหว่โดดเดี่ยว ขาดความอบอุ่น แต่ต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่านโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นที่นิยม แก้ปัญหาตรงจุดมีกลไกพัฒนายกระดับสวัสดิการประชาชน แม้แต่นายทักษิณก็ไม่กล้าประกาศให้ชัดเจนว่าจะแนะนำให้พรรค พท. ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่ ได้แต่ขี่ม้าเลียบค่ายหาจังหวะช่วยหาเสียงให้พรรค พท. ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำมาหมดแล้ว ทั้งดันซอฟต์เพาเวอร์ไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวสร้างเม็ดเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจเห็นผลเป็นรูปธรรม

“บิ๊กป้อม” เข้าใจวิถีประชาธิปไตย

วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้แพร่จดหมายเปิดใจฉบับที่ 5 เรื่อง “ก้าวสู่วิถีประชาธิปไตย” ตอนหนึ่งว่า เหมือนชะตาชีวิตเอื้อให้ตนมีโอกาสทำงานเป็นนักการเมืองพบว่าโครงสร้างการบริหารจัดการประเทศไม่เอื้อให้ประชาชนพึ่งพาตัวเองได้ ระบบราชการบริหารยังบกพร่อง เป็นปัญหาอยู่มาก ไม่มีหนทางอื่นนอกจากมุ่งมั่นที่เดินหน้าในระบอบประชาธิปไตย เคารพการตัดสินของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ด้วยประสบการณ์ รับทราบถึงเจตนาดีต่อประเทศของคนกลุ่มที่พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีความรู้ความสามารถ ที่ยังคงมีอิทธิพลกำหนดความเป็นไปของประเทศ ที่ให้ความคิดหาทางประสานให้คนกลุ่มนี้เข้ามามีส่วนร่วมในการนำพาประเทศ ย่อมเกิดผลดีต่อการพัฒนาบ้านเมือง ที่เป็นที่มาของความมุ่งมั่นก้าวข้ามความขัดแย้ง ขอให้ทุกคนเชื่อถึงประสบการณ์ที่สะสมมา จะทำให้ตนทำได้และจะทำได้ดีกว่าใครในความตั้งใจ ด้วยความปรารถนาดีต่อประเทศไทย

ไปอยุธยาไหว้หลวงพ่อโตวัดสะตือ

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประวิตรนำคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยใช้รถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน 7 กพ 8209 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะ จุดแรกไปยังวัดสะตือพุทธไสยาสน์ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ รับฟังบรรยายสรุปความคืบหน้าแผนบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างและแผนงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ ก่อนนั่งรถกอล์ฟไปไหว้และปิดทองพระพุทธไสยาสน์ (หลวงพ่อโต วัดสะตือ) กราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดสะตือ โดย เจ้าอาวาสมอบรูปหล่อพระพุทธไสยาสน์ ผ้ายันต์คาถาชินบัญชร สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ให้ พล.อ.ประวิตร ระหว่างนำคณะไปไหว้พระ มีประชาชนมารอต้อนรับตะโกนเชียร์ “ลุงป้อมสู้ๆ รักลุงป้อม ขอให้เป็นนายกฯคนต่อไป ชูป้ายให้กำลังใจ อาทิ เคียงข้างลุงป้อม ขอให้ลุงป้อมเป็นนายกฯ ขณะที่ พล.อ.ประวิตรโบกมือทักทาย กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ขอบคุณที่มาต้อนรับ รัฐบาลห่วงใย เราเห็นใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ปีนี้โอเคทำนาได้ น้ำไม่ท่วมแล้ว ให้คำมั่นสัญญาว่ารัฐบาลมีความจริงใจทำงานเพื่อความผาสุกของประชาชน ก่อนกลับได้เข้าไปกราบสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์โต องค์จำลอง ในศาลาการเปรียญวัดสะตือ มีผู้นำท้องถิ่นมาพูดคุยอยู่ด้านหน้า

ลุยสระบุรีโชว์ผัดไส้กะหรี่ปั๊บ

จากนั้นเวลา 16.00น. พล.อ.ประวิตรเดินทางไปยัง อ.หนองแค จ.สระบุรี ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.สระบุรี ที่โรงเรียนเตรียมอุดม ศึกษาพัฒนาการสระบุรี อ.หนองแค มี น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี นายองอาจ และนายอรรถพล วงษ์ประยูร อดีต ส.ส.สระบุรี และ น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สระบุรี ต้อนรับ พล.อ.ประวิตร ได้ร่วมผัดไส้กะหรี่ปั๊บ ก่อนชิมกะหรี่ปั๊บแล้วบอกว่าอร่อย จากนั้นมีนักเรียนชายชั้น ม.2 ร.ร.สระบุรีวิทยาคม 2 คน นำภาพ พล.อ.ประวิตร ที่วาดเองมอบให้และอวยพรขอให้ได้เป็นนายกฯคนที่ 30

สับรางปราศรัยเลี่ยงชน “บิ๊กตู่”

นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากการประชุมยุทธศาสตร์ พรรค พปชร. เมื่อวันที่ 7 มี.ค. พรรคมีมติให้เปิดปราศรัยใหญ่ 4 ภาค ก่อนยุบสภาจากที่เดิมกำหนดไว้ 6 จุด แต่จัดได้เต็มที่ 4 จุด เดิมเวทีแรกจะจัดที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม มีกำหนดการลงพื้นที่จึงเลื่อนไปเป็นอีกสัปดาห์ โดยวันที่ 12 มี.ค.จัดเวทีแรกที่ จ.เชียงใหม่ และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือทั้งหมด มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา กำกับดูแลภาคเหนือ และนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นเจ้าภาพสัปดาห์ถัดไปเป็น 2 เวทีใหญ่ภาคใต้ ที่หาดใหญ่จากนั้นเป็นเวที กทม. ในวันที่ 18 มี.ค. และถัดไปเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นที่ จ.ขอนแก่น หรือไม่ก็ จ.อุดรธานี ส่วนหลังการยุบสภาจะเปิดปราศรัยเวทีแรกที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 26 มี.ค. ถือเป็นนัยได้ส่งผู้แทนตั้งแต่เหนือจดใต้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร.ไปร่วมทุกเวที

“ชวน” ส่ายหัวผลงานท้ายเทอม

เมื่อเวลา 13.20 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของสภาฯตลอด 4 ปีว่า โดยรวมใช้ได้แต่เกิดปัญหาช่วงปลายสมัยองค์ประชุมไม่ครบ เสียโอกาสออกกฎหมายหลายฉบับ การประชุมร่วมรัฐสภาผ่านทุกเรื่อง ยกเว้นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องอำนาจของ ส.ว.ที่ ส.ว.มาไม่ครบองค์ประชุม เพราะรู้สึกว่ากฎหมายนี้โจมตีวุฒิสภา สิ่งที่ไม่พัฒนาคือกระทู้ถามที่รัฐบาลไม่มาตอบ สรุปการทำงานสภาฯชุดนี้ผ่านไปได้ด้วยดีพอสมควร แต่น่าเสียดายตอนหลังทำหนังสือถึงนายกฯช่วยพูดเรื่ององค์ประชุมให้แล้วแต่ไม่สำเร็จ พรรคต่างๆไม่ร่วมมือ เป็นรัฐบาลผสมถึง 19 พรรค นายกฯไม่ได้เป็น ส.ส.หัวหน้าพรรคแกนกลางตั้งรัฐบาลไม่ได้เป็น ส.ส. เวลาถามหาผู้รับผิดชอบเรื่ององค์ประชุมหาตัวยาก บางพรรคโกรธที่ญัตติตัวเองไม่ผ่าน ตอบโต้ไม่ร่วมประชุม ส่วนที่มี ส.ส.เล่นการพนัน ในห้องทำงาน ส.ส. เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล บ้านเมืองมีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้ต้องพูดว่ามีเจ้าหน้าที่ร่วมมือด้วย ได้บอกนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯว่า กรณีนี้ต้องว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่อาจได้ประโยชน์เล็กๆน้อยๆ จาก ส.ส.คนนั้น ในสภามีเรื่องบวกและลบเสมอ แต่หากเกิดอะไรไม่ถูกต้องให้จัดการเด็ดขาดตามกฎหมาย

กรีด “สามสี” ปูด ปชป.ใช้เงินซื้อเก้าอี้

นายชวนกล่าวถึงกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค รทสช.ระบุมีการซื้อเสียงตั้งกรรมการบริหารพรรค ปชป.ว่า เรื่องอะไรเป็นลบย่อมกระทบพรรค ย้ำเสมอว่าสมาชิกต้องระลึกถึงบุญคุณพรรคเช่นกัน ขอยืนยันการแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรีพรรค ไม่มีการซื้อเสียงไม่ต้องเสียเงิน แต่พรรคอื่นไม่ทราบ ตนไม่ร่ำรวยใช้เวลาพิสูจน์ 22 ปี จนสมาชิกพรรคยอมรับได้เป็นหัวหน้าพรรค ชนะเลือกตั้งเป็นนายกฯไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว บุญคุณเหล่านี้ใช้ทั้งชีวิตไม่หมด รวมถึงบุญคุณจากชาวบ้านจะใช้โอกาสเดินทางไปขอบคุณคนที่เคยช่วยเหลือตนมาตลอด บางอย่างตอบแทนไม่ได้แต่ตอบแทนด้วยความซื่อตรงสุจริต ขณะนี้ภาพพจน์พรรค ชื่อเสียงไม่เหมือนเดิม ถ้าพรรคโดดเด่นเสียงดีตนเป็น ส.ส.มา 16 สมัยอาจจะพอแต่สภาพเป็นเช่นนี้ต้องช่วย ถ้าอยากเปลี่ยนหัวหน้าให้โอกาสนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคทำงานครบ 4 ปีค่อยว่ากัน

“เสรีพิศุทธ์” ฉะบัดซบซื้อเสียงล่วงหน้า

เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และคณะลงพื้นที่ซอยสีลม 5 ช่วย น.ส.ปุณณ์ภัสสร จีรวิวัฒนชัย ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 2 หาเสียง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ให้สัมภาษณ์ ถึงมติ ครม.ล่าสุดที่อนุมัติงบฯเพิ่มค่าตอบแทน อสม. หลายพรรคนำไปหาเสียง รัฐบาลไม่ควรทำเพื่อประโยชน์การหาเสียง ใช้งบฯขึ้นเงินเดือนให้ อสม.และ อบต.ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ทำ ถ้าเห็นคุณค่าควรสนับสนุนนานแล้ว ทำแบบนี้คือซื้อเสียงล่วงหน้า ใช้ภาษีประชาชน รัฐบาลไม่เข้าใจการบริหารงบฯ เงินกู้รัฐบาลเกินเพดานแล้ว งบฯไม่ควรจ่ายดันไปจ่าย เช่น ซื้ออาวุธ อ้างขึ้นเงินเดือน อสม.และ อบต. โง่จนประเทศเสียหาย ควรนำงบฯไปใช้หนี้ประเทศ เงินกู้ที่รัฐบาลนี้กู้มาต้องเสียดอกเบี้ยนาทีละ 26 ล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์กู้มาไม่ต้องใช้หนี้ คนอื่นต้องมาใช้หนี้แทน ทำแบบนี้เลวทรามบัดซบ ไม่เหมือนประชาชนกู้เงินมา หากไม่มีเงินใช้หนี้โดนยึดบ้าน หากได้เป็นรัฐบาลจะตรวจสอบเรื่องนี้แน่นอน

“อิ๊ง” หวังได้ปราศรัยโค้งท้ายก่อน ลต.

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่าหากการเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค. น.ส.แพทองธาร จะดีใจมาก เพราะจะได้คลอดแล้วออกมาช่วยปราศรัยใหญ่ให้พรรคเพื่อไทยช่วงโค้งสุดท้าย ว่า ตนมีกำหนดคลอดปลาย เม.ย.ถึงต้น พ.ค. ตนไม่อยากคลอดในวันเลือกตั้ง เพราะจะทำให้ไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าหากวันเลือกตั้งเป็น 14 พ.ค.จริงคงดี เพราะตนจะได้มีโอกาสขึ้นปราศรัยใหญ่ เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ กล่าวถึงบัตรสวัสดิการต่างๆ หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะทำได้มากกว่า 1,000 บาท น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตนมองว่าเป็นความหวัง พรรคเพื่อไทย มีนโยบายผลักดันเศรษฐกิจภาพรวม ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท นโยบายเพื่อเกษตรกร นโยบายที่เราทำเป็นตัวผลักดันภาพรวมเศรษฐกิจ ย้ำว่าเราคิดใหญ่ทำเป็นนโยบายมุ่งหวังให้ประชาชนกินดีอยู่ดีทั้งระบบ

พักหนี้มาจาก พท.-อ้าแขนรับศิษย์เก่า

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหาว่าพรรคพท.ก๊อบปี้นโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “เราไม่สามารถก๊อบปี้นโยบายที่เราริเริ่มได้ ออริจินอลมาจากเรา อาจต้องรบกวนขอให้หาข้อมูลเพิ่ม” น.ส.แพทองธารหัวเราะ พร้อมกล่าวติดตลกว่า “ไม่ได้ตั้งใจค่ะ” เมื่อถามถึงกระแสข่าวบิ๊กเนมกลุ่มนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมและแกนนำกลุ่มสามมิตร จะย้ายกลับมาอยู่กับพรรคพท. น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยินดีต้อนรับศิษย์เก่าของพรรคไทยรักไทยและพรรคเพื่อไทยทุกท่าน เป้าหมายเราคือพัฒนาประเทศ ใครที่มีเป้าหมายเดียวกันกับเรา ยินดีต้อนรับเพื่อให้ประเทศไปต่อ ส่วนตำแหน่งไม่มีการพูดถึง ส่วนการลงพื้นที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยครั้งแรกวันที่ 8 มี.ค.ที่เขตคลองเตย ไม่ต้องห่วง พูดผิดมาหลายเวที เหงื่อตกมาหลายเวที เชื่อว่านายเศรษฐาน่าจะทำได้มากกว่าอยู่แล้ว ขอให้กำลังใจ

มั่นใจสานต่องานรัฐบาล “บิ๊กตู่” ได้

น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 มี.ค. อนุมัติงบประมาณวงเงิน 6.8 หมื่นล้านบาท ก่อนจะมีการยุบสภาฯว่า งบประมาณที่มีผลผูกพันทุกงบที่มีอยู่ต้องจัดการ เรามีผู้ที่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว เราต้องประชุมร่วมกันทั้งหมด เพื่อใช้ภาษีของประชาชนให้คุ้มค่ามากที่สุด

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า งบฯผูกพันที่ทำให้ก่อหนี้ และงบฯผูกพันตามข้อกฎหมาย รัฐบาลที่มารับช่วงต่อต้องดำเนินการตามนั้น ขอบอกประชาชนว่าถ้าอนุมัติยุคนี้ เป็นภาระประชาชนต้องช่วยกัน ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาต้องรับผิดชอบต่อ เช่น เพิ่มเงินเดือนให้ อสม.2 พันบาท อนุมัติหลักการตามกฎหมาย เมื่อเป็นมติ ครม.มีผลใช้บังคับต้องรับภาระนี้ ไม่ห่วงทำได้ดีกว่า ส่วนกลุ่มสามมิตรสัปดาห์หน้าคงชัดเจน

“เศรษฐา” ไปคลองเตยอ้อนอบอุ่น

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่มูลนิธิดวงประทีป ชุมชน 70 ไร่คลองเตย พรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยนายนวธันย์ ธวัชวงค์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตคลองเตย พรรค พท. หาเสียง เริ่มรับฟังปัญหาในพื้นที่ 70 ไร่จากนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีปฯ โดยนายเศรษฐากล่าวว่า ลงพื้นที่ครั้งแรกได้รับการตอบรับอบอุ่น เห็นว่าปัญหาซับซ้อน ต้องแก้ไขอย่างบูรณาการ นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทในปี 70 หากได้ฉันทมติจากประชาชนให้ พท.เป็นรัฐบาลมั่นใจว่าจะทำได้ ทุกอาชีพต้องได้ค่าแรงที่เหมาะสม โดยนโยบายภาคใหญ่ของพรรคต้องการให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่ำ 5% ช่วงเราเป็นรัฐบาล พร้อมทุ่มเทให้กับการศึกษา เคยทำมาแล้วใน จ.ราชบุรี บริษัทแสนสิริ บริจาคเงิน 100 ล้านบาท นำเด็กนอกระบบกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา

ลุยชุมนุม 70 ไร่ ดูของจริงไม่มีจัดฉาก

จากนั้น นายเศรษฐาและแกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เดินทักทายประชาชนในชุมชน 70 ไร่ เป็นครั้งแรก ได้รับการตอบรับที่ดี โดยนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณทีมงาน ทำให้ได้เห็นปัญหาจริงๆไม่ได้มีการจัดฉาก พบปัญหาหลายอย่างทั้งยาเสพติด การศึกษา สุขภาพ ทุกมิติต้องแก้ไปด้วยกัน หลักการใหญ่อะไรทำได้ทำไปก่อน เชื่อว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกเข้ามาเราจะพยายามทำให้ได้ เมื่อถามว่าปัญหาอะไรที่จะเลือกทำก่อน นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มีอะไรที่จะเลือกทำก่อนเพราะทุกปัญหาคือเรื่องใหญ่ต้องทำไปพร้อมๆกัน หลังจากนี้ลงพื้นที่จะพยายามไปครบทุกเวทีทุกจังหวัด จะไปรับฟังปัญหารวบรวมข้อมูล แล้วนำมาถกกันภายในพรรคหาทางแก้ปัญหา นโยบายจะคลอดมาเรื่อยๆ การลงพื้นที่ไม่ใช่เรื่องของการขายความเป็นตัวตน แต่ไปเก็บข้อมูลและเข้าใจว่าชาวบ้าน ชาวนา ชาวสวน หรือคนชายขอบต้องการอะไร ส่วนตัวจะไปขยายนโยบาย ความเป็นตัวตนและแสดงความจริงใจให้ประชาชน เพื่อแก้ปัญหาความเป็นอยู่ จะไปอยู่ในใจประชาชนได้หรือไม่ตอบลำบาก ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราว่าทำได้ดีขนาดไหน แต่ตนและพรรค พท.เต็มที่ เพราะ 8 ปีที่ผ่านมาเราเจอปัญหาเยอะ ทำให้ประชาชนลำบาก เป็นหน้าที่ของเราที่จะเสนอนโยบาย

บอกใครมาแฉจะแจงให้ดีที่สุด

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้กำลังใจการลงพื้นที่ครั้งแรกต้องขอบคุณ ถือเป็นกำลังใจให้ตน เมื่อถามถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุรู้จักกับนายเศรษฐาอย่างดี กังวลจะถูกขุดคุ้ยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เรามีหน้าที่ต่างกันไป ตนมีหน้าที่ฐานะประธานที่ปรึกษาฯ แต่ที่ผ่านมาเป็นนักธุรกิจมาก่อน การเข้ามาสู่มิติใหม่นี้จะบอกว่าไม่กลัวอะไรเลยคงจะเป็นการขู่ แต่จะทำให้ดีที่สุด หากมีคนมาแฉจะพยายามชี้แจงให้ดีที่สุด

ทสท. ตั้ง “ฐากร” ยกระดับดิจิทัลไทย

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้งประธานคณะกรรมการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ เนื้อหาสรุปว่า พรรค ทสท.ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศ โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างรากฐานที่มั่นคง ต่อยอดสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสที่ดีให้คนรุ่นใหม่ จึงต้องกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยแต่งตั้งนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ พรรคไทยสร้างไทย

นายกฯโอ่ดันพลังสตรีพลิกโฉม ปท.

เมื่อเวลา 08.01 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ปราศรัยเนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยตอนหนึ่งว่า ในนามรัฐบาล ขอส่งความระลึกถึง และความปรารถนาดีมายังสตรีไทย และผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสตรีทุกคน งานวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ได้กำหนดแนวคิดว่า “พลังสตรีและเด็กหญิง ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยี สู่ความเสมอภาคระหว่างเพศอย่างยั่งยืน” เพื่อให้สตรีทุกช่วงวัย มีส่วนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของตนเอง ครอบครัวและชุมชนได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งร่วมพลิกโฉมประเทศไทยให้เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ภายในปี 2570

พท.รื้อกองทุนสตรี ฉีดมะเร็งมดลูกฟรี

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อม ส.ส.หญิงและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หญิง พรรค พท.สวมเสื้อ Embrace Equity โอบกอดความเสมอภาคแสดงจุดยืนความเสมอภาคทางเพศ แถลงข่าวนโยบายเพื่อผู้หญิง เนื่องในวันสตรีสากล ภายใต้ธีม “DigitALL : Innovation and technology for gender equality” นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคมีนโยบาย 2 อย่างสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศอย่างทั่วถึง คือการยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วยเทคโนโลยี ให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาทักษะ นโยบายที่ 2 การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรีสำหรับผู้หญิงทุกคน เรื่องความเท่าเทียมทางเพศในไทยมีแนวโน้มดีขึ้น จากเคยมีนายกฯหญิง เลือกตั้งครั้งนี้ พรรค พท.มีสัดส่วนผู้สมัคร ส.ส.หญิง 20% มากกว่าครั้งก่อนที่มี 15%

“ตั๊น” ช่วยคุณแม่วัยใสต้องได้เรียน

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองเลขาธิการพรรค ส.ส. อดีต ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หญิงพรรค ปชป.ร่วมแถลงจุดยืน โดย น.ส.จิตภัสร์กล่าวถึงปัญหาการตั้งครรภ์ของวัยรุ่นวัยเรียนหรือ “คุณแม่วัยใส” ว่า ปัจจุบันแม้มีกฎหมายรองรับ หากเกิดภาวะตั้งครรภ์ไม่พร้อม ทั้งการคงสถานะความเป็นแม่ หากยังคงอยู่ในสถานะนักเรียน นักศึกษาต้องมีหน่วยงานรองรับให้กลับเข้าเรียนศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาได้ ไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการศึกษา เช่นเดียวกับสถานะความเป็นแม่ หากต้องการความช่วยเหลือจะมีหน่วยงานช่วยเหลือการเลี้ยงดูลูก หรือหากต้องการจะยุติการตั้งครรภ์ ทำได้โดยมีกฎหมายรองรับ พรรค ปชป.ขับเคลื่อนมาตลอด กระทรวงศึกษาธิการได้ออกกฎกระทรวงช่วยคุณแม่วัยใสให้กลับเข้าเรียนได้ โดยไม่ถูกกีดกันทางการศึกษา ปี 2564 มีเด็กตั้งครรภ์กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา 47.5% เพิ่มจากปี 2563 อยู่ที่ 28% สอดคล้องนโยบายพรรคสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ กลุ่มคนเหล่านี้ยังถือเป็นกำลังและอนาคตประเทศต่อไป พรรคจะเดินหน้าเปิดโอกาสให้กับคนกลุ่มนี้

ก.ก.ขาย 10 นโยบายสตรีเท่าเทียม

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคก้าวไกล หัวหมาก กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมกับศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) จัดกิจกรรม “กาก้าวไกล เพศไหนก็คนเท่ากัน” มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าวเปิด 10 นโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ เรียงตามช่วงอายุของคนคนหนึ่งตั้งแต่เกิดจนแก่ อาทิ ผ้าอนามัยไม่เก็บ VAT แจกฟรีในโรงเรียน ปฏิรูปการสอนเพศศึกษา ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ ตำรวจหญิงทุกสถานี ปรับปรุงกฎหมายต่อต้านความรุนแรงทางเพศ สมรสเท่าเทียม คู่รักทุกเพศแต่งงานกันได้ รับรองทุกเพศสภาพ ยุติการตั้งครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ด้วยการคุ้มครองสิทธิในการยุติการตั้งครรภ์ สำหรับบุคคลมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ให้รับยายุติการตั้งครรภ์ได้ที่ รพ.สต.ทุกแห่งทั่วประเทศ สิทธิลาคลอด 180 วัน พ่อแม่แบ่งกันได้ ตรวจมะเร็งฟรี ไม่ต้องรอหมอสั่งใน Package ตรวจสุขภาพประจำปีฟรี ตรวจคัดกรองฟรี 5 มะเร็งที่พบบ่อย พรรค ก.ก.จะเพิ่มสิทธิตรวจสุขภาพประจำปีของประชาชนให้ครอบคลุมขึ้น มีแรงจูงใจเป็นค่าเดินทาง

“สุดารัตน์” ชูตั้งกองทุนพลังหญิง

ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ร่วมกับผู้แทนภาคแรงงาน สตาร์ตอัพ ภาคธุรกิจ กลุ่มผู้หลากหลายทางเพศ แถลงข่าววันสตรีสากล โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรค ทสท.สร้างนโยบาย ส่งเสริมผลักดันบทบาทสตรีให้แข็งแกร่ง ทั้งการตั้งกองทุนพลังหญิงให้ผู้หญิงทุกคนมีงานทำ มีอาชีพมั่นคงไม่มีหนี้ ตั้งศูนย์ “Wemen Care” ต่อยอดจากศูนย์พึ่งได้ ที่ทำสมัยเป็น รมว.สาธารณสุข จัดตั้ง “กองทุนแม่เลี้ยงเดี่ยว” ปัจจุบันมีแม่เลี้ยงเดี่ยวราว 370,000 คน มากกว่าพ่อเลี้ยงเดี่ยว 4 เท่า วัตถุประสงค์ให้แม่เลี้ยงเดี่ยวมีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตนเองและลูกได้อย่างมั่นคง และจะเพิ่ม ส.ส.ผู้หญิงในสภาฯด้วยโครงการ More WIP หรือ More Women in Politics เพิ่ม ส.ส.ผู้หญิงในสภาผ่านการอบรบ เสริมสร้างศักยภาพ

พช.เอื้อสิทธิสตรีฟรีผ้าอนามัย

น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พช.) กล่าวว่า วันที่ 8 มี.ค.วันสตรีสากล พรรคเพื่อชาติเชื่อว่า สิทธิสตรี=สิทธิมนุษยชน มีนโยบายส่งเสริมสิทธิสตรีและสิทธิความหลากหลายทางเพศ แจกจ่ายผ้าอนามัยฟรี ยกเลิกภาษีผ้าอนามัย เพราะถือเป็นสิทธิในอนามัยเจริญพันธุ์ที่ผู้หญิงควรได้รับ ต้องเข้าถึงได้ง่าย รับได้ฟรีตามร้านขายยา สถานศึกษา สถานพยาบาลชุมชน ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ปัจจุบันรัฐบาลจัดหาอุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศให้เพียงถุงยางอนามัยเท่านั้น แต่พรรคคำนึงถึงความหลากหลายมากขึ้น เช่น เพิ่มสัดส่วนของถุงยางนิ้ว แผ่นยางอนามัย ถุงยางอนามัยสตรี และอุปกรณ์ให้ความสุขทางเพศถูกกฎหมาย จะผลักดันแก้กฎหมายสินค้าเกี่ยวกับเพศนำออกจากกลุ่มสินค้าลามกอนาจาร เช่น ของเล่นผู้ใหญ่ (sex toy) เพื่อให้รัฐบาลควบคุมความปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาวะของคนไทยทุกคนได้

รทสช.ร่วมหนุนพลังสตรีและเด็ก

ด้านพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) น.ส.ศิรินันท์ ศิริพานิช นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี น.ส.ณัฐวรินธร บวรภัควุฒิศิริ น.ส.พัชรนันท์ โกศลสมบัติ นนท์ 4 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.หญิง ร่วมทำกิจกรรมลงพื้นที่รณรงค์สิทธิสตรี ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใสตรีทุกวัย ตามแนวคิด “พลังสตรีเด็กและเด็กหญิง ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยี สู่ความเสมอภาคระหว่างเพศอย่างยั่งยืน” ตามแนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เช่นเดียวกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.) ระบุผ่านเฟซบุ๊กพรรค ชพน.ว่า พรรคพร้อมสนับสนุนแนวคิดสตรีนิยม ตระหนักถึงความเสมอภาคทางเพศ ขอเป็นกำลังใจสนับสนุนสุภาพสตรีทุกท่านจะขอเป็นลมที่ช่วยหนุนใต้ปีกของทุกท่าน เพื่อให้ท่านได้ก้าวไปสู่จุดที่ตั้งใจไว้

“โหรวันชัย” ทายอำนาจเก่าถูกขยี้ดับสูญ

วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.โพสต์เฟสบุ๊ก “มฤตยูเข้า เขย่าอำนาจเก่าทิ้ง” ระบุว่า วันพุธที่ 8 มี.ค.2566 เวลา 21.44 น. ดาวมฤตยูเริ่มเดินหน้าเข้าสู่ราศีพฤษภ ขณะที่ดาวเสาร์เพิ่งย้ายสู่ราศีกุมภ์หมาดๆ เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องความเป็นความตายไปสู่ภพภูมิใหม่ เกิดสิ่งใหม่ วิถีใหม่ แนวทางใหม่ และผู้นำคนใหม่จะเริ่มเห็นเป็นต้นไปต่อแต่นี้ คนเก่า อำนาจเก่า ความคิดเก่า วิธีการเก่าๆ จะถูกเขย่าทิ้ง ถ้าจะว่ากันให้ชัดเจนคือ 1.อำนาจเก่า คนเก่า สูญสิ้นดับสูญ ไม่มีสิทธิ์กลับมา 2.วิธีคิดแบบเก่า การได้อำนาจแบบเก่า เอาเสียงข้างน้อยมาผสมปนเปกัน โหวตให้ได้เป็นนายกฯก่อน แล้วไปช้อนเสียงมาเพิ่ม หาทางเอาอำนาจไว้ในมือก่อน หากไม่ได้ค่อยว่ากัน แม้ทำได้แต่บ้านเมืองจะวิกฤติ มฤตยูและดาวเสาร์จะกระทืบซ้ำ ให้เป็นตายเท่ากัน 3.คนที่จะมาเป็นนายกฯในสถานการณ์ดาวมฤตยูอยู่ในราศีพฤษภเป็นคนที่คาดไม่ถึง เหมือนผีพุ่งไต้ มาได้ไงนี่ 4.การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นใหม่ เป็นผลดีต่อประเทศ ดาวมฤตยูและดาวเสาร์จะมาบดขยี้อำนาจเก่า ความเลวร้ายเก่าๆให้หมดสิ้นไป ความสว่างไสวจะบังเกิดหลังจากการเลือกตั้งในเดือน พ.ค. ถอดรหัสดวงดาวให้เห็น ใครจะเป็นเช่นไรอยู่ที่บุญวาสนาแต่ละคน ไม่ว่าจะชักดาบหรือยกดาบถวายจะสัมฤทธิ์สำเร็จหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับดาบที่ถวาย

“โรม” ร้อง ก.ต.สอบถอนหมายจับ ส.ว.

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ให้ตรวจสอบอธิบดีผู้พิพากษาฯ รองอธิบดีผู้พิพากษาฯ และผู้พิพากษา ที่นั่งบัลลังก์พิจารณาเพิกถอนหมายจับ ส.ว.ที่ถูก กล่าวหาเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดและการฟอกเงิน นายรังสิมันต์กล่าวว่า จากการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในสภาเมื่อเดือน ก.พ.ได้เปิดเผยข้อมูล ส.ว.ทรงเอเกี่ยวข้องค้ายาเสพติดและฟอกเงิน ตำรวจขอศาลออกหมายจับตอนเช้า ช่วงบ่ายยกเลิกหมายจับ ที่สำคัญศาลอธิบายคือ ได้รับฟังคำแนะนำจากอธิบดีศาลว่าบุคคลนี้เป็นบุคคลที่มีความสำคัญ ศาลไม่ทราบก่อนขอให้ถอนหมายจับ และให้ตำรวจไปออกหมายเรียกก่อน แต่ในเนื้อหาป.อาญา คดีที่มีอัตราโทษสูงอย่างยาเสพติดและฟอกเงิน ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก ออกหมายจับได้เลย ระบบกฎหมายเราไม่ได้แบ่งแยกการปฏิบัติกับ ส.ว.และบุคคลธรรมดา ทุกคนเท่าเทียมกัน เห็นว่าการถอนหมายจับอาจมีปัญหาความถูกต้องของกระบวนการยุติธรรมหรือความชอบด้วยกฎหมาย กระบวนการขอหมายจับของตำรวจถูกต้องหมด เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นในศาล หวังว่าถ้าตรวจสอบจะสร้างความยุติธรรมให้กับคดีนี้ได้ หลังจากนี้จะให้ทีมทนายนำเอกสารไปยื่นต่ออัยการสูงสุด ทั้งกรณีนายตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา รวมถึงประเด็นหลาน พล.อ.ประยุทธ์ กับนายตู้ห่าวอย่างเป็นทางการ

คุณกำลังดู: “โรม” ตามจิกร้อง ก.ต. สอบถอนหมายจับส.ว.ทรงเอ “เศรษฐา” ประเดิมลงพื้นที่

หมวดหมู่: การเมือง