ตรวจหอพักอุดรฯ หลังสงสัย แอม ไซยาไนด์ วางยาฆ่าสามีเป็นศพที่ 7

ไขปมหนุ่มราชบุรีวัย 36 สามี “แอม ไซยาไนด์” วูบตายในหอพักที่อุดรธานี คาดโดนวางยาเป็นศพที่ 7 เผยตอนแรกไม่มีใครสงสัย เพราะภรรยากำลังตั้งครรภ์ และอ้างว่าสามีป่วยความดัน ครอบครัวชายยังมอบทองหนัก

ไขปมหนุ่มราชบุรีวัย 36 สามี “แอม ไซยาไนด์” วูบตายในหอพักที่อุดรธานี คาดโดนวางยาเป็นศพที่ 7 เผยตอนแรกไม่มีใครสงสัย เพราะภรรยากำลังตั้งครรภ์ และอ้างว่าสามีป่วยความดันครอบครัวชายยังมอบทองหนักเกือบ 10 บาทให้ไปใช้เลี้ยงลูก ขณะที่แม่สามีบอกลูกสะใภ้มางานศพทุกวัน จนถึงวันเผา ไปลอยอังคารก็ไม่มีพิรุธให้เห็น

กรณี พนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง ออกหมายจับ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม อายุ 36 ปี ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” พร้อมของกลางสารไซยาไนด์ ที่ใช้ผสมอาหารให้ น้องก้อย นางสาวศิริพร ขันวงษ์ อายุ 32 ปี ชาว อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ผู้ตายกินและเสียชีวิต ขณะไปปล่อยปลาที่ท่าน้ำบ้านโป่ง จ.กาญจนบุรี โดยไม่ช่วยเหลือ แถมยังฉกทรัพย์สินชิ่งหนีไปด้วย การสืบสวนเชื่อมโยงถึงคดีที่มีผู้เสียชีวิตปริศนา 6 คดี ในรอบระยะเวลา 2 ปี คนตายมีตำรวจ 2 ศพ ที่เหลือเป็นชาวบ้าน

วันที่ 25 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มีการตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้นางแอม ได้มาพักอาศัยอยู่กับนายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ อายุ 36 ปีภูมิลำนาอยู่หมู่ 12 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสามีนางแอม และได้เสียชีวิตกะทันหัน เช่นเดียวกับ น.ส.ก้อย ที่หอพักแห่งหนึ่ง บ้านหนองนาหล่ำ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งนายสุทธิศักดิ์ทำกิจการปล่อยเงินกู้ ได้มาเช่าหอพักอยู่กับนางแอม เป็นหอพัก 2 ชั้น ผู้ตายและนางแอมพักอยู่ห้องหมายเลข 12

นายนิวัฒน์ โคตรแสนลี อายุ 35 ปี ผู้ดูแลหอพัก เล่าว่า นายสุทธิศักดิ์ ผู้ตาย มาเช่าห้องพักได้ประมาณ 1 เดือน ทำงานปล่อยเงินกู้ ส่วนนางแอมอ้างตัวเป็นภรรยา แต่ไม่ได้อยู่ประจำ จะเดินทางไปมา วันเกิดเหตุภรรยาผู้ตายเดินทางมาหาวันที่ 11 มีนาคม เช้าวันต่อมาได้พากันขับรถเก๋งไปวัดที่ อ.หนองหาน แต่ผู้ตายวูบล้ม และได้พาไปโรงพยาบาลหนองหานพออาการดีขึ้นได้พาผู้ตายกลับมานอนที่หอพัก ขณะภรรยานำผ้าไปซัก กลับมาพบว่าสามีนอนเสียชีวิตและมาแจ้งตนจึงได้ขึ้นไปดู พบว่าผู้ตายนอนหงาย มีเลือดทางปาก จมูก ไม่มีชีพจร ตัวเย็นและแข็ง จึงแจ้งตำรวจ ซึ่งภรรยาอ้างว่าตัวเองตั้งท้อง 3 เดือน

"ตอนเกิดเหตุก็ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะภรรยาบอกว่าผู้ตายเป็นโรคความดัน คาดว่าโรคประจำตัวกำเริบ หลังจากนำศพออกไปที่โรงพยาบาล ผมและพี่ชายก็ได้ทำพิธีทางศาสนานำพระมาสวด แต่พอรู้ว่าอาจเป็นการวางยาฆาตกรรมก็รู้สึกตกใจ และมีญาติเดินทางมาเชิญวิญญาณผู้ตายกลับบ้าน"

ส่วนแม่นายสุทธิศักดิ์ ผู้ตาย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ขณะเดินทางกลับราชบุรีว่า หลังทราบว่าลูกชายเสียชีวิต ได้เดินทางมารับศพที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน จ.ราชบุรี ซึ่งนางแอมก็ไปร่วมงานศพทุกวัน และพาลูกสาวมาด้วย นางแอมทำตัวปกติ เช้าซื้ออาหารถวายพระ เย็นก็ไปสวดอภิธรรม จนถึงวันที่ 16 มีนาคม ได้พิธีฌาปนกิจ วันที่ 18 มีนาคม แล้วก็ลอยอังคาร นางแอมไม่มีพิรุธ ซึ่งเขาเป็นเมียเมื่อไม่ติดใจ แม่ก็ไม่ติดใจ เพราะผัวเมียอยู่ด้วยกัน จึงให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

ขณะที่พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นผู้ไปตรวจหอพักที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งมีคนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุที่หอพัก จึงนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมกับให้การว่า สามีมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง ก่อนเกิดเหตุ เวลา 08.45 น. ได้ชวนกันไปทำบุญที่วัดใน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี แต่ได้แวะรับประทานอาหารที่ร้านริมทาง เมื่อกินข้าวแล้ว สามีลุกไปเข้าห้องน้ำและวูบล้มหมดสติ ได้เรียกรถ 1669 นำส่งโรงพยาบาลหนองหาน เมื่ออาการดีขึ้นหมอให้กลับมานอนพักที่บ้าน พร้อมกับยาแก้วิงเวียน อาเจียน

“ภรรยาให้การว่า เมื่อกลับมาถึงห้องพักเวลา 11.00 น. ผู้ตายได้นอนพักในห้อง ส่วนภรรยานำเสื้อผ้าออกไปซักที่ร้าน เมื่อกลับมาก็พบว่าสามีนอนเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งผู้ดูแลหอพัก และแจ้งตำรวจ ซึ่งจากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย แพทย์ระบุเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และญาติผู้ตายสงสาร น.ส.แอม จึงมอบเลสทองคำหนัก 5 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท และแหวนทอง 1 วง ให้ภรรยาผู้ตาย เพื่อเป็นเงินในการเลี้ยงดูลูก แต่หลังจากมีการเชื่อมโยงว่า น.ส.แอม เป็นฆาตกรวางยาฆ่าต่อเนื่อง ส่วนมากผู้ตายจะเป็นคนใกล้ชิด คาดว่านายสุทธิศักดิ์ น่าจะเป็นศพที่ 7 ซึ่งกองปราบมารับคดีไปแล้ว”

คุณกำลังดู: ตรวจหอพักอุดรฯ หลังสงสัย แอม ไซยาไนด์ วางยาฆ่าสามีเป็นศพที่ 7

หมวดหมู่: อาชญากรรม