สสส.ชวนเด็กไทยแอ็กทีฟ ปล่อยเนือยนิ่ง-โรครุมเร้า

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผช.ผจก.สสส. ดร.ทับทิม ศรีวิไล จากกองกิจกรรมทางกายภายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข น.ส.อิสรีย์ ด่านพิชิตชัยต์ รอง ผอ.ร.ร.รัตนโกสินทร์ สมโภชบวรนิเวศ ศาลายาในพระสังฆราชูปถัมภ์ และ วิกกี้–สุนิสา เจทท์ นักแสดง ร่วมเสวนา “ทำอย่างไรให้เด็กไทยแอ็กทีฟ”.
ผลการสำรวจข้อมูลด้านกิจกรรมทางกายในเด็กและเยาวชนไทย จากมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมเนือยนิ่งสูงอยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง
ส่วนกิจกรรมทางกายที่เพียงพอก็อยู่ในขั้นวิกฤติ สะท้อนถึงแนวโน้มปัญหาและผลกระทบในหลายมิติ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ พัฒนาการ และการเรียนรู้
จาก การประชุมวิชาการด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย ครั้งที่ 1 The 1st Thailand Physical Activity Conference 2022 (TPAC2022) โดยภาคีด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายของประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล ได้จัดเสวนาที่น่าสนใจ

หัวข้อเสวนาดังกล่าวคือ “ทำอย่างไรให้เด็กไทยแอ็กทีฟ” เพื่อร่วมแบ่งปันหาแนวทางลดพฤติกรรมเนือยนิ่งในกลุ่มเยาวชนไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายในเด็กและเยาวชนไทย
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผช.ผจก.สสส. กล่าวว่า ก่อนโควิด-19 เด็กไทยเพียง 23% ที่มีกิจกรรมทางกายอย่างน้อยวันละ 60 นาที ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการเคลื่อนไหวน้อยในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้นั่งนานๆ เช่น นั่งกินข้าว นั่งเรียน นั่งรถกลับบ้าน นั่งดูทีวี

“เรามียุทธศาสตร์ “EMPACT” ที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยสนับสนุนการเคลื่อนไหวร่างกายที่อยู่รอบๆ ตัวของเด็ก ประกอบด้วย Educational setting, Manage, Policy, Academic, Community และ Technology หากเด็กขยับตัวมากขึ้น อ้วนลดลง โรคภัยไข้เจ็บไม่เกิดหรือเกิดแค่ในช่วงท้ายๆ ของชีวิต นี่คือเป้าหมายของเรา”
ขณะที่ ดร.ทับทิม ศรีวิไล จากกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สธ.มีนโยบาย 3 ช่วงวัย ในการทำกิจกรรมทางกาย เริ่มตั้งแต่หญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด และเด็กปฐมวัย อายุ 0-5 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยสำคัญที่สุดที่ต้องมีการส่งเสริมพัฒนาการและการเล่น โดยขับเคลื่อนด้วยนโยบายเล่นเปลี่ยนโลก

“เราใช้คอนเซปต์ 3 F คือ Family พ่อแม่เล่นกับลูกสร้างสัมพันธภาพที่ดี Free เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา Fun เด็กต้องสนุกมีรอยยิ้ม เกิดพัฒนาการ พอถึงช่วงเป็นเด็กนักเรียน เราให้เด็กกระโดดโลดเต้นเล่น 60 นาทีในโรงเรียน ซึ่งได้เข้าร่วมกับโครงการก้าวท้าใจ ของ สสส. นำไปลงที่โรงเรียนทั่วประเทศ มีเด็กเข้าร่วมโครงการราว 5 แสนคนแล้ว”
น.ส.อิสรีย์ ด่านพิชิตชัยต์ รอง ผอ.ร.ร.รัตน โกสินทร์สมโภชบวรนิเวศ ศาลายาในพระสังฆราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ในช่วงโควิดที่ผ่านมา เด็กจะอยู่ติดกับจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์มาก รวมทั้งเรียนออนไลน์
การดึงนักเรียนให้ออกห่างจากหน้าจอมือถือต้องมีปัญหาบ้าง กระบวนการจัดการเรียนการสอนถือเป็นความท้าทายของครูในโรงเรียน ที่จะเบรกนักเรียนออกจากกิจกรรมทางออนไลน์

“ครูแต่ละคนจะมีกลยุทธ์แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นเชิงบวกในการให้คะแนน หรือดึงนักเรียนออกมาทำกิจกรรมนอกชั้นเรียน การจะทำให้นักเรียนแอ็กทีฟขึ้น ภาพรวมนักเรียนเริ่มออกมาสู่กระบวนการปฏิบัติและลงมือทำแล้ว ที่เราจะเพิ่มคือร่างแผนกิจกรรมทางกายเข้าไป ซึ่งจะช่วยกระตุ้นครูในเรื่อง KPI และลงสู่นักเรียนมากขึ้น”
ด้านนักแสดงสาว วิกกี้–สุนิสา เจทท์ ที่มีลูกชายช่วงปฐมวัย 2 คน พบปัญหาเดียวกันคือ เด็กเจเนอเรชันนี้ค่อนข้างติดบ้านไม่ค่อยอยากออกข้างนอกเพราะมีเทคโนโลยี มีสิ่งหลอกล่อให้เด็กอยู่ติดที่
รวมถึงอาจมีนิสัยดื้อบ้างตามประสาเด็ก การชวนออกมาเล่นนอกบ้าน ต้องใช้วิธีปลูกฝังให้เล่นกีฬา ซึ่งได้ผลค่อนข้างมาก มีความมั่นใจตัวเอง
ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรต้องหาเวลาพาลูกหลานไปทำกิจกรรมนอกบ้าน อาทิ วิ่งเล่น ออกกำลังกาย กันบ้าง
เป็นการสร้างสมดุลและส่งเสริมความแข็งแรงให้เด็กทุกคน ไร้โรค มีสุขภาพใจ สุขภาพกายที่ดี เพื่อเป็นพลังสำคัญให้แก่ประเทศชาติต่อไปในอนาคต.
ทีมข่าวภูมิภาค รายงาน
คุณกำลังดู: สสส.ชวนเด็กไทยแอ็กทีฟ ปล่อยเนือยนิ่ง-โรครุมเร้า
หมวดหมู่: ภูมิภาค