"ธนาธร" บรรยาย นศ.ย้ำ กระจายอำนาจท้องถิ่น ยก "ไทย-ญี่ปุ่น" เปรียบเทียบ
"ธนาธร" ประธานคณะก้าวหน้า บรรยายนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ยกบทเรียนบริหารท้องถิ่นไทย-ญี่ปุ่น ชี้ข้อต่างไทยถูกกดทับจากส่วนกลาง ไร้ทั้งอำนาจ-อิสระ-งบประมาณ ท้องถิ่น ขาดงบสร้างถนนได้แค่ปีละกิโล

"ธนาธร" ประธานคณะก้าวหน้า บรรยายนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ยกบทเรียนบริหารท้องถิ่นไทย-ญี่ปุ่น ชี้ข้อต่างไทยถูกกดทับจากส่วนกลาง ไร้ทั้งอำนาจ-อิสระ-งบประมาณ ท้องถิ่น ขาดงบสร้างถนนได้แค่ปีละกิโล ย้ำ ไม่แก้โครงสร้างปกครองท้องถิ่น พัฒนาเมืองไม่ได้

วันที่ 23 ก.พ. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ ในวิชา PO368 การบริหารจัดการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในหัวข้อ “บทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการขับเคลื่อนเมือง” โดยเน้นการถ่ายทอดสิ่งที่คณะก้าวหน้าได้ประสบการณ์มาจากการร่วมขับเคลื่อนนโยบายกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายแห่ง และตัวแบบจากต่างประเทศที่มีการปกครองท้องถิ่นที่ก้าวหน้ากว่า โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ที่คณะก้าวหน้าเพิ่งได้นำคณะนายกจากหลาย อปท. ที่ทำงานร่วมกันไปศึกษาดูงานมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ระหว่างการบรรยายช่วงหนึ่ง นายธนาธร ระบุว่า เป็นเรื่องน่าเศร้า
ที่ท้องถิ่นในประเทศไทย
สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้น้อยกว่าท้องถิ่นในต่างประเทศมาก
เพราะไม่มีทั้งอำนาจ ไม่มีอิสระ และไม่มีงบประมาณที่เพียงพอ
อีกทั้งยังถูกกดทับจากราชการส่วนกลาง
ที่เป็นแบบเดิมมาตั้งแต่การปฏิรูปการปกครองในปี 2435
แม้จะมีความพยายามกระจายอำนาจ พร้อมกับการเกิดขึ้นของ อปท.
ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแล้ว
แต่โครงสร้างการปกครองส่วนกลางก็ยังคงมีอำนาจเหนือกว่า อปท.
ในทุกระดับ
จากการที่ตัวเองได้ทำงานร่วมกับ อปท. มาหลายแห่ง
ได้มองเห็นข้อจำกัดของ อปท. ในด้านเหล่านี้มาโดยตลอด ได้เห็นภาพของ
อปท. หลายแห่งที่เหลืองบประมาณลงทุนปีหนึ่งแค่ 3 ล้านบาท
แต่ต้องแก้ปัญหาให้ 10 หมู่บ้าน
ไม่มีแม้แต่อำนาจและงบประมาณไปสร้างสะพานลอยในพื้นที่
สร้างหรือเสริมถนนได้แค่ปีละกิโลเมตร ทำน้ำประปาไม่ได้
ทำไฟฟ้าเพื่อการเกษตรไม่พอ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่ อปท.
ไม่มีทั้งอำนาจและงบประมาณ
ที่ถูกกองทิ้งไว้ที่ราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทำให้ อปท.
ต้องวิ่งเต้นขอให้ส่วนกลางอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมมาให้

นายธนาธร ยังกล่าวต่อไปว่า จากการที่ตัวเองและคณะได้ไปศึกษาดูงาน
และร่วมพูดคุยกับนายกเทศมนตรีในญี่ปุ่นมาหลายเมือง
ทุกคนต่างตกใจเมื่อได้รับรู้ว่า อปท. ในประเทศไทย
ที่มีบ่อบำบัดน้ำเสีย มีจำนวนส่วนน้อยมาก
เพราะทุกเมืองในญี่ปุ่นจะเล็กหรือใหญ่
ก็ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่ธรรมชาติทุกเมือง
และยิ่งตกใจเมื่อรู้ว่า
น้ำประปาในท้องถิ่นแทบทุกที่ของประเทศไทยยังมีปัญหาคุณภาพ
เพราะน้ำประปาญี่ปุ่นดื่มได้มา 40 กว่าปีแล้ว
โดยอยู่ภายใต้การดูแลของท้องถิ่นทั้งสิ้น
พร้อมกันนั้น นายธนาธร
ยังได้ยกรูปธรรมของการบริหารจัดการเมืองของญี่ปุ่นกับไทย
ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง โดยกล่าวถึง โอซากา
ซึ่งเป็นเมืองอันดับสองของญี่ปุ่น
มีรถไฟฟ้าในเมืองที่ดูแลโดยบริษัทโอซากาเมโทร
ถือหุ้นโดยเทศบาลเมืองโอซากาโดยสมบูรณ์
จัดการบริการขนส่งสาธารณะในเมืองของตัวเองได้อย่างเสรี
โดยไม่ต้องขออนุญาตจากโตเกียว แต่ในกรณีเช่นนี้ ประเทศไทยทำไม่ได้
เพราะนอกจากต้องขอใบอนุญาตทำบริการขนส่งสาธารณะ
ที่กรมการขนส่งทางบกแล้ว ยังต้องขออนุญาตในเรื่องต่างๆ
สารพัดจากหลายหน่วยงานของรัฐ แม้ปัจจุบันหลายเมืองในประเทศไทย
จะมีความคิดริเริ่มทำระบบขนส่งสาธารณะของตัวเองขึ้นมาแล้ว เช่น
เชียงใหม่ ขอนแก่น แต่ด้วยอุปสรรคจากรัฐราชการส่วนกลางเช่นนี้
จึงทำให้โครงการไม่ได้เริ่มต้นเสียที
และฟันธงได้เลยว่าในอีกห้าปีข้างหน้าก็จะยังไม่ได้ทำ

นายธนาธร ยังได้ยกให้เห็นอีกตัวอย่าง
นั่นคือเรื่องของอิสระทางการเงิน เช่น
การออกพันธบัตรโดยรัฐบาลระดับท้องถิ่น ที่ในญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่มาก
ท้องถิ่นแต่ละแห่งสามารถริเริ่มระดมทุนจากประชาชนได้ในวันที่ท้องถิ่นต้องการพัฒนาเมืองในด้านใดด้านหนึ่ง
นี่คือความสวยงามเมื่อเมืองมีอิสระ
แต่ที่ประเทศไทยกลับไม่สามารถทำได้
หรือแม้แต่การพัฒนาการท่องเที่ยว ที่เมืองหนึ่งที่ชื่อว่าโยโกเสะ
ในจังหวัดไซตามะ ที่ประสบปัญหาเหมือนกับหลายเมืองในญี่ปุ่น
ที่เป็นประเทศสูงอายุ อัตราประชากรเกิดใหม่น้อย
ก่อนหน้านี้กำลังจะมีการปิดสถานีรถไฟประจำเมืองเพราะผู้โดยสารน้อย
นายกเทศมนตรีกับประชาชนจึงมาหารือกัน
ได้ออกมาเป็นข้อเสนอให้เมืองพัฒนาด้านหลังของสถานีซึ่งเป็นภูเขา
ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการทำเป็นสวนน้ำแข็ง
ซึ่งในที่สุดก็ช่วยให้รักษาสถานีรถไฟเอาไว้ได้
ทำให้เมืองมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนมาก
และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้ด้วย

นายธนาธร กล่าวต่อไป
ว่านี่คือสิ่งที่เกิดได้เพราะความเป็นอิสระของเมือง
ไม่มีเพดานคือรัฐราชการส่วนกลางที่มากดเอาไว้ไม่ให้อิสระแก่ท้องถิ่นในการคิดสร้างสรรค์
เป็นการบริหารโดยเมืองใครเมืองมัน
อีกทั้งยังมีอิสระทางการเงินจากการจัดสรรงบประมาณอย่างเป็นธรรม เช่น
ภาษีรายได้บุคคลที่ญี่ปุ่น จะมีการแบ่งการจัดเก็บตั้งแต่ต้นทาง
โดยแบ่งเป็นเข้ารัฐบาลกลาง 2.16% เข้าท้องถิ่นระดับจังหวัด 2.63%
และเข้าท้องถิ่นระดับเมือง 3.95% ซึ่งต่างจากประเทศไทย
ที่ภาษีส่วนใหญ่ล้วนแต่จ่ายตรงเข้ารัฐบาลส่วนกลางทั้งหมด
กองไว้แล้วค่อยให้ท้องถิ่นวิ่งเต้นมาขอภายหลัง
“การที่เมืองท้องถิ่นในประเทศไทยถูกแช่แข็ง
ไม่สามารถพัฒนาได้มาเป็นสิบๆ ปี นี่ไม่ใช่เรื่องของปัจเจก
ไม่ใช่เพราะประเทศไทยไม่มีคนเก่ง แต่เป็นเรื่องของระบบที่เป็นอยู่
ปัญหาที่มันขึ้นทุกที่ทั่วประเทศ แล้วยังเป็นมาอย่างยาวนาน
มันจะไม่ใช่เรื่องของระบบได้อย่างไร
ถ้าประเทศไทยไม่แก้ไขโครงสร้างเรื่องนี้
เราจะแก้ไขเรื่องความไม่พัฒนาของเมืองไม่ได้เลย” นายธนาธร
กล่าว...
คุณกำลังดู: "ธนาธร" บรรยาย นศ.ย้ำ กระจายอำนาจท้องถิ่น ยก "ไทย-ญี่ปุ่น" เปรียบเทียบ
หมวดหมู่: การเมือง
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- อเมริกันแอร์ไลน์แบนหนุ่มอินเดีย ฐานเมาป่วนฉี่ใส่ ผดส.คนอื่น
- เลือกตั้ง 2566 : “จุรินทร์” ยันเชิญ “มาร์ค” ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ของปชป.แน่
- เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม “อนุทิน” ไม่กังวล “ชูวิทย์” ชี้เป้าตรวจสอบคมนาคม (คลิป)
- “ประยุทธ์” รอสวมเสื้อรับ ส.ส.ย้ายพรรคลอตใหญ่ เข้ารวมไทยสร้างชาติ 27 ก.พ.นี้
- "นิพิฏฐ์" แขวะ "ทักษิณ" รู้ทุกเรื่อง แต่ไม่รู้ จะได้กลับประเทศไทยไหม
- “ส.ส.พปชร.” จี้หน่วยงานดูแลเลือกตั้ง เข้มป้องซื้อเสียง แนะ ปชช.เลือกคนที่ผลงาน