"แอมเนสตี้ไทย" พาญาติเหยื่อ บุกร้อง ยธ.จี้ ยุติขยายเวลา พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

"แอมเนสตี้ไทย" พาญาติเหยื่ออุ้มหาย บุกร้องกระทรวงยุติธรรม จี้ ยุติการขยายระยะเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและอุ้มหาย หวั่น กฎหมายจะกลายเป็นแค่เสือกระดาษ
วันที่ 21 ก.พ. ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.ปิยนุช โคตรสาร ผอ.แอมเนสตี้ ประเทศไทย นำญาติผู้เสียหายจากการทรมานและอุ้มหาย นำโดย นางกัญญา ธีรวุฒิ มารดา นายสยาม ธีรวุฒิ นักเคลื่อนไหวที่หนีคดี ม.112 ลี้ภัยไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน และกลายเป็นบุคคลสูญหาย ฯลฯ เดินทางเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ผ่าน นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ขอให้ยุติการเลื่อนหรือขยายระยะเวลาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและอุ้มหาย ในบางมาตราออกไป

น.ส.ปิยนุช เผยว่า แอมเนสตี้ ประเทศไทย ได้ติดตามความคืบหน้าของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ที่จะมีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 นี้มาโดยตลอด เเต่การชะลอการบังคับใช้กฎหมายที่มีการผลักดันมามากกว่า 10 ปี และถือเป็นกฎหมายสำคัญ ที่นำไปสู่การป้องกันการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายในประเทศไทย นำไปสู่การตั้งคำถามถึงความจริงใจของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้เสียหายและครอบครัว ให้ได้รับสิทธิเรียกร้องตามกระบวนการยุติธรรม จากกรณีที่ถูกทรมานและบังคับให้สูญหาย


“การที่ ครม.มีมติขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ในมาตรา 22-25 ออกไปนั้น ส่งผลให้ผู้เสียหายไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรม และเป็นเหตุให้ผู้เสียหายคนอื่นไม่กล้าออกมาร้องเรียน ทั้งยังส่งสัญญาณต่อเจ้าพนักงานว่า พวกเขาอาจกระทำการละเมิดเช่นนี้ได้อีกโดยไม่ต้องรับโทษ ความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายไม่เพียงเเต่มีผลกระทบต่อสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม เเต่ยังคงส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในเรื่องความมุ่งมั่นต่อสิทธิมนุษยชน" ผอ.แอมเนสตี้ ประเทศไทย กล่าว...

คุณกำลังดู: "แอมเนสตี้ไทย" พาญาติเหยื่อ บุกร้อง ยธ.จี้ ยุติขยายเวลา พ.ร.บ.อุ้มหายฯ
หมวดหมู่: การเมือง