“วราวุธ” แจงคำสั่งนายกฯ ปมอธิบดีอุทยาน-ปิด 8 อุทยานป้องลอบเผาป่าก่อ PM 2.5

“วราวุธ” แจงคำสั่งนายกฯ ปมอธิบดีอุทยาน-ปิด 8 อุทยานป้องลอบเผาป่าก่อ PM 2.5

“วราวุธ” รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ แจงคำสั่ง “บิ๊กตู่” ปมดึงตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ ไปสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการให้แทรกแซง พร้อมสั่งปิด 8 อุทยานฯ ป้องลักลอบเผาป่าก่อ PM 2.5

เวลา 17.00 น. วันที่ 16 ก.พ. 2566 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี หรือ การอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 และตอบข้อซักถามของ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ว่า จำเป็นที่จะต้องตอบในข้อสงสัย เริ่มจากเรื่องอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถึงคำสั่งของนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 28 ธ.ค. 2566 เพราะไม่อยากให้ตัวอธิบดีเข้ามาวุ่นวาย หรือแทรกแซงการสอบสวนที่ตั้งขึ้น

ทั้งนี้ การที่นายกรัฐมนตรีดึงไปอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นความตั้งใจที่จะป้องกันไม่ให้มีการเข้ามาแทรกแซงของอธิบดี ซึ่งเมื่อครบ 7 วัน ได้ข้อสรุปว่าจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่ามีความผิดทางวินัย จึงตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง กระทั่งมีการลงนามในคำสั่งโดยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนการตั้งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีการคำนึงถึงความเหมาะสม เลือกจากอธิบดีด้วยกัน จะได้ไม่มีการย้ายมากจนเกินไป ไม่ได้คำนึงว่าเป็นญาติหรือมีดองกับใคร แต่คำนึงศักยภาพการทำงาน ขณะนั้นที่มีการตรวจสอบประวัติไม่มีความบกพร่อง และไม่มีคดี

ส่วนประเด็นการปลูกป่าทิพย์ คนทิพย์โครงการป้องกันช้างป่า นายวราวุธ แจงว่า กำลังให้กรมฯ เร่งชี้แจง เมื่อได้ข้อมูลจะชี้แจงต่อไป แต่ขอบคุณที่มีการตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัย หากมีข้อมูลเพิ่มเติมขอให้ส่งมาและนำไปดำเนินการกับผู้กระทำความผิด

ในเรื่องการทำแนวกันไฟ ที่ผ่านมาทำเป็นพื้นที่ๆ ไป โดยส่วนใหญ่คำนวณที่แปลงปลูกป่า 100 ไร่ ทำแนวกันไฟ 1 กิโลเมตร พื้นที่ภาคเหนือมีพื้นที่จะต้องทำแนวกันไฟหลายหมื่นไร่ การทำครั้งหนึ่งต้องมีความกว้างประมาณ 8-10 เมตร ตัดไม้เรือนยอด และมีการทำงานร่วมกับประชาชนในพื้นที่ด้วย เนื่องจากมีการให้เงินอุดหนุนเครือข่ายราว 1,200 ชุมชน ชุมชนละประมาณ 50,000 บาท

นอกจากนี้ เรื่องไฟป่าที่เป็นต้นตอของฝุ่น PM 2.5 เมื่อเช้าที่ผ่านมา นาวราวุธ ระบุว่าขอให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งปิดอุทยานฯ 8 แห่ง ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติออบหลวง, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย, อุทยานแห่งชาติศรีน่าน, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น, อุทยานแห่งชาติผาแดง, อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท, อุทยานแห่งชาติแม่ยม และอุทยานแห่งชาติแม่ปิง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเผามากขึ้น ส่วนในพื้นที่ป่าสงวนขอให้ทางแม่ทัพภาคที่ 3 ประสานงานใกล้ชิดกับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดพิจารณาปิดพื้นที่ป่าที่จำเป็นในแต่ละพื้นที่ ให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด

ส่วนข้อซักถามของ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวของรัฐบาลที่สมาชิกสงสัยว่ายังไม่คลอดออกมา และเป็นการฟอกเขียวของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายวราวุธ ระบุว่า ก่อนที่จะมีการประชุม COP27 เมื่อปลายปี 2565 ที่ประเทศอียิปต์ แผนยุทธศาสตร์ระยะยาวในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำ มีการส่งไปยัง UNFCCC แล้ว พร้อมยืนยันว่าเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกของรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องการฟอกเขียว การที่บริษัทใหญ่ๆ ใช้เงินของตนเองมาแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่วนตัวคิดว่าเมื่อเป็นคนผูกก็ต้องเป็นคนแก้ เพราะถ้าไม่ทำก็ต้องตกมาเป็นภาระของรัฐบาลที่ไม่ได้เป็นคนผลิต เนื่องจากเกิดขากบริษัทใหญ่ๆ ทั้งนั้น ก่อนที่จะจบการชี้แจงในเวลา 17.05 น.

คุณกำลังดู: “วราวุธ” แจงคำสั่งนายกฯ ปมอธิบดีอุทยาน-ปิด 8 อุทยานป้องลอบเผาป่าก่อ PM 2.5

หมวดหมู่: การเมือง

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด