"อาทิตย์ ริว" เปิดใจครั้งแรก ปมโพสต์ถึง "หนุ่ม กรรชัย" อยากนัดเจอ เพราะมีเหตุผล
เจตนาดี ไม่ได้มีปัญหา "อาทิตย์ ริว" เปิดใจครั้งแรก ปมโพสต์ถึง "หนุ่ม กรรชัย" อยากนัดเจอ เพราะมีเหตุผล?

หวนกลับมารับงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง สำหรับอดีตพระเอกหน้าใสแห่งยุค 90's อาทิตย์ ริว หรือ ริว-อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์ ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้เดินทางมาร่วมแสดงโชว์พิเศษ!! กลางงานแถลงข่าวซิงเกิ้ลใหม่ แพ้เป็นแค่คำเท่านั้น ของศิลปินหนุ่มอารมณ์ดี ฟ้าว์เฟี้ยว สุดสวิงริงโก้ ในฐานะพระเอกมิวสิควิดีโอ
พร้อมกันนั้น อาทิตย์ ริว ยังถือโอกาสนี้เปิดใจถึงหลากหลายเรื่องราวดราม่า รวมทั้งอัปเดตชีวิตความเป็นอยู่ หลังชื่อของเจ้าตัวกลับมาเป็นที่พูดถึงและถูกจับตามองอีกครั้ง ...
ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่หลายคนยังสงสัย
เรื่องที่เราโพสต์เฟซบุ๊กถึง หนุ่ม กรรชัย
จนถูกเข้าใจผิดว่ามีปัญหากัน ?
"จริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยครับ คือประมาณว่าผมเคยไปหาพี่หนุ่ม
ที่ช่อง 3 ไปหาอยู่ประมาณ 2 ครั้ง แต่ไม่มีโอกาสได้เจอ
ซึ่งผมตั้งใจจะเอาพระสมเด็จฯ ไปให้
เพราะผมอยากจะเจอกับผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการบันเทิง
แต่ด้วยความที่พี่หนุ่มเขายุ่งกับการทำงาน
เราก็เลยยังไม่มีโอกาสได้เจอกัน
และพวกเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันด้วยครับ"
"สำหรับข้อความที่ผมโพสต์ไปแบบนั้น มันอารมณ์เหมือนเราเป็นคนรู้จักกันอ่ะครับ 'มาเลยตัวต่อตัว กินกาแฟกันเดี๋ยวเลี้ยง' ประมาณนี้อ่ะครับ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอเลย"
"จนถึงตอนนี้ได้คุยหรือได้นัดแนะพบปะกันบ้างหรือยัง
?
ยังไม่ได้เจอเลยครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่พี่หนุ่ม
เพราะเท่าที่ทราบมาช่วงพี่เขาก็ทำงานหนัก"
ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากันจนทำให้เราต้องโพสต์ระบาย
?
ไม่มีครับ ผมกับพี่หนุ่มเราไม่เคยมีปัญหากัน
และเราก็ยังเคยร่วมงานกันด้วย
เจตนาเราแค่ตั้งใจจะนำพระไปมอบให้ ?
ใช่ครับ ตั้งแต่ผมสึกออกมา ผมก็เตรียมพระไว้ให้พี่นะครับ คิดถึง
(ยิ้ม)
ประเด็นซื้อรถมือสอง คนเข้าใจว่าตอนนี้ชีวิตเราดีขึ้นแล้ว
?
ไม่ใช่เลยครับ ผมยังไม่ได้รับงานอะไรเลย มีแค่ถ่ายมิวสิควิดีโอเพลงนี้
กับถ่ายรีวิวเต้นท์รถ รีวิวว่ารถรุ่นนี้เป็นยังไงในยุค 90's
ก็คือด้วยความที่ผมผ่านรถมาเยอะในสมัยก่อน และมีความชื่นชอบในสายรถ
ดังนั้นพอมีคนติดต่อมาให้ผมพูดเกี่ยวกับรถ
ม้นก็พอดีเลยเป็นความรู้เก่าที่เราได้นำมาใช้
ส่วนเรื่องรถที่ออกมา ก็... ผมคิดว่าขอเป็นเรื่องส่วนตัวบ้างนิดหนึ่ง เพราะจริงๆ ตัวผมเองก็มีงานที่ผมทำอยู่ เพียงแต่เราไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่องเท่านั้นเอง
ทุกวันนี้เวลาเดินทางไปเที่ยวไปต่างจังหวัด
เราเดินทางยังไง ?
ก็นั่งเครื่องบินบ้าง ขับรถไปเองบ้าง นั่งรถทัวร์บ้าง
และก็ยังอยากนั่งรถไฟเหมือนเดิม คือผมสามารถเดินทางได้ทุกรูปแบบ
แม้แต่การเดิน 10 กิโลฯ 20 กิโลฯ ถ้าจังหวะที่ไม่มีเงินก็เดิน
ก็คือไม่ได้มีรถส่วนตัว ?
ถ้าเรื่องรถ จริงๆ ก็มีพี่ๆ หลายคนครับที่เขาเสนอว่า 'ริวมาเลย
มาเชียงราย เอารถให้ใช้ไว้คันหนึ่ง' ก็คือผมไม่ต้องซื้อ
ไปที่ไหนก็มีคนบอกว่า 'เอารถใช้นะ ไม่ต้องเสียเงินค่ารถ'
หรือบางครั้งก็จะแบบ 'ริวมานี่นะเดี๋ยวโอนค่าตั๋วเครื่องบินให้'
คือบางคนเขาคิดถึงอยากเจอผม เพื่อนๆ อยากเจอหน้ากัน
ซึ่งบางคนเขาพอมีฐานะ แต่ว่าตัวผมเองไม่เคยขอเงินใครนะครับ
ประเด็นที่มีคนออกมาโพสต์ว่าเราสร้างคอนเทนต์ลำบาก
?
ครับผม ก็อย่างเรื่องกฐินนะครับ ผมเป็นคนบวชพระ
ฉะนั้นเรื่องทำลายพระพุทธศาสนาผมคงไม่อาจเอื้อมที่จะทำแบบนั้น
และอีกอย่างคือ การทำกฐินผมได้ส่งเงินไปทำบุญจริงๆ ผมส่งไปหลายที่
แยกสายส่งไปช่วยๆ กันเพื่อร่วมสร้าง
ซึ่งจะสร้างมากสร้างน้อยแต่เราก็ได้ร่วม
ดังนั้นการที่เรื่องนี้เป็นข่าว ผมเองก็อยากจะบอกเหมือนกันว่า 'ทำบุญนั้นไม่ต้องคิดอะไร ถ้ามีใจที่จะให้ก็เรื่องของเขา เขาสบายใจนั่นก็คือความสุขของเขา เขาไม่ทำหรือใครทำ ก็ไม่ควรจะไปตำหนิ เพราะว่าเราก็ไม่ได้รู้ความจริงทั้งหมด' อีกอย่างในเฟซบุ๊กผมเอง ผมก็ไม่ได้พูดทุกเรื่อง หรือทำให้เห็นการกระทำในทุกๆ ขั้นตอน ชีวิตทุกคนก็ภาพที่อยากจะนำเสนอ และไม่อยากนำเสนอ ฉะนั้นในเฟซบุ๊กช่วงแรกที่ผมเล่น ผมอาจจะเป็นตัวเอง แต่พอช่วงหลังมีคนติดตามเยอะผมก็ต้องระวังครับ ต้องระวังการใช้สื่อ เวลาจะพิมพ์อะไรก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ต้องรอบคอบ
ได้พูดคุยกับคนที่โพสต์แล้วใช่ไหม ?
เป็นเพื่อนสนิทครับ
และก็ได้ให้เพื่อนอีกคนที่สนิทโทรไปพูดคุยเพื่ออธิบายเรื่องราวต่างๆ
จนเข้าใจกันแล้ว ส่วนตอนแรกที่ผมบอกว่าผมจะฟ้อง
ก็ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว คิดว่าเราควรจะให้อภัยกัน ปรับความเข้าใจกัน
และกับเพื่อนคนนั้นก็สามารถกลับมาทานข้าวกันได้ (ยิ้ม)
อัปเดตชีวิตตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“หลังจากที่ได้เปิดเผยชีวิต ที่ยังไม่มีใครเคยรู้ว่าผมทำอะไรบ้าง
หลังจากที่บวช หรือเข้าไปเกี่ยวกับธรรมมะ
มันก็ทำให้ผมมีความรู้สึกหนึ่ง ใครๆ
ก็ทราบดีว่าผมเคยเข้ารักษาไบโพลาร์ ที่โรงพยาบาลจิตเวช
ปรากฎว่าธรรมมะช่วยจิตใจผมได้เยอะ
หนึ่งทำให้ผมไม่ต้องไปคิดวุ่นวายกับทางโลก
สองผมได้เข้าใจในหลักธรรมมะแล้วก็การปฏิบัติที่ทำให้เราอยู่กับธรรมชาติ
เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดว่าควรจะใช้ชีวิตแบบไหน
ควรจะหลักเลี่ยงเส้นทางไหนที่เราเคยเดินกันมา แล้วทำให้ชีวิตเราแย่ลง
มันเท่ากับว่าทำให้ผมมีสติมากขึ้น เลยเป็นที่มาที่ไป
ที่ผมไปมีชีวิตส่วนตัวที่ไม่ต้องการชื่อเสียง อยู่เงียบๆ
อยู่แบบธรรมชาติ พอขึ้นกรุงเทพฯ มา ก็มาค้าขาย
ไม่ได้จะมาทำธุรกิจอะไรใหญ่โตเหมือนเมื่อก่อน คิดว่าทำเพื่อส่วนตัว
วันหนึ่ง 2-3 ร้อยก็พอแล้ว
แต่คิดว่าถ้าเราเอาชื่อเสียงของเรามาใช้ให้เป็นประโยชน์
หรือถ้ามีโครงการอะไรให้ร่วม แล้วมีประโยชน์ต่อสังคม ผมก็ยินดีไปช่วย
ไม่ว่าจะน้ำท่วม หรือรณรงค์เพื่อคนยากลำบาก ผมยินดีอยู่แล้ว
ในเรื่องการทำบุญ หรือการเป็นหัวเรือในการช่วยเหลือสัมคม ผมอยากทำ
เพราะชื่อเสียงครั้งนี้ ก็ไม่ได้คิดว่ากลับมาง่าย
แต่ว่าก็กลับมาได้จากกำลังใจของทุกคนที่ส่งมา
และเปิดโอกาสให้ผมได้มาทำงาน ได้มาพบปะกับแฟนคลับที่เคยชมละคร
การกลับมาในวงการบันเทิงครั้งนี้ตื่นเต้นไหม
?
ถามว่าตื่นเต้นไหม ช่วงแรกอาจจะเครียดนิดหน่อย
เพราะว่ามันทำให้เราไปไหนมาไหน คนก็จำได้อีก มีแต่คนขอถ่ายรูป
หลายคนจำหน้าผมได้แล้ว ถึงแม้ว่าผมยังไม่ขึ้น ยังสั้นอยู่
เพราะชอบบวชตัวเอง
งานในวงการตอนนี้มีอะไรบ้าง ?
ถามว่ามีติดต่อมาไหม
ก็อยู่ระหว่างการพูดคุยครับว่าตัวผมอยากเดินทางไหน เล่นละคร เล่นหนัง
ก็มีคนพยายามปรับบทให้เข้ากับตัวผม ณ ปัจจุบัน
หมายถึงว่าให้ผมไปเล่นเป็นนักเรียนเหมือนเมื่อก่อนคนไม่ใช่แล้ว
มันก็ตามวัยแล้ว ปีนี้ผม 44 ย่าง 45 แล้ว
ส่วนใหญ่งงานติดต่อมาเป็นแบบไหน ?
เป็นละคร หนังก็มี แล้วก็เป็นงานเพลง ซึ่งผมก็มีเพลงที่ทำไว้ตั้งแต่ 9
ปีที่แล้ว เพื่อเป็นการสั่งลา
คือเราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เราจะอยู่หรือเปล่า
แต่เราก็อยากจะมีเพลงเพลงหนึ่ง ที่เราอยากจะฝากทุกคนไว้
มันต้องฟังครับ ชื่อเพลง แสงแห่งดวงอาทิตย์ (Sunshine) แต่งเองครับ
ทำเสร็จแล้ว ตอนนี้อยากจะหานางเอก MV แล้วก็ทำดนตรีใหม่ ร้องใหม่
ลงทุนเองครับ เมื่อ 9 ปีที่แล้วจ้างนักดนตรีของแกรมมี่มาเล่น
โปรดิวเซอร์ก็แกรมมี่ครับ ทำในห้องอัดเรียบร้อยแล้ว เป็นมาชเตอร์
แต่เก็บไว้ในยูทิวบ์ อีกไม่นานน่าจะได้ดูกัน ให้เพลงของเบลล์ดังไปก่อน
นางเอก MV ตอนนี้กำลังเฟ้นหา เพราะส่วนใหญ่แฟนคลับผมหน้าตาดี
พร้อมกลับมาทำงานในวงการบันเทิงแบบจริงจังไหม
?
ถามว่าพร้อมไหม ถึงตอนนี้ก็ให้ทุกคนตัดสินใจว่าผมพูดรู้เรื่องไหม
หรือว่าทุกคนยังมีความคลางแคลงใจอยู่ หรือจับผิดว่าต้องดูไปเรื่อยๆ
ก่อน หรือผมพูดอะไรแบบไม่มีสติสัมปชัญญะ
มันเป็นปมในใจเรา ?
ที่ผ่านมามันกลายมาเป็นคนเชื่อสื่อไงครับ
แต่ผมไม่โทษแล้วนะหมายถึงว่าเราผ่านเรื่องราวเก่าๆ ไปแล้ว
เราเอาตอนนี้ดีกว่าว่าเราเป็นคนใหม่แล้ว
ตั้งรับคอมเมนต์ด้านลบได้ดีแล้ว ?
ถามว่าตั้งรับได้ดีไหม ผมพลาดเข้าไปอ่านก็จิตตกเหมือนกัน
ต้องยอมรับว่ากระแสความคิดมี 2 ทาง มีทั้งให้กำลังใจและซ้ำเติม
ผมพยายามที่จะเอาตาไปมองข้างบน ไปมองดอกไม้สวยๆ มองเมฆสวยๆ
มองทะเลสวยๆ มองธรรมชาติที่ไม่วุ่นวายกับกระแสความคิด
แล้วก็นั่งสมาธิสวดมนต์ ทำบุญ ให้อาหารลิง ให้อาหารปลา
ให้อาหารสัตว์อะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ในธรรมชาติที่เขามีความสุขของเขา
เราก็เอาความสุขของเราไปแบ่งปันเขา
มีเงินผมก็ไม่ได้คิดว่าเก็บไว้กับตัวเอง เปล่า
ผมก็คิดว่าผมได้เงินมาก็ผมอยากช่วยแบ่งปัน
การกลับมาครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนลุคเพิ่มเติมไหม
?
อาจจะทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ลดน้ำหนัก แต่ว่าตัวเองยังมีความสนุกอยู่
จริงๆ แล้วความเป็นตัวผมเป็นคนที่สนุกสนาน ร่าเริง ขี้เล่น
แต่แค่ว่ายังไม่ถึงเวลาที่ผมจะโชว์อะไรอย่างนั้น
สภาพจิตใจตอนนี้ ?
ที่ผ่านมามีคุณหมอจากโรงพยาบาลโทรมาจะให้คำปรึกษา ถ้ามีอะไรเครียด
ถ้ามีกระแสทางโซเชียลก็อย่าไปติดตามมากเพราะเดี๋ยวจะทำให้จิตตก
แล้วก็มีได้พูดคุยกันถึงอาการเดิมที่มีซึมเศร้า
ตอนนี้ยังเศร้าไหมหรือว่าหายแล้ว แต่จริงๆ ผมขอบอกตรงๆ
ว่าไบโพลาร์หรือซึมเศร้า
หรืออะไรที่เป็นอีกขั้วนึงเป็นอาการสองขั้วทางสมอง
หรือสารเคมีไม่ตรงกันก็แล้วแต่นั่นคือทางวิชาการ
แต่ในทางธรรมชาติก็คือมนุษย์เรามีอารมณ์ดีก็อารมณ์ดี เจอเรื่องราวดีๆ
ก็มีความสุข ถ้าเจอเรื่องเศร้าๆ มันก็เศร้า
เพราฉะนั้นมันเป็นเรื่องปกติของธรรมชาติของมนุษย์ว่ามีทั้งดีและไม่ดี
มีทั้งแฮปปี้และซึมเศร้า เจอเรื่องเศร้ามันก็เศร้าเราจะไปห้ามก็ไม่ได้
แต่แค่ว่าในทสงธรรมะก็ว่าเราต้องเดินสายกลาง เศร้าก็เศร้าแป๊ป
สุขก็สุขแป๊ป เดี๋ยวมันก็หาย ถามว่ามีอะไรน่าเป็นห่วงไหม ก็มีครับ
น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องสุขภาพตัวเอง เนื่องจากวัยเลยล่วงมาครึ่งคนแล้ว
เหลือเวลาอีกครึ่งชีวิตที่จะทำอะไรทิ้งไว้ ที่ผ่านมาคือสู้ชีวิตมาก
ลากของ ขายขงมือสองก็กระเป๋าเยอะก็ต้องแบก
ทีนี้ด้วยความที่เคยเกิดอุบัติเหตุนานมาแล้ว ตอนนั้นที่รถระเบิด
ก็ทำให้กระดูสันหลังทับเส้นประสาทเรื้องรัง
ก็เริ่มมีอาหารมาสักระยะแล้ว หมอก็บอกว่าให้รีบรักษาซะ.
ต้องทำกายภาพบำบัด ?
ต้องมีนวด แล้วก็ออกกำลังกายด้วย
เพราะว่าถ้าปล่อยให้เรื้อรังนานกว่านี้ก็อาจจะเดินไม่ได้
แต่ผมก็ไม่กังวลว่าจะเกิดปัญหากับการทำงาน
ก้อย่าไปแบกของหรือยกของผิดท่า ออกกำลังกายพอประมาณ
ทำอะไรก็ได้ให้มันพอดีๆ
ยังขายของมือสองอยู่ไหม หรือไม่มีเวลา ?
จริงๆ ไปได้ แต่ที่ผ่านมาผมขึ้นเหนือ ไปอีสาน
แล้วไปถ่ายทำรายการท่องเที่ยวของตัวเอง
ไปถ่ายบนภูเขาที่เป็นอันซีนที่จังหวัดเชียงราย ก็ไปจริง
เกือบตายมาแล้ว เกือบตกเหว ก็ถ่ายหมดแล้ว
รอใครมีฝีมือในการตัดต่อก็มาช่วย ผมก็พาไปดูธรรมชาติ ก็รอตัด
ฝากติดตามในติ๊กต๊อก เฟซบุ๊ก
และถ้ายูทูบเสร็จค่อยปล่อยโปรโมทกันอีกที
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ ของ "อาทิตย์ ริว" เปิดใจครั้งแรก ปมโพสต์ถึง "หนุ่ม กรรชัย" อยากนัดเจอ เพราะมีเหตุผล
คุณกำลังดู: "อาทิตย์ ริว" เปิดใจครั้งแรก ปมโพสต์ถึง "หนุ่ม กรรชัย" อยากนัดเจอ เพราะมีเหตุผล
หมวดหมู่: ความบันเทิง