ยืนยันไฟไหม้เรือไฟฟ้า ไม่ได้เกิดจากแบตเตอรี่ ยังไม่มีการชาร์จไฟเข้าระบบ

รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่ไฟฟ้า ที่ท่าเทียบเรือ ใน อ.พระประแดง เผยเรือที่เกิดเหตุเป็นเรือที่ต่อมาใหม่ ยังไม่มีการใช้งาน อยู่ในระหว่างตรวจสอบระบบทั้งหมด..

ยืนยันไฟไหม้เรือไฟฟ้า ไม่ได้เกิดจากแบตเตอรี่ ยังไม่มีการชาร์จไฟเข้าระบบ

รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่ไฟฟ้า ที่ท่าเทียบเรือ ใน อ.พระประแดง เผยเรือที่เกิดเหตุเป็นเรือที่ต่อมาใหม่ ยังไม่มีการใช้งานอยู่ในระหว่างตรวจสอบระบบทั้งหมด ด้านประธานบริษัทฯ ยืนยันเป็นไปไม่ได้ที่ไฟไหม้เกิดจากแบตเตอรี่ เพราะเรือไม่มีการชาร์จระบบ ยังไม่ได้ต่อไฟเข้าแบตฯ


จากเหตุเมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 21 ก.พ. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ได้รับแจ้งแหตุเพลิงไหม้เรือนำเที่ยว บริเวณท่าเทียบเรือ ปิยะศิริวานิช เลขที่ 59 หมู่ที่ 2 ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ที่เกิดเหตุเป็นท่าเรือเอกชน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเพลิงลุกไหม้ตัวเรืออย่างรุนแรง พบเพลิงลุกไหม้เรือโดยสารเสียหาย จำนวน 3 ลำ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

ต่อมาเวลา 15.00 น. นายวิเชียร เปมานุกรรักษ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ เผยว่า ในเบื้องต้นด้านกรมเจ้าท่าโดยรมว.คมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มอบหมายให้ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมเจ้าท่า มาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสั่งการให้มาตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งกรมเจ้าท่าไม่ได้นิ่งนอนใจในประเด็นนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลภายใน 7 วัน โดยมอบหมายให้พื้นที่กรมเจ้าท่าภาคที่ 6 นำทีมงานมาหาข้อเท็จจริง และสรุปรายงาน แต่การตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าเรือลำนี้ เป็นเรือที่ต่อมาใหม่ ยังไม่มีการใช้งาน และยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบระบบทั้งหมด การที่เรือจะออกไปใช้งานได้นั้น ต้องผ่านข้อบังคับการตรวจเรือ ของเรือไฟฟ้า ปี 2563 เรือที่ผ่านการตรวจแล้วจะมีความปลอดภัย และจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตอนนี้ทางบริษัทกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อจะไปยื่นขอใบอนุญาต แต่เอกสารยังไม่ถึงมือกรมเจ้าท่า เมื่อถึงมือกรมเจ้าท่าก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเรือมาตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด ทั้งตัวเรือ ด้านความปลอดภัยของตัวเรือ ระบบไฟฟ้าของตัวเรือ เมื่อผ่านการตรวจแล้ว จึงออกใบอนุญาตใช้เรือที่มีความปลอดภัยสูง

ส่วนที่เกิดเหตุ เป็นสถานที่นำเรือมาตรวจเช็กระบบ โดยไปต่อเรือมาจากจังหวัดระยอง และเอามาตรวจเช็กระบบ ยังไม่ได้ส่งมอบให้บริษัท อยู่ระหว่างตรวจเช็กระบบต่างๆ ของเรือ ส่วนความเสียหายนั้นคาดว่าหลายล้านบาท ที่เสียหาย คือ เรือ 3 ลำและตัวโป๊ะเทียบเรือด้วย โดยทางกรมเจ้าท่าสั่งห้ามใช้ท่าเทียบเรือ จนกว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุง ตามคำสั่งของกรมเจ้าท่า

"ท่าเทียบเรือเป็นของอีเอ เป็นท่าเทียบเรือของเรือระบบไฟฟ้า ในเบื้องต้นตอนนี้ไฟได้ดับสนิทแล้ว ความเสียหายได้เห็นจากภาพเมื่อเช้าเกิดในช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น โดยพรุ่งนี้ กรมเจ้าท่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมาตรวจสอบพิสูจน์กันอีกที คงได้ข้อเท็จจริงมากขึ้น ทั้งกองพิสูจน์หลักฐาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด"

ด้าน น.ส.วิมลมาศ วงมกรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมน์ โมบิลิตีริเสิร์ซ จำกัด กล่าวว่า เบื้องต้นได้จัดการหน้างานและสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ตรวจสอบว่าปัญหาเกิดจากอะไรได้บ้าง เมื่อช่วงบ่ายทาง กกพ.ลงตรวจสอบหน้างาน และตามที่ข่าวได้ออกไปว่าเป็นเรื่องปัญหาการชาร์จแบตเตอรี่นั้นไม่เป็นความจริง โดยตัวระบบชาร์จยังปกติอยู่ เว้นแต่ความเสียหายที่เกิดจากเพลิงเข้าไปไหม้บ้าง ที่หน้าจอและสายชาร์จ ส่วนปัญหาด้านเทคนิคได้มีการตรวจสอบจากทีมวิศวกรรมทั้งหมดว่ามันจะเกิดจากอะไรได้บ้าง แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากการชาร์จแบตเตอรี่ เพราะเรือลำนี้ยังไม่ได้มีการชาร์จระบบและยังไม่ได้ต่อไฟเข้าแบตเตอรี่ ส่วนเพลิงไหม้ที่เกิดอาจเกิดจากบุคคล ซึ่งต้องดูว่าเกิดผิดพลาดในการดำเนินการตรงไหนได้บ้าง โดยอู่นี้เป็นอู่ตรวจสอบระบบก่อนส่งให้บริษัท ไทยสมายบัส และมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไปบางส่วนแล้วแต่มุมที่เห็น เห็นได้ไม่หมดว่าใครเข้ามาบ้าง ขอยืนยันจากการตรวจสอบด้านวิศวกรรมเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะเกิดจากแบตเตอรี่ และตัวแบตเตอรี่เป็นตัวที่ใช้ในเรือกันมานานมากแล้ว ไม่เคยเกิดปัญหา

คุณกำลังดู: ยืนยันไฟไหม้เรือไฟฟ้า ไม่ได้เกิดจากแบตเตอรี่ ยังไม่มีการชาร์จไฟเข้าระบบ

หมวดหมู่: ภูมิภาค

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด