“โรม” อัด “บิ๊กตู่” พัวพัน ส.ว.ทรงเอ ไม่สนประวัติ เอี่ยวทั้งค้ายา ฟอกเงิน

“รังสิมันต์” แฉ “ประยุทธ์” รู้เห็นหนุนหลัง ส.ว.ทรงเอ เอี่ยวพัวพันขบวนการค้ายา-ฟอกเงินประเทศเพื่อนบ้าน ไม่กล้าปราบทุนจีนสีเทาเพราะกลัวสาวถึงหลานชายตัวเองหรือไม่ สภานัดประชุมวันที่สองต่อ 9 โมง

เมื่อเวลา 22.19 น. วันที่ 15 ก.พ. 2566 ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกลได้กล่าวการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เรื่องขบวนการค้ายา และ การฟอกเงิน ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยแถลงไว้ว่าจะปราบปราม พร้อมเปิดเผยชื่อย่อ อ.ทรงเอ ที่อาจพัวพันกับขบวนการฟอกเงินค้ายาในประเทศเมียนมา และที่สำคัญ อ.ทรงเอ ยังเป็น ส.ว. โดยมีผู้คัดเลือกคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และนายวิษณุ เครืองาม แต่สุดท้ายคนที่คัดเลือกคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดย ส.ว. คนดังกล่าวอ้างว่า เคยทำธุรกิจชายแดนแต่เลิกกิจการไปหมดแล้วก่อนมาเป็น ส.ว. แต่ความจริงกับยังพัวพันอยู่ในการกระบวนการฟอกเงินของกระบวนการค้ายาเสพติด

จากนั้น นายรังสิมันต์ โรม ยังได้ตั้งข้อสังเกตุว่า ไม่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ทราบประวัติ ส.ว. คนนี้ อีกทั้ง ช่วงการดำเนินคดี ส.ว. คนดังกล่าว ยังพบว่ามีการเปลี่ยนจากหมายจับเป็นหมายเรียก โดยตนเองจะทำหนังสือไปสอบถามถึงกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ตรวจสอบต่อไปด้วย เพราะเรื่องนี้ถ้าไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง คนที่ไม่อยากให้ ส.ว.ถูกจับ และมีความสัมพันธ์เหนียวแน่นเพื่อใช้ประโยชน์จะไม่มีกรณีเกิดขึ้น ซึ่งนายรังสิมันต์ โรม เชื่อว่าคือ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะพื้นที่ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นของ ส.ว. คนดังกล่าว

ขณะเดียวกันยังพบว่า หุ้นส่วน ของ ส.ว. คนดังกล่าว ยังพัวพันกับกระบวนการยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งคนที่มีอำนาจขึ้นมา ไม่ได้สนใจประวัติ
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ โรม ยังกล่าวถึงทุนจีนสีเทา หรือ ตู้ห่าว โดยได้ถามหาความรับผิดชอบ ของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้กำกับดูแล ก.ตร. ว่าเหตุใดไม่จริงจังในการปราบปราม และปล่อยให้มีการทำลายหลักฐาน หรืออาจเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับหลานชายตนเองด้วยหรือไม่ และเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่ พร้อมยังอภิปรายถึง นายธรรมนัส พหรมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ที่พัวพันเกี่ยวกับทุนจีนเทา พบมีการถ่ายภาพและมอบของกำนัลเป็นกระเป๋าราคาแพงให้กัน อีกทั้ง ยังอ้างว่ามีบทบาทดึงจีนเทามาสนับสนุนทางการเงินให้กับรัฐบาล

โดยระหว่างการอภิปราย นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ประท้วงไม่เข้าใจว่า นายธรรมนัส ไปเกี่ยวอะไรกับ ครม. จึงขอ ให้ นางรังสิมายนต์ โรม อภิปรายอยู่ในกรอบ
จากนั้น นายรังสิมันต์ โรม ยังกล่าวถึงขบวนการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดน ที่คนไทยถูกหลอก พร้อมยังแฉถึงการเปิดสมาคมของกลุ่มทุนสีเทา มีการเชื่อมโยงและพยายามถ่ายรูปกับคนวงใน รัฐมนตรี และคนระดับสูง

ต่อมาเวลา 23.44 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ลุกชี้แจง โดยใช้สิทธิ์พาดพิงว่า ทุกครั้งที่เจอกับนายรังสิมันต์ โรม ก็ทักทาย ยิ้มแย้มกันมาโดยตลอด แต่เหตุใดกลับไม่สอบถามว่ารู้จักหรือเชื่อมโยงกับคนเหล่านั้นหรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่พูดมันทำให้ขาดน้ำหนัก และยืนยันว่าตนเองไม่ได้รู้จักคนในภาพ แม้แต่นิดเดียว

ทำให้นายรังสิมันต์ โรม กล่าวชี้แจงว่า ตนเองก็เชื่อว่า รัฐมนตรีไม่เกี่ยวข้อง และอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการตกเป็นเหยื่อ แต่ปัญหาคือเป็นความบกพร่องในการแก้ปัญหาของรัฐบาลชุดนี้

หลังจากนั้น ได้มีสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน กล่าวอภิปราย ถึงเรื่องการต่างประเทศ และปัญหายาเสพติด โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระรวงยุติธรรม ชี้แจงในฝ่ายรัฐบาลเป็นคนสุดท้าย

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จึงได้หารือกับประธาน ถึงการประชุมในวันที่ 2 โดยระบุว่าทางฝ่ายค้าน ยังมีเวลาในการอภิปราย 12 ชั่วโมง และรัฐบาล 3 ชั่วโมง และจะเสร็จสิ้นการอภิปรายในเวลา เที่ยงคืน ของวันที่ 16 ก.พ. 2566 พร้อมนัดประชุมสมาชิกให้มาพร้อมเพรียงในเวลา 9.00 น.

จากนั้นนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทยคนที่ 1 ที่ทำหน้าที่ประธานในขณะนั้น ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 1.30 น.

ภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์

คุณกำลังดู: “โรม” อัด “บิ๊กตู่” พัวพัน ส.ว.ทรงเอ ไม่สนประวัติ เอี่ยวทั้งค้ายา ฟอกเงิน

หมวดหมู่: การเมือง